กลวิธีในการสร้างความมั่นใจเฉพาะอย่างแก่นักกีฬาของผู้ฝึกสอนกีฬาในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ

Strategies for building self-efficacy in Thai national games coaches

Name: ปัณณทัต รักชนะ

ThaSH: ผู้ฝึกสอนกีฬา

ThaSH: วิธีสร้างความมั่นใจ

Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงกลวิธีในการสร้างความมั่นใจเฉพาะอย่างแก่นักกีฬาของผู้ฝึกสอนกีฬาในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นผู้ฝึกสอนกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นผู้ฝึกสอนกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ จำนวน 306 คน เป็นชาย 225 คน และเป็นหญิง 81 คน โดยการตอบแบบสอบถาม ตามเครื่องมือที่ผู้เชี่ยวชาญ ได้พิจารณาเห็นชอบในประเด็นต่าง ๆ ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับเทคนิคการสร้างความมั่นใจเฉพาะอย่างทั้งก่อนการใช้และประสิทธิภาพของการใช้ โดยใช้การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ การทดสอบที (t-Test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) ในการวิเคราะห์ข้อมูลผลการวิจัยพบว่า กลวิธีในการสร้างความมั่นใจเฉพาะอย่างแก่นักกีฬาทั้ง 13 แบบที่ผู้ฝึกสอนกีฬาชายและหญิงนำมาใช้กับนักกีฬาส่วนใหญ่มีความถี่ในการนำกลวิธีในการสร้างความมั่นใจเฉพาะอย่างมาใช้กับนักกีฬาอยู่ในระดับสูงหรืออย่างน้อยก็ระดับปานกลาง และกลวิธีด้านการแสดงความมั่นใจออกมาให้นักกีฬาเห็น (ผู้ฝึกสอนกีฬาชาย M = 4.66, SD = .75 ผู้ฝึกสอนกีฬาหญิง M = 4.43, SD = .91) แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยผู้ฝึกสอนกีฬาชายมีความถี่ในการนำสูงกว่าผู้ฝึกสอนสอนกีฬาหญิง ส่วนผู้ฝึกสอนกีฬาประเภททีมและประเภทบุคคลก็มีความถี่ในการสร้างความมั่นใจเฉพาะอย่างมาใช้แก่นักกีฬาอยู่ในระดับสูงหรือระดับปานกลางเช่นกันและกลวิธีด้านการแสดงความมั่นใจออกมาให้นักกีฬาเห็น (ผู้ฝึกสอนกีฬาประเภททีม M=4.72,SD=.70 ผู้ฝึกสอนกีฬาประเภทบุคคล M=4.53,SD=.85) และด้านการใช้คำพูดเกลี้ยกล่อมว่านักกีฬาสามารถทำได้ (ผู้ฝึกสอนกีฬาประเภททีม M=4.52,SD=.93 ผู้ฝึกสอนกีฬาประเภทบุคคล M=4.25,SD=1.04) แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยผู้ฝึกสอนกีฬาประเภททีมมีความถี่ในการนำมาใช้สูงกว่าผู้ฝึกสอนกีฬาประเภทบุคคลส่วนด้านประสิทธิภาพในการนำกลวิธีในการสร้างความมั่นใจเฉพาะอย่างมาใช้แก่นักกีฬาทั้ง 13 แบบ พบว่าผู้ฝึกสอนชายและหญิงมีการนำกลวิธีในการสร้างความมั่นใจเฉพาะอย่างมาใช้กับนักกีฬาส่วนใหญ่มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับมากหรืออย่างน้อยก็ระดับปานกลาง โดยผู้ฝึกสอนกีฬาชายและหญิงมีการใช้กลวิธีด้านการสอนและการฝึกฝนทำให้เกิดการพัฒนาความสามารถมากที่สุด (ผู้ฝคกสอนชาย M=4.69,SD=.75 ผู้ฝึกสอนหญิง M=4.48,SD=.88) ส่วนด้านผู้ฝึกสอนกีฬาประเภททีมและประเภทบุคคล พบว่าผู้ฝึกสอนกีฬาประเภททีมและประเภทบุคคล มีการนำกลวิธีในการสร้างความมั่นใจเฉพาะอย่างมากับนักกีฬาส่วนใหญ่มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับมาก หรืออย่างน้อยก็ระดับปานกลาง โดยผู้ฝึกสอนกีฬาประเภททีมและประเภทบุคคลมีการใช้กลวิธีด้านการสอนและการฝึกฝนทำให้เกิดการพัฒนาความสามารถ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด (ผู้ฝึกสอนประเภททีม M=4.68,SD=.73 ผู้ฝึกสอนหญิง M=4.60,SD=.73)

Abstract: The objective of this study was to examine strategies to build self-efficacy of Thai coaches employed during practice and competition. Three hundred and three coaches for the Thai National Games participated in the study (Males=225, females=81). A questionnaire was developed to measure their strategies concerning frequency and efficiency of using self-efficacy techniques employed. The comparative analysis among gender and types of sport were also tested. The t-test and One-Way ANOVA were conducted to test the study hypothesis.For the frequency strategies, the statistical analysis revealed that 13 strategies frequently employed by Thai coaches were at high to moderate levels; no matter what types of sports they did coach. Male coaches (M=4.66,SD=0.75) were found significantly different from female coaches (M=4.43,SD=.91) in terms of their confident expression. The comparison between team and individual sport coaches was found significantly different in the confident expression (team sport; M=4.72,SD=0.70) and individual sport; M=4.53,SD=0.85) and verbal persuasion (team sport; M=4.52, SD=0.93 and individual sport; M=4.25, SD=1.04)For the efficiency of strategies, the statistical analysis also revealed that both gender and types of sport coaches employed were between high and moderate levels. Male coaches (M=4.69,SD=0.75) employed teaching and practicing to improve athlete performance statistically significant better than female (M=4.48,SD=0.88). Fanally, coaches for team sport (M=4.68,SD=0.73) were significantly different from individual sport team (M=4.60,SD=0.83) in teaching and practicing to improve athlete performance technique.

มหาวิทยาลัยบูรพา. สำนักหอสมุด

Address: ชลบุรี (Chonburi)

Email: buulibrary@buu.ac.th

Name: นฤพนธ์ วงศ์จตุรภัทร

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: ประทุม ม่วงมี

Role: กรรมการ

Name: สมศักดิ์ ลิลา

Role: กรรมการ

Created: 2548

Issued: 2549-03-13

Modified: 2549-11-30

วิทยานิพนธ์/Thesis

ISBN: 9745026778

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: วิทยาศาสตร์การออกกำลังกายและการกีฬา

Grantor: มหาวิทยาลัยบูรพา

©copyrights มหาวิทยาลัยบูรพา

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	title.pdf	362.72 KB	93	2025-08-14 09:37:21
2	chapter1.pdf	246.92 KB	110	2025-10-02 03:28:45
3	chapter2.pdf	869.33 KB	148	2024-01-27 09:47:14
4	chapter3.pdf	138.29 KB	87	2021-03-06 16:18:30
5	chapter4.pdf	1.1 MB	69	2021-03-06 16:18:35
6	chapter5.pdf	298.04 KB	78	2021-03-06 16:18:40
7	bibliography.pdf	199.31 KB	67	2021-03-06 16:18:45
8	appendix.pdf	201.76 KB	78	2021-03-06 16:18:51

ใช้เวลา

0.030685 วินาที