Factors affecting unhealthy eating habits among youth in Kanchanaburi province, Thailand

ปัจจัยทีมีอิทธิพลต่อนิสัยการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกหลักอนามัยของเยาวชนไทยในจังหวัดกาญจนบุรี

Name: Patcharee Varinil

LCSH: Youth

LCSH: Food habits

LCSH: Adolescence

Abstract: The objective of this study is to examine the factors that influence unhealthy eating habits among youth aged 15-24 years. The study used data from the 3rd round of Kanchanaburi Demographic Surveillance Survey (DSS) which was conducted by the Institute for Population and Social Research, Mahidol University, in 2002. The sample size of the study was 5,157 youth. Frequencies, percentage, mean, bivariate and multivariate were used for analysis. It was found that 44 percent of youth reported having regular unhealthy eating habits (fast food and snack food). Individual characteristics of youth such as age, sex, education and ethnicity strongly affected unhealthy eating habits. The study also found that education was the strongest predictor, followed by wealth index, for unhealthy eating habits among youth. Family factor of youth namely, parental living arrangement did not show a significant relationship with unhealthy eating habits of youth in logistic regression models. Regarding community factors, location had significant relationship with unhealthy eating habits of youth. From multivariate analysis, the result supports the hypotheses that female youth are more likely to have unhealthy eating habits than male youth, media exposure has also played a role in unhealthy eating habits of youth and youth residing in non-municipal areas are more likely to have unhealthy eating habits than those in municipal areas. To promote healthy eating habits in Kanchanaburi province, therefore, programs should take into consideration gender, media exposure and location.

Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อนิสัยการรับประทานอาหารที่ไม่ถูก หลักอนามัยของเยาวชนไทย อายุ 15-24 ปี ในจังหวัดกาญจนบุรี โดยใช้ข้อมูลจากรายงานการสำรวจ ข้อมูลพื้นฐานรอบ 3 (2545) โครงการกาญจนบุรี ของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ประชากรกลุ่มตัวอย่างจำนวน 5,157 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ร้อยละ, ค่าเฉลี่ย, Bivariate และ Multivariate ผลการศึกษาพบว่าเยาวชนส่วนใหญ่มีนิสัยการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกหลักอนามัย (อาหารจาน ด่วนและขนมกรุบกรอบ) ถึง ร้อยละ 44 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อนิสัยการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกหลัก อนามัยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ อายุ, เพศ, การศึกษา และชาติพันธุ์ ปัจจัยส่วนบุคคลที่สามารถ บ่งชี้ถึงเรื่องนิสัยการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกหลักอนามัยของเยาวชนได้มากที่สุด ได้แก่ การศึกษา รองลงมาคือ ฐานะครอบครัว ผลการวิเคราะห์ด้วย Multivariate logistic regression แสดงให้เห็นว่า ปัจจัยด้านครอบครัว ได้แก่ การใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างเยาวชนกับบิดา มารดาไม่ปรากฏว่ามี ความสัมพันธ์กับนิสัยการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกหลักอนามัยของเยาวชนกลุ่มนี้ ส่วนปัจจัยด้าน ชุมชนพบว่าพื้นที่พักอาศัยของเยาวชนมีความสัมพันธ์กับนิสัยการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกหลัก อนามัยของเยาวชนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติรายงานผลการศึกษาครั้งนี้สนับสนุนสมมติฐานในข้อที่ว่า เยาวชนเพศหญิงมีการรับประทานอาหารจานด่วนและขนมกรุบกรอบมากกว่าเยาวชนชาย รวมถึงสื่อ ประชาสัมพันธ์ก็มีบทบาทที่สำคัญ นอกจากนี้เยาวชนที่อาศัยนอกเขตเทศบาลรับประทานอาหารชนิดนี้ มากกว่าเยาวชนในเขตเทศบาล ดังนั้นควรมีการส่งเสริมสุขภาพให้เยาวชนในจังหวัดกาญจนบุรีได้มีการรับประทานอาหารที่ถูก หลักอนามัย กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพที่จัดให้ควรพิจารณาถึงตัวแปรด้านเพศ สื่อต่างๆ และพื้นที่อยู่ อาศัยของเยาวชนด้วย

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Aree Prohmmo

Role: Thesis Advisors

Created: 2005

Modified: 2553-06-18

Issued: 2009-07-31

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740466648

CallNumber: TH P294f 2005

eng

DegreeName: Master of Arts

Level: Master's Degree

Descipline: Population and Reproductive Health Research

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4738665.pdf	781.19 KB	107	2021-09-10 00:56:40

ใช้เวลา

-0.710794 วินาที