The relationship between academic achievement, family relations peer groups and self-esteem of the abused child

ความสัมพันธ์ระหว่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสัมพันธภาพในครอบครัวและกลุ่มเพื่อนกับความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของเด็กที่ถูกกระทำรุนแรง

Name: Nuchnapha Wongsason

LCSH: Students -- Thailand -- Nonthaburi

LCSH: Self-esteem in children

LCSH: Child Psychology

LCSH: Child Abuse

Abstract: การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย เพื่อศึกษา ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของเด็กที่ถูกกระทำรุนแรง และความสัมพันธ์ระหว่าง ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สัมพันธภาพในครอบครัวและกลุ่มเพื่อน กับความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา อำเภอเมือง จังหวัด นนทบุรี จำนวน 112 คน ที่ถูกกระทำรุนแรงในระดับความรุนแรงมากทางด้านร่างกาย และจิตใจ และในระดับความรุนแรงน้อยทางด้านเพศเก็บข้อมูลโดยให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถาม ในเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2546 โดยใช้ สถิติเชิงพรรณนาและ สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการศึกษาพบว่า เด็กที่ถูกกระทำรุนแรงส่วนใหญ่เป็นเพศชาย (ร้อยละ 64.3) (เพศหญิง ร้อยละ 35.7) ร้อยละ 58 อายุ 12 ปี ร้อยละ 58.9 อยู่ในครอบครัวขยาย เด็กที่ถูกกระทำรุนแรงมีคะแนนเฉลี่ยของความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองอยู่ในระดับต่ำ ( Χ = 18.46, SD = 5.12) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สัมพันธภาพในครอบครัว และกลุ่มเพื่อน มีความสัมพันธ์ทางบวกกับความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของเด็กที่ถูกกระทำรุนแรง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = .170, .307, และ .249 ตามลำดับ p < .05) การวิจัยครั้งนี้ มีข้อเสนอแนะว่า พยาบาลจิตเวชควรประสานความร่วมมือกับทางโรงเรียนและครอบครัวของนักเรียน ในการส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การมีสัมพันธภาพที่ดีกับสมาชิกในครอบครัว และการผูกสัมพันธ์กับเพื่อนๆ เพื่อเพิ่มพูน ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของเด็กที่ถูกกระทำรุนแรง"

Abstract: This study was descriptive research which examined self- esteem of the abused child and the relationship between academic achievement, family relations, peer groups and self-esteem. The samples were 112 Prathomsuksa 6 students of a primary school in Muang District, Nonthaburi Province, Thailand, who suffered severe physical, emotional abuse and minor sexual abuse. Data were collected by questionnaires on December, 2003 and were analyzed by descriptive statistics and Pearson Product Moment Correlation Coefficient. Results revealed that the abused children were mostly male (64.3 %) (female 35.7%), aged 12 (58%), and lived in an extended family (58.9%). Abused children had low mean scores on self-esteem ( Χ = 18.46, SD = 5.12). The academic achievement, family relations, and peer groups were positively correlated to self-esteem of the abused children (r= .170, .307, and .249 respectively, p < .05). These findings suggest that psychiatric nurses should collaborate with the schools and student’s families in order to support academic achievement, good relationships with family members and peer groups, and also increase self-esteem of abused children.

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Jaruwan T.Skul

Role: Thesis Advisors

Created: 2005

Modified: 2021-01-16

Issued: 2009-07-02

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740462278

CallNumber: TH N963r 2005

eng

Spatial: Nonthaburi

DegreeName: Master of Nursing Science

Level: Master's Degree

Descipline: Psychiatric-Mental Health Nursing

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4336738.pdf	915.56 KB	165	2025-02-22 05:19:53

ใช้เวลา

-0.696339 วินาที