การศึกษาวิเคราะห์แนวคิดเชิงจริยธรรมที่ปรากกฎอยู่ในหนังสือกฎหมายตราสามดวง

An analytical study of the ethical concepts in the books of the Trasamduang Law

Name: ธีวรา ชวภัควิทยา

ThaSH: กฎหมายตราสามดวง

ThaSH: จริยธรรม

Abstract: การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์แนวคิดเชิงจริยธรรมที่ปรากฎในหนังสือกฎหมายตรา สามดวง โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยอาศัยเอกสารทางประวัติศาสตร์ ใช้แนวการเขียนแบบพรรณนา วิเคราะห์เชิงจริยศาสตร์ ผลการศึกษาพบว่า กฎหมายตราสามดวง เป็นกฎหมายที่ตราขึ้นในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช (รัชกาลที่1) แห่งกรุงรัตนโกสินทร์พระปฐมบรมราชวงศ์จักรี ส่วนแนวคิดที่ได้จากการศึกษากฎหมายตรา สามดวงทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการเมืองการปกครอง ด้านสังคม วัฒนธรรม และศาสนา และด้านเศรษฐกิจ มีหลัก แนวคิดเดียวกัน คือ เพื่อสั่งสอนให้ทุกคนเป็นคนดี และลงโทษผู้กระทำ ผิดเพื่อไม่ให้คนอื่นนำ มาเป็นพฤติกรรม แบบอย่างในสังคม ส่วนบทตอบแทนทางสังคม เน้นที่การปฎิบัติเท่าเทียมกันต่อทุกคนให้สังคมอยู่ในความเป็น ระเบียบเรียบร้อย สรุปสาระจากการวิจัยเรื่องนี้พบว่า จากการศึกษาทำ ให้เราได้เข้าใจบทบาทของกฎหมายตราสามดวงสมัย ต้นรัตนโกสินทร์ที่ใช้ลงโทษผู้กระทำ ผิดย่อมขึ้นอยู่กับอิทธิพลทางสังคมที่เปลี่ยนแปลง และแตกต่างกันอยู่ตลอด เวลา ความเปลี่ยนแปลงและความแตกต่างของอิทธิพลดังกล่าว ต้องโอนอ่อนตามคุณค่าทางจริยธรรม ค่านิยม และ สภาพของสังคมในเวลานั้น เพื่อให้ได้ผลในการควบคุม ถึงกระนั้นก็ปรากฎว่าเป็นการยากยิ่งที่จะเสาะแสวงหาวิธี การที่เหมาะสมมาใช้ปฎิบัติลงโทษผู้กระทำ ผิดให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งไว้ จึงก่อให้เกิดแนวความคิดขึ้นว่า การปฏิบัติต่อผู้กระทำ ผิดกฎหมาย ควรเลือกวิธีการที่เห็นว่ามีประสิทธิภาพดีที่สุด โดยพิจารณาเป็นรายๆ ไป โดย คำ นึงถึงขนบธรรมเนียมประเพณี ความรู้สึกของประชาชนโดยส่วนรวม ถึงแม้ว่าการลงโทษตามประเพณีดั้งเดิม ที่ปรากฎในกฎหมายตราสามดวงจะล้าสมัยไปแล้ว แต่กฎหมายตราสามดวงก็ยังคงมีอิทธิพลบางส่วนที่ยังหลง เหลืออยู่ในจิตสำ นึกเชิงจริยธรรมของคนไทยมาตราบจนทุกวันนี้

Abstract: This research aims to study analytically the ethical concepts in the books of the Trasamduang Law. It was conducted by means of qualitative research and by using historical documentary research as well as analytical descriptive of the ethics. The study found that the Trasamduang Law was legitimized in the reign of King Rama I, of the Chakri Dynasty in the early Rattanakosin period. The ethical concepts obtained from the studying of the Trasamduang law are categorized in three sides, tht is, political side, social cultural and religious side and economic side. Those aspects shared the same core principle that is to teach moral ability to the public and to punish the wrong doers not to be bad example to others in the communities. Socially in turn, the legitimating concentrated on treating every member in the society equally in order to keep peace and social order. The conclusion of this research is that it helps us understand the role of the Trasamduang Law in the early Rattanakosin period which had been used to punish the wrong doers that depends on the changing social influence. Differences and changes of such influence had been in accordance with the ethical values, social value, and social environment in that period to obtain controlling result. Nevertheless, it was very hard to identify appropriate judgement and method used to punish wrong doers in order to achieve the determined goal, hence the concept and notion of finding the right methods. These are used and served most effectively by individual consideration according to the tradition and public concern solely. As the matter of fact, conventional punishment in the Trasamduang Law is now out of date, but some influences remain in the Thais’ ethical consciousness up to the present day.

มหาวิทยาลัยมหิดล

Address: นครปฐม

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: วารีญา ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Created: 2547

Modified: 2553-03-30

Issued: 2553-03-19

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740455697

CallNumber: วพ ธ699ก 2547

tha

DegreeName: ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: จริยศาสตร์ศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยมหิดล

©copyrights มหาวิทยาลัยมหิดล

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4236589.pdf	1.23 MB	128	2024-12-17 11:56:22

ใช้เวลา

-0.601744 วินาที