The relationship between Buddhist characteristics and behavior in AIDS counseling among professional nurses

ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางพระพุทธศาสนาและพฤติกรรมการให้การปรึกษาเรื่องโรคเอดส์ของพยาบาลวิชาชีพ

Name: Sarawin Sittiwongse

MeSH: Acquired Immunodeficiency Syndrome

LCSH: Buddhist

LCSH: Counseling

LCSH: Nurses

Abstract: The purpose of this descriptive research was to study the relationship between Buddhist characteristics and behavior in AIDS counseling among professional nurses in the fourth region hospitals, the Ministry of Public Health in Thailand. The selected concepts of Buddhism were used to explain the relationship between behavior in AIDS counseling and the satisfaction of AIDS counselors with their work. The samples consisted of 320 professional nurses who had had AIDS counseling training (Basic course) from 50 hospitals in the fourth region. Data collected by selfadministrated questionnaires were comprised of Buddhist knowledge, Buddhist practice, behavior in AIDS counseling and the satisfaction of AIDS counselors. Data analysis was computerized using descriptive statistics, chi-square test, Pearson’s correlation coefficient and Stepwise multiple regression. The results of the study showed that most of the professional nurses reported favorably on their behavior in AIDS counseling at a high level (59.1%). The satisfaction with their AIDS counseling role was also at a high level (86.6%). The chi-square test showed that none of the demographic characteristics : age, marital status, educational level, number of training, experience in AIDS counseling and income were associated with behavior in AIDS counseling and the satisfaction with their AIDS counseling role. The Pearson’s correlation coefficient showed that Buddhist knowledge and Buddhist practice were positively related to behavior in AIDS counseling among professional nurses and positively related to satisfaction with the AIDS counseling role at a statistically highly significant (p-value <0.0001). Buddhist practice : in The Four Principles of Virtuous Existence, total Buddhist knowledge and total Buddhist practice could predict 20.4% of variation in behavior in AIDS counseling among professional nurses. Similary , Buddhist practice : in The Four Principles of Virtuous Existence and The Three Characteristics of Existence, AIDS counseling role and Buddhist knowledge of The Four Principles of Virtuous Existence could predict 19.7% of variation in satisfaction with the AIDS counseling role. It is recommended that executive nurses in particular should recognize the importance of promoting Buddhism among nursing personnel as it can affect their satisfaction with the counseling role. Professional nurses must be trained in effective counseling standard advocacy with integrated Buddhist principles in nursing education curriculum and understanding how the Buddha’s teaching can be applied to nurses’ counseling performance, decision-making and adaptation in the individual, family and community levels.

Abstract: การวิจัยเชิงพรรณนานี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางพระพุทธศาสนา และพฤติกรรมการให้การปรึกษาเรื่องโรคเอดส์ของพยาบาลวิชาชีพ ในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และ โรงพยาบาลชุมชน ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เขต 4 โดยใช้กรอบแนวคิดทางพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใน การวิเคราะห์ปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการให้การปรึกษาเรื่องโรคเอดส์ของพยาบาลวิชาชีพ และความพึงพอใจในการให้การปรึกษาเรื่องโรคเอดส์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ พยาบาลวิชาชีพผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรเทคนิคการให้การปรึกษา ขั้นพื้นฐาน ซึ่งจัดโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหรือสถาบันสังกัดกรมสุขภาพจิต จำนวน 320 คน จาก 50 โรงพยาบาลใน 6 จังหวัด เขต 4 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามประกอบด้วยความรู้ทางพระพุทธศาสนา การปฏิบัติทางพระพุทธศาสนา พฤติกรรมการให้การปรึกษาเรื่องโรคเอดส์ และความพึงพอใจในการให้การ ปรึกษาเรื่องโรคเอดส์, ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม ได้แก่ 0.87, 0.94, 0.83 และ 0.93 ตามลำดับ วิเคราะห์ ข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์สถิติที่ใช้ได้แก่ สถิติพรรณนา ทดสอบความสัมพันธ์ด้วยไคสแควร์ คำนวณค่าสัมประสิทธิ์ สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% ( ∝ = .05) และสถิติถดถอยเชิงพหุคูณแบบขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า พยาบาลวิชาชีพส่วนใหญ่ (ร้อยละ 59.1) มีพฤติกรรมการให้การปรึกษาเรื่องโรคเอดส์ ในระดับสูง มีความพึงพอใจในการให้การปรึกษาเรื่องโรคเอดส์ในระดับสูง (ร้อยละ 86.6) ไม่พบความสัมพันธ์ ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล กับพฤติกรรมการให้การปรึกษาเรื่องโรคเอดส์ และความพึงพอใจในการให้การปรึกษา เรื่องโรคเอดส์ ความรู้ทางพระพุทธศาสนาและการปฏิบัติทางพระพุทธศาสนา มีความสัมพันธ์ทางบวกกับ พฤติกรรมการให้การปรึกษาเรื่องโรคเอดส์ของพยาบาลวิชาชีพ และมีความสัมพันธ์ทางบวกกับความพึงพอใจใน การให้การปรึกษาเรื่องโรคเอดส์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ค่า p-value < 0.0001 ปัจจัยที่สามารถทำนายความ แปรปรวนของพฤติกรรมการให้การปรึกษาเรื่องโรคเอดส์ของพยาบาลวิชาชีพได้ คือ การปฏิบัติตามคำสอนเรื่อง พรหมวิหาร 4 และความรู้กับการปฏิบัติทางพระพุทธศาสนาโดยรวม ได้แก่ ไตรลักษณ์ อริยสัจ 4 โอวาทปาติโมกข์ และ พรหมวิหาร 4 ส่วนปัจจัยที่สามารถทำนายความแปรปรวนของความพึงพอใจในการให้ การปรึกษาเรื่องโรคเอดส์ ได้คือ การปฏิบัติตามคำสอนเรื่อง พรหมวิหาร 4 ไตรลักษณ์ บทบาทในการให้การ ปรึกษา และความรู้เรื่อง พรหมวิหาร 4 โดยสามารถอธิบายความแปรปรวนได้ร้อยละ 20.4 และ ร้อยละ 19.7 ตามลำดับ จากผลการวิจัยมีข้อเสนอแนะว่า ผู้บริหารทางการพยาบาลควรนำแนวคิดทางพระพุทธศาสนามาเป็น ส่วนหนึ่งของปรัชญาทางการให้การปรึกษาเรื่องโรคเอดส์ของพยาบาลวิชาชีพ ซึ่งส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ให้ การปรึกษา พยาบาลวิชาชีพควรได้รับการอบรมที่มีประสิทธิภาพ มีมาตรฐานโดยนำ หลักธรรมทาง พระพุทธศาสนาเป็นส่วนหนึ่งของการให้การปรึกษา และควรบูรณาการหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาใน หลักสูตรการศึกษาทางการพยาบาล เพื่อให้เข้าใจในสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน สามารถนำไปใช้เพื่อการ ปฏิบัติ การตัดสินใจและประยุกต์ใช้ในการให้การปรึกษาในระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชน

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Vanphen Krobthong

Role: Thesis Advisors

Created: 2003

Modified: 2553-03-30

Issued: 2009-12-25

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740438148

CallNumber: TH S243r 2003

eng

DegreeName: Master of Science

Level: Master's Degree

Descipline: Public Health Nursing

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4236075.pdf	1.74 MB	53	2025-07-02 13:55:51

ใช้เวลา

0.259803 วินาที