แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
วัชรี สุตะไล. พนักงานอัยการในฐานะทนายโจทก์ในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม : ศึกษาเฉพาะกรณี กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคและกฎหมายสิ่งแวดล้อม. ปริญญาโท(กฎหมายเอกชนและกฎหมายธุรกิจ). มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. ศูนย์สนเทศและหอสมุด. : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, 2550.
พนักงานอัยการในฐานะทนายโจทก์ในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม : ศึกษาเฉพาะกรณี กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคและกฎหมายสิ่งแวดล้อม
Public prosecutor in the capacity of lead counsel for the plaintiff in class action : a study in consumer protection law and environmental law
Name: วัชรี สุตะไล
ThaSH:
การฟ้องคดีในนามกลุ่มบุคคล
-- วิจัย
Classification :.DDC: 347.053
Abstract:
สภาพสังคมปัจจุบัน มีการพัฒนาและเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประชาชนมีการแสวงหาสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับชีวิต ผู้บริโภคมีการบริโภคสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจ ในขณะที่ผู้ประกอบธุรกิจบางรายแสวงหาประโยชน์ที่มิชอบจากผู้บริโภค จึงก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค ในขณะที่โรงงานอุตสาหกรรมมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น มีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต แต่ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการบางรายละเลยการดูแลเอาใจใส่ในเรื่องของความปลอดภัย และการเอาใจใส่ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ปัญหาที่ตามมาอาจเป็นการทำลายสภาพแวดล้อม หรือสุขภาพอนามัยของประชาชน ซึ่งจากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ว่าเป็นคดีคุ้มครองผู้บริโภค หรือคดีสิ่งแวดล้อม เป็นข้อพาทที่มีผลกระทบกระเทือนต่อประโยชน์สาธารณะ อีกทั้งคดีคุ้มครองผู้บริโภค และคดีสิ่งแวดล้อมเป็นคดีที่มีผลกระทบต่อผู้เสียหายจำนวนมาก เป็นคดีที่มีข้อเท็จจริงแห่งคดีเดียวกัน มีประเด็นข้อพิพาทเหมือนกัน ใช้พยานหลักฐานชุดเดียวกัน ซึ่งหากผู้เสียหายแต่ละรายดำเนินคดีฟ้องร้องเอง ก็จะทำให้มีคดีขึ้นสู่ศาลจำนวนมาก แม้เหตุแห่งการฟ้องร้องจะเป็นเรื่องเดียวกันก็ตาม อีกทั้งในประเทศไทยคดีคุ้มครองผู้บริโภค และคดีสิ่งแวดล้อมเป็นคดีที่มีผลกระทบต่อประชาชนที่มีฐานะยากจน ไม่มีเงินเพียงพอที่จะว่าจ้างทนายความเอกชนในการต่อสู้คดีกับผู้ประกอบธุรกิจรายใหญ่ ๆ จากปัญหาที่เกิดขึ้นก็มีแนวความคิดที่จะนำเอาหลักการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ในรูปแบบของประเทศที่ใช้กฎหมายระบบคอมมอนลอว์ มาปรับใช้โดยบัญญัติเพิ่มเติมในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเพื่อใช้เป็นมาตรการหนึ่งในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน
