แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
สมนิด คำมงคล. ความไม่เสมอภาคทางเพศด้านกฎหมายกรณีปัญหาความรุนแรงในครอบครัว. Master's Degree(สังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา). สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ. มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์. : มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ, 2548-09-27.
ความไม่เสมอภาคทางเพศด้านกฎหมายกรณีปัญหาความรุนแรงในครอบครัว
Gender inequality in domestic violence
Name: สมนิด คำมงคล
keyword:
ความรุนแรงในครอบครัว
Classification :.DDC: 306.87
Abstract:
ปัญหาเรื่องความไม่เสมอภาคระหว่างหญิงชายนั้นเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทุกประเทศทั่วโลก สำหรับในสังคมไทยตั้งแต่เกิดมาเป็นผู้หญิง สังคมได้กำหนดและมีความคาดหวังต่อ บทบาทและหน้าที่ให้ผู้หญิงแตกต่างจากผู้ชาย เริ่มตั้งแต่บทบาทความเป็นลูกสาว บทบาทภาระหน้าที่การงานในบ้าน บทบาทความเป็นภรรยา บทบาทความเป็นแม่ จนกลายเป็นความเชื่อแบบตายตัวซึ่งมีลักษณะเป็นค่านิยมเชิงซ้อน (Double Standard) หรือความไม่เสมอภาคทางเพศคือการที่ชายหญิงประพฤติปฏิบัติอย่างเดียวกันสังคมจะตำหนิเฉพาะผู้หญิง เช่น การอยู่ก่อนแต่ง การนอกใจ คู่สมรส การที่ชายมีภรรยาได้หลายคน เป็นต้น
การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความไม่เสมอภาคทางเพศด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับปัญหาความรุนแรงในครอบครัวในบริบทของสังคมไทย เป็นผลงานการศึกษาที่ชี้ให้เห็นถึง การที่บทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยามีลักษณะเป็นการเลือก ปฎิบัติเพราะความแตกต่างทางเพศจนนำไปสู่ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวอันเป็นอุปสรรคและปัญหาต่อการดำเนินชีวิตคู่ของหญิงที่เป็นภรรยาในปัจจุบัน ขอบเขตของการศึกษาเน้นที่มิติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับปัญหากรณีสามีทำร้ายภรรยา การศึกษานี้ใช้วิธีวิทยาของนิติสตรีศาสตร์ทำการศึกษาถึงสภาพปัญหาทางข้อกฎหมาย มาตรการที่นำมาปรับใช้กับหญิงที่ถูกสามีทำร้าย ในกระบวนการยุติธรรมทั้งทางแพ่งและทางอาญา สัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างจากผู้หญิงที่เคยถูกสามี ทำร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจตำแหน่งพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมที่มี หน้าที่ในการจัดการกับปัญหาในลำดับต้น และศึกษาถึงดุลยพินิจของศาลที่ใช้ในการตัดสินปัญหาการทำร้ายกันระหว่างคู่สมรส เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางในการกำหนดมาตรการที่เหมาะสมและทำให้กระบวนการยุติธรรมของไทยสามารถแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวได้ดียิ่งขึ้น
ผลจากการศึกษาพบว่า ความไม่เสมอภาคทางเพศมีปรากฎอยู่ไม่เฉพาะแต่ในตัว บทกฎหมายเท่านั้น แต่ยังฝังรากลึกอยู่ในระบบคิด วัฒนธรรมความเชื่อ และความรู้ของบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ระเบียบ คำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นมาตรการเกี่ยวข้องกับหญิงที่ถูกสามีทำร้ายทั้ง การทำร้ายทางร่างกาย การทำร้ายทางจิตใจ และการทำร้ายทางเพศ การพิจารณาและเลือกสรรกฎหมายเพื่อนำมาบังคับใช้ของบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมนั้นไม่อาจตัดขาดจากบริบท ทางสังคมที่เข้าไปมีอิทธิพลอยู่ในกระบวนการยุติธรรมได้ ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเพศที่ปรากฏอยู่นั้นเป็นปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนให้ความรุนแรงในครอบครัวยังคงดำรงอยู่ สาเหตุประการหนึ่ง สืบเนื่องมาจากสภาพสังคมไทยมีลักษณะชายเป็นใหญ่ ผู้ชายจึงมีอำนาจในการกำหนดกฎเกณฑ์เรื่องต่างๆทางสังคม รวมทั้งการบัญญัติกฎหมายด้วย แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนกฎหมายต่างๆ เพื่อพัฒนาไปสู่ความเสมอภาคระหว่างชายหญิงอยู่ตลอดมา แต่ก็ยังไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของกระแสสังคม
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ผู้วิจัยได้เสนอแนะแนวทางในการสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่อง ความเสมอภาคทางเพศเพื่อนำมาใช้สำหรับการจัดการกับปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและ เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ที่เน้นความเสมอภาคและให้บุคคลในครอบครัวมีสิทธิได้รับความคุ้มครองโดยรัฐจากการใช้ความรุนแรงและการปฎิบัติอัน ไม่เป็นธรรม โดยเสนอให้มีกฎหมายเฉพาะเรื่องเพื่อขจัดความรุนแรงในครอบครัว ปรับปรุงระเบียบ คำสั่งที่เป็นอุปสรรคต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว พัฒนา วิธีการ และขั้นตอนการดำเนินคดีให้มีลักษณะพิเศษกว่าการดำเนินคดีอาญาทั่วไป โดยคำนึงถึง การป้องกันมิให้ภรรยาถูกสามีทำร้ายซ้ำ การยับยั้ง และการฟื้นฟูสามีผู้กระทำผิด เพื่อให้สามารถกลับมาดำรงความเป็นครอบครัวต่อไปได้
การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความไม่เสมอภาคทางเพศด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับปัญหาความรุนแรงในครอบครัวในบริบทของสังคมไทย เป็นผลงานการศึกษาที่ชี้ให้เห็นถึง การที่บทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยามีลักษณะเป็นการเลือก ปฎิบัติเพราะความแตกต่างทางเพศจนนำไปสู่ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวอันเป็นอุปสรรคและปัญหาต่อการดำเนินชีวิตคู่ของหญิงที่เป็นภรรยาในปัจจุบัน ขอบเขตของการศึกษาเน้นที่มิติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับปัญหากรณีสามีทำร้ายภรรยา การศึกษานี้ใช้วิธีวิทยาของนิติสตรีศาสตร์ทำการศึกษาถึงสภาพปัญหาทางข้อกฎหมาย มาตรการที่นำมาปรับใช้กับหญิงที่ถูกสามีทำร้าย ในกระบวนการยุติธรรมทั้งทางแพ่งและทางอาญา สัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างจากผู้หญิงที่เคยถูกสามี ทำร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจตำแหน่งพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมที่มี หน้าที่ในการจัดการกับปัญหาในลำดับต้น และศึกษาถึงดุลยพินิจของศาลที่ใช้ในการตัดสินปัญหาการทำร้ายกันระหว่างคู่สมรส เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางในการกำหนดมาตรการที่เหมาะสมและทำให้กระบวนการยุติธรรมของไทยสามารถแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวได้ดียิ่งขึ้น
ผลจากการศึกษาพบว่า ความไม่เสมอภาคทางเพศมีปรากฎอยู่ไม่เฉพาะแต่ในตัว บทกฎหมายเท่านั้น แต่ยังฝังรากลึกอยู่ในระบบคิด วัฒนธรรมความเชื่อ และความรู้ของบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ระเบียบ คำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นมาตรการเกี่ยวข้องกับหญิงที่ถูกสามีทำร้ายทั้ง การทำร้ายทางร่างกาย การทำร้ายทางจิตใจ และการทำร้ายทางเพศ การพิจารณาและเลือกสรรกฎหมายเพื่อนำมาบังคับใช้ของบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมนั้นไม่อาจตัดขาดจากบริบท ทางสังคมที่เข้าไปมีอิทธิพลอยู่ในกระบวนการยุติธรรมได้ ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเพศที่ปรากฏอยู่นั้นเป็นปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนให้ความรุนแรงในครอบครัวยังคงดำรงอยู่ สาเหตุประการหนึ่ง สืบเนื่องมาจากสภาพสังคมไทยมีลักษณะชายเป็นใหญ่ ผู้ชายจึงมีอำนาจในการกำหนดกฎเกณฑ์เรื่องต่างๆทางสังคม รวมทั้งการบัญญัติกฎหมายด้วย แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนกฎหมายต่างๆ เพื่อพัฒนาไปสู่ความเสมอภาคระหว่างชายหญิงอยู่ตลอดมา แต่ก็ยังไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของกระแสสังคม
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ผู้วิจัยได้เสนอแนะแนวทางในการสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่อง ความเสมอภาคทางเพศเพื่อนำมาใช้สำหรับการจัดการกับปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและ เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ที่เน้นความเสมอภาคและให้บุคคลในครอบครัวมีสิทธิได้รับความคุ้มครองโดยรัฐจากการใช้ความรุนแรงและการปฎิบัติอัน ไม่เป็นธรรม โดยเสนอให้มีกฎหมายเฉพาะเรื่องเพื่อขจัดความรุนแรงในครอบครัว ปรับปรุงระเบียบ คำสั่งที่เป็นอุปสรรคต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว พัฒนา วิธีการ และขั้นตอนการดำเนินคดีให้มีลักษณะพิเศษกว่าการดำเนินคดีอาญาทั่วไป โดยคำนึงถึง การป้องกันมิให้ภรรยาถูกสามีทำร้ายซ้ำ การยับยั้ง และการฟื้นฟูสามีผู้กระทำผิด เพื่อให้สามารถกลับมาดำรงความเป็นครอบครัวต่อไปได้
Abstract:
The problems of inequality between women and men exist in every country in the world In Thai society, the society determines the role of women and they are expected to have more responsibilities than men. Being born female, the role begins in behaving like a good daughter of the family, performing household chores then finally becoming a housewife and a mother. These are stand practice in Thai society. If a woman performs the same role evenly as the man, she is likely to be criticized by society alone. For example in case like; living together before marriage, being unfaithful to the vows of matrimony, and the man having more than one wife.
