การศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาการเรียนการสอน ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

A Study of Problems and Guidelines to Solve the Instructional Problems of Mahachulalongkornrajavidyalaya University in Northeastern Campus

Name: พระครูสังฆรักษ์สมจิต เดชคุณรัมย์

keyword: การศึกษา

ThaSH: ระบบการเรียนการสอน

Classification :.DDC: 378.1

Abstract: การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบปัญหาการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามทัศนะ ของอาจารย์และนิสิต โดยจำแนกตามคณะ ชั้นปี ระยะเวลาในการบวช และหลักสูตรที่ศึกษา ใน 5 ด้าน คือ ด้านอาจารย์ ด้านนิสิต ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านสิ่งสนับสนุนการเรียนการสอน และด้านการวัดผลและประเมินผล การวิจัยครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาปัญหาการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยได้แก่ อาจารย์และนิสิตของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปีการศึกษา 2546 จำนวน 538 รูป/คน แยกเป็นอาจารย์ผู้สอน จำนวน 87 รูป/คน และนิสิต จำนวน 451 รูป ได้สุ่มตัวอย่างตามระดับชั้นแบบเป็นสัดส่วน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็น แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า แยกเป็นแบบสอบถามสำหรับอาจารย์ และนิสิต แบบสอบถามทั้ง 2 ฉบับ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งครอบคลุมทั้ง 5 ด้าน จำนวน 72 ข้อเท่ากัน มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ .97 และเท่ากับ .95 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการทางสถิติ เพื่อหาค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ทดสอบค่าที (t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One-way ANOVA) ขั้นตอนที่ 2 แนวทางแก้ไขปัญหาการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย ใช้การสัมภาษณ์ ผู้ที่มีประสบการณ์และความรู้ความสามารถเกี่ยวกับการเรียนการสอน จำนวน 40 รูป/คน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1. ปัญหาการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขต ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามทัศนะของอาจารย์และนิสิต ทั้งโดยภาพรวมและเป็นรายด้าน อยู่ในระดับปานกลาง โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือด้านสิ่งสนับสนุนการเรียนการสอน รองลงมา ได้แก่ ด้านนิสิต ด้านการวัดผลและประเมินผล ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน และด้านอาจารย์ ตามลำดับ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อทั้ง 5 ด้าน ตามทัศนะของอาจารย์ พบว่า มีปัญหาอยู่ในระดับมาก จำนวน 7 ข้อ ได้แก่ มีความรู้พื้นฐานแตกต่างกันมาก ขาดทุนสนับสนุนการศึกษา การค้นคว้าหาหนังสือในห้องสมุดและอินเทอร์เน็ตไม่สะดวก ห้องสมุดคับแคบที่นั่งไม่เพียงพอ ไม่มีห้องบริการสื่อสำหรับนิสิตค้นคว้าด้วยตนเอง มหาวิทยาลัยขาดข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งการเรียนรู้ภายนอกมหาวิทยาลัย และขาดงบประมาณในการซ่อมแซมและจัดซื้อสื่อการเรียนการสอน และ ตามทัศนะของนิสิต พบว่า มีปัญหาอยู่ในระดับมาก จำนวน 6 ข้อ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอ การค้นคว้าหาหนังสือในห้องสมุดและอินเทอร์เน็ตไม่สะดวก สื่อวัสดุอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอนไม่เพียงพอ ห้องสมุดคับแคบที่นั่งไม่เพียงพอ ห้องปฏิบัติการทางภาษาไม่เพียงพอ และไม่มีห้องบริการสื่อสำหรับนิสิตค้นคว้าด้วยตนเอง 2. ปัญหาการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขต ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามทัศนะของอาจารย์ที่เป็นพระภิกษุและฆราวาส โดยภาพรวม แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนนิสิตที่มีสถานภาพ คณะ ชั้นปี ระยะเวลาในการบวช และหลักสูตรที่ศึกษาแตกต่างกัน มีทัศนะเกี่ยวกับปัญหาการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยภาพรวมและรายด้าน แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยนิสิตคณะมนุษยศาสตร์ นิสิตชั้นปีที่ 3 นิสิตมีระยะเวลาในการบวช 4-6 ปี และนิสิตที่ศึกษาในหลักสูตรภาคปกติ มีทัศนะเกี่ยวกับปัญหาการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยสูงกว่า นิสิตที่สังกัดคณะ มีชั้นปี มีระยะเวลา ในการบวชอื่น ๆ และศึกษาในหลักสูตรภาคพิเศษ 3. อาจารย์ผู้สอนเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนี้ ควรสอนตามเกณฑ์ภาระงาน พร้อมทั้งศึกษาหาความรู้และประสบการณ์ในการใช้หรือผลิตสื่อการสอนใหม่ ๆ จัดอบรมความรู้พื้นฐานสำหรับนิสิต จัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรให้สอดคล้องกับเนื้อหาวิชา จัดระบบการสืบค้นหาหนังสือในห้องสมุดและอินเทอร์เน็ตให้สะดวกยิ่งขึ้น ปรับเกณฑ์การให้ระดับคะแนนของมหาวิทยาลัยที่เป็นมาตรฐาน ส่วนนิสิตได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาการเรียนการสอน ดังนี้ ควรมีเทคนิคในการถ่ายทอดความรู้ มีกองทุนการศึกษาสำหรับนิสิต การมอบหมายงาน ให้นิสิตไม่ควรมากเกินไป จัดหาคอมพิวเตอร์สำหรับศึกษาและค้นคว้าให้เพียงพอ และ เกณฑ์การให้ระดับคะแนนของมหาวิทยาลัยควรเป็นมาตรฐานสากล The objectives of the research were to study and compare the