ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตามแผนการดูแลของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในชุมชน

Factors related to compliance with prescribed regimens of patients with chronic obstructive pulmonary disease in the community

Name: ภัทราภรณ์ จุ้ยเจริญ

keyword: ผู้ป่วย

; โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง

; การดูแลผู้ป่วย

Abstract: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive Research) เพื่อศึกษาการปฏิบัติตามแผนการดูแลของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในชุมชน และความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยความพร้อมที่จะปฏิบัติ (แรงจูงใจด้านสุขภาพ การรับรู้ถึงโอกาสเสี่ยงต่อความเจ็บป่วย การรับรู้ความรุนแรงของโรค การรับรู้ประโยชน์ของการรักษา) และปัจจัยร่วม (ค่าใช้จ่าย ระยะเวลาในการรักษา สัมพันธ์ภาพระหว่างผู้ป่วยกับเจ้าหน้าที่บริการสุขภาพ และความต่อเนื่องในการรักษาจากสถานบริการสุขภาพ) กับการปฏิบัติตามแผนการดูแลของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในชุมชน (ด้านการรับประทานยา การรับประทานอาหากร การออกกำลังกาย การมาตรวจตามนัดและ การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง) กลุ่มตัวอย่าง เป็นผู้ป่วยโรคปอด อุดกั้นเรื้อรังซึ่งมารับบริการสุขภาพที่โรงพยาบาลชุมชนขนาด 30 เตียง ในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้แก่ โรงพยาบาลราชสาส์น โรงพยาบาลบางคล้า และโรงพยาบาลแปลงยาว จำนวน 130 ราย เครื่องมือที่ในการรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสัมภาษณ์ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง แบบสัมภาษณ์ความพร้อมที่จะปฏิบัติ ตามแผนการดูแลของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และแบบสัมภาษณ์การปฏิบัติตามแผนการดูแลของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในชุมชน หาค่าความเชื่อมั่นของแบบสัมภาษณ์ โดยใช้สัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาค (Cronbach , s Alpha Coefficient) ได้เท่ากับ .96 และ .71 ผลการวิจัยพบว่า 1. การปฏิบัติตามแผนการดูแลของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในชุมชนอยู่ในระดับมาก 2. แรงจูงใจด้านสุขภาพ การรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อความเจ็บป่วย การรับรู้ความรุนแรงของโรค การรับรู้ประโยชน์ของการรักษามีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตามแผนการดูแล ได้แก่ ด้านการรับประทานยา การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การมาตรวจตามนัดและการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่การรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อความเจ็บป่วยและการรับรู้ประโยชน์ของการรักษามีความสัมพันธ์กับด้านการรับประทานยาอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. ค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการรักษามีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตามแผนการดูแลด้านการรับประทานยา การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การมาตรวจตามนัดและการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4. สัมพันธภาพระหว่างผู้ป่วยกับเจ้าหน้าที่บริการสุขภาพมีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตามแผนการดูแล ด้านการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การมาตรวจตามนัดและ การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอย่างมีนัยทางสถิติที่ระดับ .05 แต่มีความสัมพันธ์กับด้านการรับประทานยาอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5. ความต่อเนื่องในการรักษาจากสถานบริการสุขภาพมีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตามแผนการดูแลด้านการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่มีความสัมพันธ์กับด้านการรับประทานยา การรักประทานอาหาร การออกกำลังกาย การมาตรวจตามนัดอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Abstract: The purpose of this study was to examine factors related to compliance with prescribed regimens of patients with chronic obstructive pulmonary disease in the community. The sample consisted of 130 patients with chronic obstructive pulmonary disease from Ratchasarn Hospital, Bangkhla Hospital, and Plaengyao Hoaspital, Chachoengsao Province. The instruments used in the study were demographic data sheet, recommended sick role behavior questionnaire and sick role behavior questionnaire. Cronbach, s alpha coefficient of the instruments were .96 and .71 The findings revealed that: 1. Compliance with prescribed regimens of patients with chronic obstructive pulmonary disease in the community rated at a good level. 2. Health motivations, perceived susceptibility, perceived severity, perceived benefits were significantly related to compliance with prescribed regimens of drugs, eating, exercise, follow up, and risk v\behaviors (p < .05), but perceived susceptibility and perceived benefits were not significantly related to compliance with prescribed regimens of drugs (p < .05). 3. Cost and treatment duration were not significantly related to compliance with prescribed regimens of drugs, eating, exercise, follow up, and risk behaviors (p < .05). 4. Relationship between health care provider and patients was significantly related to compliance with prescribed regimens of eating, exercise, follow up, and risk behaviors (p < .05), but relationship between health care provider and patients was not significantly related to compliance with prescribed regimens of drugs (p < .05). 5. Follow up treatment in hospital was significantly related to compliance with prescribed regimens of risk behaviors (p < .05), but follow up treatment in hospital was not significantly related to compliance with prescribed regimens of drugs, eating, exercise, and follow up(p < .05).

มหาวิทยาลัยบูรพา.สำนักหอสมุด.

Address: ชลบุรี (Chonburi)

Email: buulibrary@buu.ac.th

Name: วรรณิภา อัศวชัยสุวิกรม

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก

Name: ฉันทนา จันทวงศ์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม

Created: 2550

Issued: 2550-08-25

Modified: 2550-09-03

วิทยานิพนธ์/Thesis

tha

DegreeName: พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: การพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน

Grantor: มหาวิทยาลัยบูรพา

©copyrights มหาวิทยาลัยบูรพา

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	title.pdf	253 KB	180	2024-12-05 04:52:05
2	chapter1.pdf	518.78 KB	181	2024-12-05 04:51:58
3	chapter2.pdf	1.35 MB	180	2024-12-05 04:52:12
4	chapter3.pdf	320.11 KB	120	2024-12-08 23:48:09
5	chapter4.pdf	225.6 KB	108	2020-01-16 21:59:52
6	chapter5.pdf	474.13 KB	123	2025-01-31 04:29:42
7	bibliography.pdf	333.24 KB	105	2024-12-03 21:56:17
8	appendix.pdf	775.09 KB	138	2024-12-03 21:56:23

ใช้เวลา

0.0308 วินาที