This thesis has the objective to research on the discrimination of women and the cases of family demoralization in Thai society and to study the code of laws applied concerning the relation of husband and wife as well as the differences in roles that may lead to family demoralization and causing obstacles in the family life of Thai married women today. The scipe of the research emphasized on the study of the laws that are applied with the case of wives who are physically damaged by their husbands. The method of studying the situations of such cases was done with the process of commercial laws. A group of women who encountered such damages were interviewed by a police investigating officer and the court decision was as well studies. Will be used as concepts to determine the suitable laws for court decisions in order to solve family demoralization more effectively.
As a result of the study , it was found out that inequality between women and does not only exist in the book of laws but it is also deeply planted in the minds and cultural beliefs of court authorities, the regulations and the orders that concerns wives being physically damaged by their husband. Discrimination of women is a major factor that creates family demoralization. For one true reason is that in Thai society, the man is the boss therefore he has the power to set all the rules and has more priorities with the laws.
This thesis provides educational concepts about the women discrimination that could help to solve the problems about family demoralization in the line with the constitution of the Kingdom of Thailand of 1990 wherein every member of the family has the right of protection from the injustice of civil servants. It also suggest to improve the regulations and orders that are obstacles in solving the problems of family demoralization and develop the methods and process of investigating civil cases in more justified manner so that the problem will be eradicated and broken families would be brought back as one again.
This thesis has the objective to research on the discrimination of women and the cases of family demoralization in Thai society and to study the code of laws applied concerning the relation of husband and wife as well as the differences in roles that may lead to family demoralization and causing obstacles in the family life of Thai married women today. The scipe of the research emphasized on the study of the laws that are applied with the case of wives who are physically damaged by their husbands. The method of studying the situations of such cases was done with the process of commercial laws. A group of women who encountered such damages were interviewed by a police investigating officer and the court decision was as well studies. Will be used as concepts to determine the suitable laws for court decisions in order to solve family demoralization more effectively.
As a result of the study , it was found out that inequality between women and does not only exist in the book of laws but it is also deeply planted in the minds and cultural beliefs of court authorities, the regulations and the orders that concerns wives being physically damaged by their husband. Discrimination of women is a major factor that creates family demoralization. For one true reason is that in Thai society, the man is the boss therefore he has the power to set all the rules and has more priorities with the laws.
This thesis provides educational concepts about the women discrimination that could help to solve the problems about family demoralization in the line with the constitution of the Kingdom of Thailand of 1990 wherein every member of the family has the right of protection from the injustice of civil servants. It also suggest to improve the regulations and orders that are obstacles in solving the problems of family demoralization and develop the methods and process of investigating civil cases in more justified manner so that the problem will be eradicated and broken families would be brought back as one again.
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ. มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์
Address:
ปทุมธานี
Name: สุวรรณา โชติสุกานต์
Role:
สุวรรณา โชติสุกานต์, ประธานควบคุมวิทยานิพนธ์
Created:
2548-09-27
Modified:
2549-05-18
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
ISBN:
9749928075
CallNumber:
TH. 306.87 ส253ค 2548
tha
DegreeName: ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต
Level: Master's Degree
Descipline: สังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา
Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
RightsAccess:
ใช้เวลา
0.045186 วินาที
สมนิด คำมงคล
| Title | Contributor | Type |
|---|---|---|
| ความไม่เสมอภาคทางเพศด้านกฎหมายกรณีปัญหาความรุนแรงในครอบครัว
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ สมนิด คำมงคล | สุวรรณา โชติสุกานต์ | วิทยานิพนธ์/Thesis |
สุวรรณา โชติสุกานต์