instructional problems of Mahachulalongkornrajavidyalaya University in Northeastern Campus as perceived by teachers and students regarding to their faculties, levels of studies, monkhood experience and their curriculums. There are two phases in the research. The first phase was the study of instructional problems of Mahachulalongkornrajavidyalaya University in Northeastern Campus. The sample group studied was 538 teachers and students of the university in the year 2003. They were 87 teachers and 451 students who were randomly stratified. Two rating-scale questionaires, one for the teachers and the other for the students, were used in collecting data. The content in both questionaires covered all five aspects with seventy-two items. Their reliability was 0.97 and 0.95. Mean, standard deviation, t-test and One-way ANOVA were employed in the data analysis. The second phase was the study of the guidelines to solve the instructional problems. Interviewing forty qualified and experienced persons was used while the content analysis was employed in data analysis. The research found that 1. Regarding the instructional problems of Mahachulalongkornrajavidyalaya University in Northeastern Campus, as perceived by teachers and students, it was at the average level, when generally and specifically considered. The highest mean was the aspect relating to instructional supporting materials, the students, the evaluation and assessment, the instructional activities and the teachers respectively. When specifically considered, as perceived by the teachers, the problems showed the high level in seven items. They were highly different backgrounds, inadequacy in instructional support, inconvenience in searching the Internets or texts in the library, not enough room in the library, no private room for self-study, information deficiency of outside resources, and not enough budgets for instructional maintenance and purchasing. As perceived by the students, the problems were at the high level in six items. They were not enough computers, inconvenience in searching the internets or texts in the library, not enough instructional materials, not enough room in the library, not enough language laboratories, and no private room for self-study. 2. Regarding the instructional problems of Mahachulalongkornrajavidyalaya University in Northeastern Campus as perceived by the teachers who were Buddhist monks and lay people, there was no statistically significant difference at .05 level, when generally considered. Students, with their differences in status, faculties, levels of studies, and curriculums, showed statistically significant difference at the .05 level, when generally and specifically considered. The third year students, in the faculty of humanities and social sciences, whose monkhood ages were 4-6 years, and the weekday students, showed their perception towards the instructional problems higher than those studying in the others faculties, at other levels of studies, with other length of monkhood experience, and the weekend students. 3. Regarding the guidelines, suggested by the teachers, to solve the instructional problems of Mahachulalongkornrajavidyalaya University in Northeastern Campus, they were as follows: teachers should follow the criteria of teaching tasks and they should further their studies and experiences in the innovation on teaching and instructional materials. Moreover, there should be student training in basic knowledge and organize extra curriculum activities that are accurate to the contents studied. Additionally, library and the internets searches should be systemized and more convenient. Criteria of university grading should be standardized. Considering the students, they suggested that the teachers should have strategies in transferring knowledge. There should be educational fund for students. There should not be too many assignments. Moreover, there should be enough computers for students to search academic information. Finally, criteria of university grading should be internationally standardized.

สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

Email: library@nrru.ac.th

Name: สมบูรณ์ ตันยะ

Role: ประธานกรรมการ

Name: ประมวล ตันยะ

Role: กรรมการ

Created: 2548

Modified: 2023-02-15

Issued: 2549-09-22

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9743163816

CallNumber: 378.1

tha

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: บริหารการศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	prakrusangkhanruksomchit.pdf	4.95 MB	1941	2025-09-28 21:44:48

ใช้เวลา

0.025264 วินาที