การศึกษาวิเคราะห์หลักจริยธรรมที่ปรากฏในจารึกที่องค์พระปฐมเจดีย์

An analytical study of the ethical principles in the inscription at Phrapathom Chedi

Name: ชินวุฒิ จันโท

ThaSH: จริยธรรม

ThaSH: จารึก -- ไทย

ThaSH: พุทธจริยธรรม

Abstract: การวิจัยนี้ เป็นการศึกษาวิเคราะห์หลักจริยธรรมที่ปรากฏในจารึกที่องค์พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพในเชิงจริยศาสตร์ศาสนา โดยเฉพาะพุทธจริยศาสตร์ โดยมีจุดประสงค์ คือ 1) เพื่อ ศึกษาวิเคราะห์หลักจริยธรรมที่ปรากฏในจารึก ที่องค์พระปฐมเจดีย์ในประเด็นเกี่ยวกับอุดมการณ์เรื่องความดีสูงสุด วิธีการดำเนินชีวิตตลอดจนเกณฑ์ ตัดสินทางจริยธรรม 2) เพื่อศึกษาวิถีชีวิตวัฒนธรรมประเพณีของจังหวัดนครปฐมที่เป็นมาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน และ 3) เพื่อสำรวจความรู้และความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักจริยธรรมในจารึกที่องค์ พระปฐมเจดีย์ ตลอดจนการใช้หลักจริยธรรมในชีวิตประจำวันของกลุ่มบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับจารึกที่ องค์พระปฐมเจดีย์ ผลการศึกษาตามวัตถุประสงค์ข้อที่หนึ่ง พบว่า จารึกที่องค์พระปฐมเจดีย์กล่าวถึง “นิพพาน” ว่าเป็นความดีสูงสุด ซึ่งนิพพานนั้นคือสภาวะที่จิตบริสุทธ์ิปราศจากกิเลสทั้งปวง วิธีการดำรง ชีวิตมี 2 วิถีทาง ซึ่งแตกต่างกันสำหรับภาวะของบุคคล คือ 1. วิถีทางปฏิบัติสำหรับพระภิกษุ ได้แก่หลักไตรสิกขา ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นข้อบังคับที่บรรพชิตจะต้องปฏิบัติตาม 2. วิถีทางสำหรับ ฆราวาส ได้แก่หลักบุญกิริยาวัตถุ คือ ทาน ศีล ภาวนา เป็นพื้นฐานจริยธรรม ในประเด็นเรื่องเกณฑ์ ตัดสินทางจริยธรรม พบว่า “กรรม” ที่ประกอบด้วยเจตนาของบุคคลผู้ทำ เป็นหลักตัดสินในเบื้องต้น นอกจากนี้ การติดสินการกระทำว่าดีหรือชั่ว ขึ้นอยู่กับภาวะของบุคคลด้วย ภาวะของบุคคลหมายถึง สถานการณ์และสภาวะจิต เกณฑ์ตัดสินทางจริยธรรมรองจากเจตนาของบุคคล ได้แก่ “มโนธรรม” หมายถึง ความรู้สึกรับผิดชอบที่มีอยู่ในจิตใจของบุคคล ซึ่งเกณฑ์ตัดสินทางจริยธรรมรองจากเจตนา ของบุคคลนี้ จะเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของสังคม ผลการศึกษาตามจุดประสงค์ที่สอง พบว่า จังหวัดนครปฐมเคยมีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่ อดีต คือ สุวรรณภูมิ และทวาราวดี เป็นดินแดนที่พุทธศาสนาเข้ามาเผยแผ่และมั่นคง และได้สร้าง พระพุทธเจดีย์เป็นครั้งแรกในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชครองชมพูทวีป ผลการศึกษาตามจุดประสงค์ที่สาม พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นบรรพชิตร้อยละ 89.5 ฆราวาสร้อยละ 70.37 เชื่อว่าพระนิพพานคือจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต เชื่อว่า บุคคลจะดีหรือชั่ว อยู่ที่การกระทำของตน ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีหลักพุทธจริยธรรมสำหรับประพฤติปฏิบัติ ในชีวิตประจำวัน เช่น ศีล 5 เป็นต้น การวิจัยครั้งนี้ มีข้อเสนอแนะว่า หลักจริยธรรมที่ปรากฏในจารึกที่องค์พระปฐมเจดีย์ ควรนำไปปลูกฝังแก่บุคคลทุกระดับเพื่อแก้ปัญหาสังคมตั้งแต่ต้นเหตุ เพื่อชีวิตที่ดีงามและสังคม ที่สงบสุข และควรดูแลรักษาจารึกที่องค์พระปฐมเจดีย์ให้เป็นสมบัติอันล้ำค่าเพื่ออนุชนต่อไป

Abstract: This research is an analytical and qualitative study of the ethical principles in the inscription at Phrapathomchedi at Watphrapathomchedi Rajchawaramaharwiharn in Nakhonpathom province. The research was conducted in 3 parts. In the first part, the ethical principles in the inscription at the Phrapathomchedi relating to Nirvana and how to live were studied and analyzed. The inscription provides lifestyle guidance for monks and laymen. Monks should follow the three religious precepts of mental practices towards morality. Laymen should also follow the basic Buddhist ethical principles of almsgiving, the Buddhist commandment, and praying. Ethical judgement is related to intention and deeds—the chain of cause and effect in one’s actions. In the second part of this research, the way of life, culture and tradition of the people of Nakhonpathom were studied from ancient times until today. The research found that Nakhonpathom province has flourished since the period of Suwannaphum and Thawarawadee, which was when Buddhism spread from the ancient India and the Buddha Chedi was first built. That time coincided with the reign of King Asokmaharaj in ancient India. In the third part of this research, monks and laymen were surveyed to ascertain how much they know about the inscription and how it impacted on their lives. 89.5 % of the monks who responded to the questionnaire and 70.37 % of the laymen had some knowledge of the inscription. All respondents believed Nirvana should be their ultimate goal and that people are good or bad depending on their own actions. The vast majority also observed Buddhist ethics as part of their regular lifestyle. This research suggests, therefore, that the ethical principles in the inscription at Phrapathomchedi should be applied as widely as possible to help solve essential social problems. Moreover, the inscription at Phrapathomchedi should be preserved as a precious inscription for coming generations.

มหาวิทยาลัยมหิดล

Address: นครปฐม

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: วริยา ชินวรรโณ

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Created: 2547

Modified: 2553-06-10

Issued: 2553-02-24

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740452817

CallNumber: วพ ช571ก 2547

tha

DegreeName: ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: จริยศาสตร์ศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยมหิดล

©copyrights มหาวิทยาลัยมหิดล

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4236604.pdf	3.37 MB	150	2024-04-05 08:45:35

ใช้เวลา

0.467796 วินาที