Professional advancement of female and male graduate students

ความก้าวหน้าในวิชาชีพของผู้สำเร็จการศึกษาหญิงและชายในระดับบัณฑิตศึกษา

Name: Sunee Thongtanee

LCSH: Graduate students

Abstract: The objectives of this research were to study perception of professional advancement of female and male graduate students of Mahidol University during 1988- 1998 and professional advancement of female and male graduate students. The researcher controlled the variables of other personal characteristics such as age, present educational qualification, major, marital status, present position, working duration, income, job satisfaction, and job characteristics. 400 graduate students of Mahidol University were the sample group of this research. The research results found that female and male graduate students similarly perceived professional advancement on salary increase rate, experiences of training, observing work, furthering study, promotion opportunity, and job satisfaction and success. The main objective of this research was to study that the factors of gender correlate with professional advancement in various aspects by controlling other factors using Statistical Control by Multiple Regression Analysis. However, the research results found that gender did not effect perception of working advancement. The results of analyzing other variables were as follows; the variables which positively correlated with professional advancement in general were income, job satisfaction, job characteristics. The variables which negatively correlated with professional advancement in general were the fields of Linguistics, Culture, and Education. The variable which positively correlated with the salary increase rate was income. The variables which negatively correlated with the salary increase rate were working duration and education level of master’s degree. The variables which positively correlated with experiences of training, observing work, and furthering study were the field of clinical medical science, working duration, and job characteristics. The variables which positively correlated with promotion were working duration, income, job satisfaction, and job characteristics. The variable which negatively correlated with promotion was age. The variables which positively correlated with job satisfaction and success were job characteristics and job satisfaction. Research recommendations involve development of advancement by salary increase and finding the methods of encouraging more job satisfaction for personnel. As women tend to have more professional advancement than men, it is necessary to follow, and continue to study such issues. There should be the study of people whose educational level is lower than graduate school or there should be the study of people graduating from the faculty where there are few women such as Faculty of Engineering in order to see whether gender difference correlates with advancement in various aspects.

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรับรู้ความก้าวหน้าในวิชาชีพของบัณฑิตหญิงและชาย ที่จบ การศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดลในช่วงปี พ.ศ. 2531 – 2541และความก้าวหน้าในวิชาชีพ ของบัณฑิตหญิงและชาย โดยควบคุมตัวแปรลักษณะส่วนบุคคลอื่นๆได้แก่ อายุ วุฒิการศึกษาปัจจุบัน สาขาที่สำเร็จการศึกษา สถานภาพ สมรส ตำแหน่งปัจจุบัน อายุงาน รายได้ ความพึงพอใจในงาน และลักษณะงาน กลุ่มตัวอย่างเป็นบัณฑิตที่สำเร็จ การศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา จากมหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 400คน ผลการวิจัยพบว่าบัณฑิตหญิงและชายรับรู้ว่ามีความก้าวหน้าในวิชาชีพคล้ายกันทั้งด้านอัตราเพิ่มของ เงินเดือนประสบการณ์การฝึกอบรม การดูงาน และการศึกษาต่อ โอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง และด้านความพอใจ และผลสัมฤทธิ์ของงาน และเนื่องจากในการวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษาว่าปัจจัยเรื่องเพศ นั้นมีผลต่อ ความก้าวหน้าในวิชาชีพในด้านต่างๆ โดยควบคุมปัจจัยอื่นๆโดยใช้การควบคุมโดยสถิติ ด้วยการวิเคราะห์ถดถอย พหุ แต่จากผลการวิจัยในครั้งนี้พบว่า เพศไม่มีผลต่อการรับรู้ความก้าวหน้าในการทำงานตามที่คาดการณ์ไว้ สำหรับตัวแปรอื่นๆ ได้ผลการวิเคราะห์ที่สำคัญดังนี้ ความก้าวหน้าทางวิชาชีพโดยรวม ตัวแปรที่มีผลทางด้านบวก คือ รายได้ ความพึงพอใจในงาน ลักษณะงาน ส่วนตัวแปรที่มีผลทางด้านลบคือ สาขาวิชาทางด้านภาษาศาสตร์ วัฒนธรรม และการศึกษา ด้านอัตราเพิ่มของเงินเดือน ตัวแปรที่มีผลทางด้านบวกคือ รายได้ ส่วนตัวแปรที่มีผลทาง ด้านลบคือ อายุงาน การศึกษาระดับปริญญาโท ด้านประสบการณ์การฝึกอบรม ดูงาน และการศึกษาต่อ ตัวแปรที่มี ผลคือกลุ่มสาขาวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์คลีนิค อายุงาน และลักษณะงาน โดยตัวแปรทั้งหมดมีผลทางด้านบวก ด้านการเลื่อนตำแหน่ง ตัวแปรที่มีผลทางด้านบวกคือ อายุงาน รายได้ ความพึงพอใจในงาน และลักษณะงาน ส่วน ตัวแปรที่มีผลทางด้านลบคือ อายุ ด้านความพอใจและผลสัมฤทธิ์ของงาน ตัวแปรที่มีผล คือความพึงพอใจในงาน และลักษณะงาน โดยตัวแปรทั้งสองมีผลทางด้านบวก ข้อเสนอแนะที่ได้จากการวิจัยคือ เรื่องการพัฒนาความก้าวหน้าในเรื่องของเงินเดือน การหาแนวทางที่ จะส่งเสริมความพึงพอใจในงานให้กับบุคลากรให้มากขึ้นและเนื่องจากแนวโน้มที่ผู้หญิงจะมีความก้าวหน้าใน วิชาชีพสูงกว่าเพศชาย เมื่อเทียบกับอดีต จึงมีความจำเป็นที่ต้องมีการติดตามและศึกษาต่อไปในประเด็นดังกล่าว และการศึกษาวิจัยในกลุ่มของผู้ที่มีการศึกษาในระดับต่ำกว่าระดับบัณฑิตศึกษา หรือศึกษาเฉพาะกลุ่มสาขาวิชาที่มี ผู้หญิงจบน้อยเช่น สาขาวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อศึกษาว่าความแตกต่างระหว่างเพศมีผลต่อความก้าวหน้าในด้าน ต่างๆหรือไม่

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Nawarat Phlainoi

Role: Thesis Advisors

Created: 2004

Modified: 2553-03-29

Issued: 2010-03-02

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740455522

CallNumber: TH S958pa 2004

eng

DegreeName: Master of Arts

Level: Master's Degree

Descipline: Population Education

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4236923.pdf	1.14 MB	45	2021-04-20 13:36:20

ใช้เวลา

-0.670642 วินาที