The effect of distraction by using a party blower on pain level during intravenous insertion in preschool children

ผลของการเบี่ยงเบนความสนใจด้วยของเล่นที่ใช้การเป่าต่อระดับความเจ็บปวดจากการแทงเส้นโลหิตดำเพื่อให้สารน้ำในเด็กวัยก่อนเรียน

Name: Soontaree Sri-arammanee

MeSH: Injections, Intravenous

Abstract: The purpose of this quasi-experimental research was to determine the effect of using a party blower as a distraction from pain during intravenous insertion in preschool children. The Gate control theory of Melzack and Wall (1965) provided the conceptual framework for this study. Based on protection of human subjects, the samples were 36 preschool children, aged 4 through 6 years old who were newly admitted for a planned operation and having a physician’s order for intravenous therapy at the pediatric surgery ward of Ramathibodi Hospital, during October 2003 to October 2004. The samples were selected by a purpose sampling and randomly assigned to the control (n=18) or experimental group (n=18) by random allocation on the first day of performing the intravenous insertion procedure. During intravenous insertion, the control group received only the usual care, whereas the experimental group received distraction using a party blower and the usual care. The modified Sheffield Children’s Hospital Pain Assessment Tool was used to evaluate children’s perception of pain. Difference of pain level between the control and experimental group was analyzed by Mann-Whitney U test. The result of this study revealed that preschool children in the experimental group had statistically significantly lower pain than the control group (p< .01). The finding of this study showed that the effectiveness of distraction could reduce pain in hospitalized preschool children. Pediatric nurses ought to promote the use of a distraction technique to relieve pain associated with a brief painful procedure in hospitalized preschool children"

Abstract: การวิจัยกึ่งทดลองครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการเบี่ยงเบนความสนใจด้วยของเล่นที่ใช้การเป่าต่อระดับความเจ็บปวดจากการแทงเส้นโลหิตดำเพื่อให้สารน้ำในเด็กวัยก่อนเรียน โดยใช้ทฤษฎีการควบคุมประตูของเมลแซคและวอลล์ (1965) เป็นกรอบแนวคิดในการศึกษา กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กวัยก่อนเรียนอายุ 4-6 ปี ที่เข้ารับการรักษาตัวในหอผู้ป่วยศัลยกรรมเด็กโรงพยาบาลรามาธิบดีเพื่อรับการผ่าตัดและมีคำสั่งแพทย์ในการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำก่อนการผ่าตัด ระหว่างเดือนตุลาคม 2546 ถึงตุลาคม 2547 มีการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจงตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ทั้งหมด 36 คน ผู้วิจัยแบ่งตัวอย่างเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง โดยการสุ่มแบ่งกลุ่มตัวอย่างในวันแรกของการเก็บข้อมูลการแทงเส้นโลหิตดำเพื่อให้สารน้ำเด็กกลุ่มควบคุม18 คนจะได้รับการพยาบาลตามปกติ ส่วนเด็กกลุ่มทดลอง18 คนจะได้รับการเบี่ยงเบนความสนใจด้วยของเล่นที่ใช้การเป่าร่วมกับการพยาบาลตามปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินระดับความเจ็บปวดจากการแทงเส้นโลหิตดำเพื่อให้สารน้ำ คือ มาตรวัดความเจ็บปวดรูปหน้าประยุกต์ ซึ่งผู้วิจัยดัดแปลงมาจากเครื่องมือประเมินความปวดของโรงพยาบาลเชฟฟิลล์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยายและเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนระดับความเจ็บปวดระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองด้วยการทดสอบแมนวิทนีย์ยู ผลการวิจัยพบว่าเด็กวัยก่อนเรียนกลุ่มที่ได้รับการเบี่ยงเบนความสนใจด้วยของเล่นที่ใช้การเป่ามีระดับความเจ็บปวดจากการแทงเส้นโลหิตดำเพื่อให้สารน้ำต่ำกว่าเด็กวัยก่อนเรียนที่ไม่ได้รับการเบี่ยงเบนความสนใจด้วยของเล่นที่ใช้การเป่า อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการเบี่ยงเบนความสนใจโดยการใช้ของเล่นที่ใช้การเป่าสามารถลดความเจ็บปวดจากการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำในเด็กวัยก่อนเรียนได้พยาบาลเด็กสามารถนำวิธีการเบี่ยงเบนความสนใจนี้ไปใช้เป็นแนวทางในการบรรเทาความเจ็บปวดจากการแทงเส้นโลหิตดำเพื่อให้สารน้ำในเด็กวัยก่อนเรียน"

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Renu Pookboonmee

Role: Thesis Advisors

Created: 2009-06-30

Modified: 2020-04-17

Issued: 2009-06-30

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740461298

CallNumber: TH S711ef 2005

eng

DegreeName: Master of Nursing Science

Level: Master's Degree

Descipline: Pediatric Nursing

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4436602.PDF	2.21 MB	221	2022-02-21 10:19:14

ใช้เวลา

0.288309 วินาที