Evaluation of the economic incentives of the Khao Wong Community Forest Management Cooperation

การประเมินค่าสิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจของการร่วมมือกันจัดการป่าชุมชนเขาวง

Name: Rames Khanhirun

LCSH: Community forests

LCSH: Community forests -- Economic aspects

LCSH: Forest management

LCSH: Khao Wong Community Forest

Abstract: The purpose of this research was to evaluate the economic incentives provided by the Khao Wong Community Forest Management Cooperation in order to assess them as the actual reasons behind the active cooperation on the part of the Khao Wong community, which has led to the enrichment of the Khao Wong Forest. A cost-benefit analysis was conducted to compare and evaluate the costs resulting from and the benefits received from the Khao Wong Community Forest Management Cooperation. By means of simple correlation coefficients and the Pearson Chi-square statistical method, the relation between economic incentives and membership cooperation was identified. The instrument used was a questionnaire for members of the Khao Wong community and interviewers’ question guidelines for group leaders. The total sample group of 241 households was made up of villagers in Tha Pong Village, None Muang, Wang Nam Khiao, Wang Udom and Pong Nakhon Villages in the Wang Take sub-district, Nongbur Rahew District, Chaiyaphoom Province. This study demonstrated that cooperation in community forest management among members from 5 villages around the Khao Wong Community Forest could not, in fact, be attributed to economic incentives which consisted of the distribution of only 13 types of forest products. Although the statistical testing results revealed that the economic incentives were not correlated with cooperation, the results regarding their attitudes toward the Khao Wong Community Forest indicated that 25% of the members and their household members may mostly be concerned about natural disasters, the richness of the resources and other environmental aspects of the forest. Should there no longer be a Khao Wong Community Forest in the future, therefore, it might be explained that natural disasters and the condition of the environment serve as the primary incentives that stimulate members to cooperatively manage the Khao Wong Community Forest. Both issues are, however, beyond the scope of this research. Comparing the results derived from this community forest, 3 intervals occur : a pre-community forest crisis, community forest crisis and a postcommunity forest crisis. It was found here that direct and indirect income from this community forest tended to increase, especially after the community forest was put under a management board. The direct income from the sale of forestry products had a 245.30% increase, whereas the indirect income from forest product consumption increased only 11.37%. It can be claimed that the Khao Wong Community Forest Management Cooperation has brought more benefits to the members than in the past when there was no cooperation. Thus, it should be noted that in the future, the utilization of the Khao Wong Community Forest is more likely to benefit from commercial than local consumption, which may then contribute to the deterioration of its natural resources if there are not any appropriate measures of control. Therefore, in future research, natural disasters and the condition of the environment should be taken into consideration for a community forest, and this may yield results different from those of this study and may even conclude that these two factors are correlated with community cooperation.

Abstract: การประเมินค่าสิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจของการร่วมมือกันจัดการป่าชุมชนเขาวงต้องการทราบว่า เพราะเหตุใดสมาชิก ของป่าชุมชนเขาวงจึงยินดีร่วมมือกันปฏิบัติและรักษากฎระเบียบที่กำหนดขึ้น จนทำให้ป่าชุมชนเขาวงกลับสู่ความสมบูรณ์อีก ครั้งหนึ่ง โดยใช้แนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ในการประเมินและเปรียบเทียบต้นทุนและผลได้ที่สมาชิกแต่ละคนได้รับจาก การจัดการป่าชุมชนเขาวง ตลอดจนวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจกับความร่วมมือของสมาชิก ด้วยวิธี การวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายและสถิติไคสแควร์แบบเพียร์สัน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแบบสอบ- ถามสำหรับสมาชิกป่าชุมชน และแนวคำถามสำหรับการสัมภาษณ์กลุ่มผู้นำชุมชน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยคือ ราษฎรที่อาศัยอยู่ ในหมู่บ้านท่าโป่ง หมู่บ้านโนนม่วง หมู่บ้านวังน้ำเขียว หมู่บ้านวังอุดม และหมู่บ้านโป่งนคร ตำบลวังตะเฆ่ อำเภอหนองบัว- ระเหว จังหวัดชัยภูมิ มีจำนวนทั้งสิ้น 241 ครัวเรือน ผลการศึกษาพบว่า การร่วมมือกันจัดการป่าชุมชนของสมาชิกทั้ง 5 หมู่บ้านรอบป่าชุมชนเขาวงไม่ได้เกิดขึ้นจากสิ่ง จูงใจทางเศรษฐกิจที่เน้นเฉพาะทรัพยากรป่า 13 ชนิดเท่านั้น เนื่องจากผลการทดสอบทางสถิติแสดงให้เห็นว่าสิ่งจูงใจทาง เศรษฐกิจไม่มีความสัมพันธ์กับความร่วมมือ แต่ผลการศึกษาด้านทัศนคติเกี่ยวกับป่าชุมชนเขาวงแสดงให้เห็นว่า สมาชิกร้อยละ 25 คาดว่าตนเองและครัวเรือนจะได้รับความเดือดร้อนในเรื่องภัยธรรมชาติ และความอุดมสมบูรณ์ของป่าและสภาพแวดล้อม ถ้าหากในอนาคตไม่มีป่าชุมชนเขาวง อธิบายได้ว่าประเด็นภัยธรรมชาติและสภาพแวดล้อมอาจเป็นสิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจอย่าง หนึ่งที่ทำให้สมาชิกมาร่วมมือกันจัดการป่าชุมชนเขาวง ซึ่งทั้งสองประเด็นอยู่นอกเหนือขอบเขตการวิจัยในครั้งนี้ ดังนั้นการ วิจัยครั้งต่อไป ควรนำประเด็นด้านภัยธรรมชาติและสภาพแวดล้อมเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจที่ได้รับจากป่าชุมชน ซึ่งอาจทำให้ผลการศึกษาพบว่าสิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจมีความสัมพันธ์กับความร่วมมืออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติได้ สำหรับผลการ เปรียบเทียบผลได้จากป่าชุมชนใน 3 ช่วงเวลาคือ ก่อนเกิดวิกฤตป่าชุมชน ช่วงวิกฤตป่าชุมชน และหลังจากมีป่าชุมชน พบว่า รายได้ทางตรงและรายได้ทางอ้อมจากป่าชุมชนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหลังจากมีป่าชุมชนทำให้อัตราการเพิ่มของรายได้ ทางตรงจากการขายของป่าสูงถึงร้อยละ 245.30 ขณะที่รายได้ทางอ้อมจากการบริโภคของป่าเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 11.37 อธิบาย ได้ว่าการร่วมมือกันจัดการป่าชุมชนเขาวงก่อให้เกิดประโยชน์แก่สมาชิกมากกว่าในอดีตที่ไม่มีการร่วมมือกัน แต่ตั้งข้อสังเกตได้ ว่าในอนาคตการใช้ประโยชน์จากป่าชุมชนเขาวงมีแนวโน้มเพื่อผลประโยชน์ทางการค้ามากกว่าการบริโภคในท้องถิ่น ซึ่งอาจ นำไปสู่ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรได้ ถ้าหากไม่มีมาตรการควบคุมการใช้ที่เหมาะสม

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Wirote Manopimoke

Role: Thesis Advisors

Created: 2003

Modified: 2553-01-28

Issued: 2009-12-02

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740434371

CallNumber: TH R183e 2003

eng

DegreeName: Master of Arts

Level: Master's Degree

Descipline: Environment

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4237588.pdf	1.45 MB	69	2025-02-07 16:05:02

ใช้เวลา

-0.761038 วินาที