การวิเคราะห์ความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบและความได้เปรียบเชิงแข่งขันของอุตสาหกรรมปลาทูน่ากระป๋องของประเทศไทย

An analysis of comparative and competitive advantage of Thailand canned tuna industry

Name: พาสิริ พุฒิโภคิน

Name: Pasiri Putthipokin

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์. วท.ม. (เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ) 2544

ThaSH: อุตสาหกรรมปลาทูน่ากระป๋อง -- ไทย

ThaSH: ปลาทูน่า -- การตลาด

Abstract: อุตสาหกรรมปลาทูน่ากระป๋องเป็นอุตสากรรมส่งออกที่สามารถทำรายได้เงินตราต่างประเทศปีละไม่ต่ำว่า 10,000 ล้านบาท ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2531-2542) โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญคือ ตลาดสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป แคนาดา ออสเตรเลียและญี่ปุ่น ปัจจุบันอุตสาหกรรมปลาทูน่ากระป๋องของประเทศไทยกำลังเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรงจากประเทศคู่แข่งที่มีวัตถุดิบปลาทูน่าและมีค่าจ้างแรงงานที่ต่ำกว่า ได้แก่ ประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย เป็นต้นการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพทั่วไป โครงสร้างการผลิต การส่งออกของอุตสาหกรรมปลาทูน่ากระป๋องของประเทศไทย ความได้เปรียบโดยเปรียงเทียบระหว่างช่วงก่อนและหลังการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน และศึกษาความได้เปรียบเชิงแข่งขันของอุตสาหกรรมปลาทูน่ากระป๋องของประเทศไทยโดยเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่งสำคัญคือ ประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียในการศึกษาความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบจะใช้ทฤษฎีความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบและค่าดัชนีความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบที่ปรากฎ (RCA) ในช่วงปี พ.ศ.2537-2542 ส่วนการศึกษาความได้เปรียบเชิงแข่งขันจะใช้แนวคิดทฤษฎีความได้เปรียบเชิงแข่งขันของ Michael E. Porterจากการศึกษาพบว่า ประเทศทยมีความได้เปรียบเหนือประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียในทุกปัจจัย กำหนดความได้เปรียบเชิงแข่งขน ยกเว้นปัจจัยด้านสภาวะปัจจัยการผลิตในประเทศในส่วนของการขาดแคลนวัตถุดิบและค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการส่งออกโดยมีค่า RCA>1 ในทุกตลาดส่งออกสำคัญทั้งช่วงก่อนและหลังการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน ในขณะที่ประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียไม่มีศักยภาพในการส่งออกโดยมีค่า RAC<1 ในช่วงหลังการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดออสเตรเลีย อย่างไรก็ตามในช่วงหลังการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนไทยมีแนวโน้มค่า RCA ลดลงในตลาดสหภาพยุโรป แคนาดา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น เนื่องจากประเทศไทยเสียเปรียบประเทศคู่แข่งในด้านการขาดแคลนวัตถุดิบและค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับประสบภาวะการแข่งขันที่รุนแรงและการกีดกันทางการค้าของประเทศผู้นำเข้า ดังนั้นผู้ประกอบการควรพัฒนาสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่ม (Value added) สูงขึ้นเพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าให้สูงกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญที่มีค่าจ้างแรงงานต่ำกว่าแต่มีเทคโนโลยีการผลิตที่ล้าสมัยตกว่าประเทศไทย รวมทั้งควรขยายการส่งออกไปตลาดใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพเพื่อทดแทนตลาดส่งออกเดิมที่กำลังสูญเสียความสามารถในการส่งออก เพื่อให้อุตสาหกรรมปลาทูน่ากระป๋องของประเทศไทยยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำในการส่งออกในตลาดโลกต่อไป Canned tuna industry is the exporting industry that makes foreign incomes more than 10,000 million baths anually to Thailand for last 12 years (1988-1999). The important exporting markets of Thailand canned tuna industry are the United States of America, European Union, Canada, Australia and Japan. Nowadays, Thailand canned tuna industry is facing the strong competition from other competitive countries such as Philippines and Indonesia which have tuna raw materials and lower wage rate.The objectives of this study are to examine the general characteristic, structure of production of and exporting of Thailand canned tuna industry, the comparative advantage between before and after exchange rate changing and the competitive advantage of Thailand canned tuna industry by comparing with Philippines and Indonesia.In studying the comparative advantage uses Comparative Advantage Theory and Revealed Comparative Advantage Indux (RCA) from 1994-1999 and in studying of the competitive advantage uses Michael E. Porter's Competitive Advantage Theory.The results of this research are Thailand has an advantage over Philippines and Indonesia in all competitive factors, except factor of production : the shortage of raw materials and the increasing of wage rate. Thus, Thailand has export potential (RCA>1) in every important export potential (RCA<1) in Australia Market. However, Thailand has decreasing RCA value in Europian Union, Canada, Australia and Japan market in after exchange rate changing because Thailand has disvantages to the shortage of raw materials and the increasing of wage rate. Morever, Thailand is facing strong competition from other competitive countries and trade barriers of importers' countries. Therefore, canned tuna processors should develop more value added products in order to get higher quality than other important competitive countries which have lower wage but inferior in processing technologies and should expand exporting to other new potential markets in order to replace the old ones that Thailand is losing the export ability. Then, Thailand canned tuna industry will be the leading exporter in the world.

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. สำนักหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร (Bangkok)

Name: มานวิภา อินทรทัต

Role: ประธานกรรมการที่ปรึกษา

Created: 2544

Issued: 2548-08-06

Modified: 2006-05-25

วิทยานิพนธ์/Thesis

URL: http://www.lib.ku.ac.th/KUthesis/PasiriPut/index.html

ISBN: 974-461-866-3

CallNumber: HD9469.T8 .พ28

tha

ไทย

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ

Grantor: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

©copyrights มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	cert.pdf	36.87 KB	67	2025-01-24 21:04:33
2	tp.pdf	19.75 KB	69	2020-08-28 16:53:14
3	abst.pdf	111.1 KB	131	2022-01-07 15:23:00
4	ack.pdf	41.51 KB	65	2020-04-28 23:18:48
5	toc.pdf	274.85 KB	78	2020-08-28 16:53:31
6	chapter1.pdf	719.87 KB	203	2025-01-24 21:05:12
7	chapter2.pdf	1.13 MB	275	2022-01-07 15:23:05
8	chapter3.pdf	1.82 MB	181	2022-01-07 15:23:07
9	chapter4.pdf	1.98 MB	168	2022-01-07 15:23:10
10	chapter5.pdf	456.53 KB	132	2022-01-07 15:23:13
11	ref.pdf	162.1 KB	87	2022-01-07 15:23:15
12	appdx.pdf	678.66 KB	97	2022-01-07 15:23:18

ใช้เวลา

0.043238 วินาที