The effectiveness of education program on knowledge and self care behavior in patients with essential hypertension Prachathipat Hospital, Patumthanee province

ผลของการสนับสนุนและให้ความรู้ต่อความรู้และการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุโรงพยาบาลประชาธิปัตย์ จังหวัดปทุมธานี

Name: Waraphorn Pengpud

MeSH: Education

MeSH: Hypertension

MeSH: Knowledge

MeSH: Self Care

Abstract: This quasi-experimental research aimed to examine the effectiveness of an education program on knowledge and self-care in patients with essential hypertension. The sample consisted of patients with initial diagnosis of essential hypertension (3-month-1 year) who attended hypertension clinic at Prachathipat hospital during January and March 2004. A total of 74 subjects with the inclusion criteria, were divided into a comparison group (n=37) and an experimental group (n=37). The experimental group received a 3-session education program applying educative supportive nursing system for four weeks whereas the comparison group recived the regular care from the hospital. Data were collected before and after the intervention using the questionnaire, consisting of demographic information, knowledge and self-care behavior related to hypertension. Data were analyzed by using percentage, mean, standard deviation, paired t-test and independent t-test. According to t-test, there were no significant differences on knowledge and self care behavior among those in the experimental and the comparison group before the intervention. After the intervention, the experimental group had higher scores on knowledge and self care behavior than those before the intervention, and those in the comparison group with statistical significance at p-value <0.001. There was significant difference on each dimension of knowledge within the experimental group (p<0.001). Moreover, statistically significant differences were observed in diet control, exercise, stress management after the intervention within the experimental group. However no statistically significant difference was found in medication taking within the experimental group before and after the intervention. In addition, the mean differences on knowledge and self-care behavior reported by the experimental group were statistically significant between before, on the one hand, and after, and 1-month after the intervention, on the other. However, there was no statistically significance different in knowledge and self-care behavior between after, and 1-month after the intervention. Thus, the retention of knowledge and self-care behavior was not supported in this study. This study supports the effectiveness of the education program, applying Orem’s educative supportive nursing system on knowledge and self-care behavior in patients with initial diagnosis of essential hypertension. This findings suggest the application of the education program to patients with hypertension or other chronic diseases in order to enhance their self-care behavior.

Abstract: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการสอนสุขศึกษาต่อ ความรูแ้ ละพฤติกรรมการดูแลตนเองของผูป้ ว่ ยความดันโลหิตสูงชนิดไมท่ ราบสาเหตุกลุม่ ตัวอยา่งเป็นผู้ป่วยความ ดันโลหิตสูงทไี่ ดรั้บการวินิจฉัยจากแพทยร์ ะหวา่ง 3 เดือน- 1 ป ี ที่มารับการรักษาทแี่ ผนกผูป้ ว่ ยนอกโรงพยาบาล ประชาธิปตั ย ์ ระหวา่งเดือน มกราคม-มีนาคม 2457 กลุม่ ตัวอยา่งทงั้ หมด 74 ราย แบง่ เปน็ กลุม่ ทดลองและกลุม่ เปรียบเทียบกลุม่ ละ 37 ราย กลุม่ ทดลองไดรั้บการสนับสนุนและใหค้ วามรูโ้ ดยพยาบาลประยุกตท์ ฤษฎีระบบการ พยาบาลสนับสนุนของโอเรมมาใชใ้ นการใหค้ วามรูแ้ บบกลุม่ จำ นวน 3 ครงั้ ในระยะเวลา 4 สัปดาห ์ในขณะทกี่ ลุม่ เปรียบเทียบได้รับการดูแลตามปกติจากโรงพยาบาล เก็บข้อมูลก่อนและหลังการทดลอง ด้วยแบบสัมภาษณ์ซึ่ง ประกอบดว้ ย ขอ้ มูลสว่ นบุคคล ความรูเ้รอื่ งเกยี่ วกับโรคความดันโลหิตสูงและการดูแลตนเอง วิเคราะหข์ อ้ มูลดว้ ย สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างของคะแนนด้วย t-test และ paired t-test จากการวิเคราะห์ด้วยสถิติ t-test ไม่พบความแตกต่างของคะแนนความรู้และการปฏิบัติระหว่างกลุ่ม ทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบก่อนการทดลอง ภายหลังการทดลองพบว่ากลุ่มทดลองมีความรู้และการดูแลตนเอง สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำ คัญทางสถิติ (p-value<0.001) รวมทั้งมีความรู้และการดูแลตนเองสูงกว่า กลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำ คัญทางสถิติ (p-value<0.001) พบความแตกต่างของคะแนนความรู้รายด้านของ กลุ่มทดลองอย่างมีนัยสำ คัญทางสถิติ (p-value <0.001) นอกจากนี้พบความแตกต่างของคะแนนพฤติกรรมการดู แลตนเองของกลุ่มทดลองในเรื่อง การรับประทานอาหาร ออกกำ ลังกาย การผ่อนคลายความเครียด แต่ไม่พบ ความแตกต่างกันในเรื่องการรับประทานยาของผู้ป่วยก่อนและภายหลังการทดลอง พบวา่คะแนนความรูแ้ ละพฤติกรรมการดูแลตนเองในกลุม่ ทดลองระหวา่งกอ่ นและหลังการทดลองทันที และหลังการทดลอง 1 เดือน มีค่าแตกต่างกัน ที่ระดับ p-value < 0.01 อย่างไรก็ตามไม่พบความแตกต่างของคะแนน การดูแลตนเองในกลุม่ ทดลองระหวา่งกอ่ นและหลังการทดลองทันที และหลังการทดลอง 1 เดือน และพบวา่คะแนน ความรูแ้ ละการดูแลตนเองในกลุม่ ทดลอง หลังการทดลองทันทีและหลังการทดลอง 1 เดือน ไมมี่คา่ความแตกตา่งกัน ทรี่ ะดับ p-value <0.01 ดังนนั้ ความคงทนในการเรียนรูแ้ ละพฤติกรรมการดูแลตนเองไมไ่ ด้รับการสนับสนุนในการ ศึกษาครั้งนี้ จากผลการวิจัยพบว่าโปรแกรมสุขศึกษาที่ประยุกต์ทฤษฎีระบบการพยาบาลสนับสนุนโอเรมนี้มีผลต่อ การเปลี่ยนแปลงความรู้และการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ได้รับการวินิจฉัยในช่วง 1 ปีแรก ในทางที่ดีขึ้น ผลการวิจัยนำ ไปสู่การประยุกต์โปรแกรมนี้ไปใช้กับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงกลุ่มอื่น หรือโรค เรื้อรังกลุ่มอื่นเพื่อเพิ่มศักยภาพในการดูแลตนเองของผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องต่อไป

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Charuvan Hematorn

Role: Thesis Advisors

Created: 2004

Modified: 2553-05-11

Issued: 2010-02-17

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740451691

CallNumber: TH W253e 2004

eng

Spatial: Patumthanee

DegreeName: Master of Science

Level: Master's Degree

Descipline: Public Health Nursing

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4336130.pdf	2.03 MB	223	2025-01-19 14:39:45

ใช้เวลา

0.251526 วินาที