จากการศึกษาพบว่า การดำเนินคดีแบบกลุ่มประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการดำเนินคดีแบบกลุ่มในประเทศสหรัฐอเมริกาทนายความเอกชนถือว่าเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์แก่สมาชิกกลุ่มทั้งหมด โดยมีเงินรางวัลทนายความจำนวนมาก เป็นสิ่งจูงใจให้ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของลูกความอย่างเต็มที่ สำหรับประเทศไทยนั้น คดีที่มีผลกระทบต่อผู้เสียหายจำนวนมากมีปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคดีคุ้มครองผู้บริโภค หรือคดีสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นคดีที่มีผลกระทบต่อสาธารณะ และประชาชนในประเทศ และพนักงานอัยการเป็นผู้ที่มีหน้าที่เป็นทนายโจทก์ในการดำเนินคดีแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายแทนรัฐ หรือประชาชนซึ่งเป็นผู้เสียหาย ดังนั้นหากมีการนำหลักการของการดำเนินคดีแบบกลุ่มมาปรับใช้กับคดีที่มีผู้เสียหายจำนวนมากในคดีคุ้มครองผู้บริโภค หรือคดีสิ่งแวดล้อม จะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินคดีแพ่งให้บรรลุถึงความมุ่งหมายในการดำเนินคดีโดยสะดวก ประหยัด รวดเร็ว และเป็นธรรม แต่อย่างไรก็ตามแม้รูปแบบการดำเนินคดีแบบกลุ่มที่นำมาปรับใช้ในประเทศไทย มีต้นแบบมาจากการดำเนินคดีแบบกลุ่มของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีทนายความเอกชนเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่ทนายโจทก์ในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม แต่สำหรับประเทศไทยหากมีการนำการดำเนินคดีแบบกลุ่มมาใช้ในคดีคุ้มครองผู้บริโภค และคดีสิ่งแวดล้อม พนักงานอัยการจะเป็นผู้มีบทบาทในการทำหน้าที่เป็นทนายโจทก์ในการดำเนินคดีแบบกลุ่มในคดีคุ้มครองผู้บริโภค และคดีสิ่งแวดล้อม และเพื่อให้การทำหน้าที่ของพนักงานอัยการในฐานะทนายโจทก์ในการดำเนินคดีแบบกลุ่มมีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ดังนั้นจึงมีข้อเสนอแนะให้มีการบัญญัติอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการในการทำหน้าทีทนายโจทก์ในการดำเนินคดีแบบกลุ่มให้มีความชัดเจน เพื่อรองรับกับการบังคับใช้กฎหมาย และเสนอแนะเกี่ยวกับเงินรางวัลทนายความ โดยให้มีการจัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อการดำเนินคดีแบบกลุ่ม โดยให้มีคณะกรรมการกองทุนเป็นผู้ดูแลในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เมื่อมีการดำเนินคดีของพนักงานอัยการเป็นผลสำเร็จ โดยพนักงานอัยการในฐานะทนายโจทก์ได้รับเงินรางวัลในการดำเนินคดี ก็ให้นำส่วนแบ่งของเงินรางวัลทั้งหมดมาเข้ากองทุน เพื่อให้เป็นกองทุนเงินส่วนกลางเพื่อการดำเนินคดีแบบกลุ่ม โดยจะได้ไม่ต้องไปรบกวนเงินงบประมาณรายจ่ายของประเทศ เพื่อให้พนักงานอัยการทำหน้าที่เพื่ออำนวยความยุติธรรม รักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชนอย่างเต็มความสามารถ โดยไม่มีเงินรางวัลเป็นค่าตอบแทนในการดำเนินคดี
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. ศูนย์สนเทศและหอสมุด
Address:
กรุงเทพฯ
Email:
library@dpu.ac.th
Name: วิชัย อริยะนันทกะ
Role:
อาจารย์ที่ปรึกษา
Modified:
2552-07-20
Created:
2550
Issued:
2552-07-17
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
วพ347.053 ว387พ
tha
DegreeName: นิติศาสตรมหาบัณฑิต
Level: ปริญญาโท
Descipline: กฎหมายเอกชนและกฎหมายธุรกิจ
Grantor: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
©copyrights มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
RightsAccess:
ใช้เวลา
0.240968 วินาที
วัชรี สุตะไล
| Title | Contributor | Type |
|---|---|---|
| พนักงานอัยการในฐานะทนายโจทก์ในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม : ศึกษาเฉพาะกรณี กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคและกฎหมายสิ่งแวดล้อม
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ วัชรี สุตะไล | วิชัย อริยะนันทกะ | วิทยานิพนธ์/Thesis |
วิชัย อริยะนันทกะ