Factors influencing "Brain drain" among professional nurses from public to private sector in Bangkok Metropolitan area

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อภาวะสมองไหลของพยาบาลวิชาชีพ จากภาครัฐบาลไปสู่ภาคเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร

Name: Nantiya Chookaew

ThaSH: Nurses

ThaSH: Brain drain -- Thailand

ThaSH: Professions -- Thailand

Abstract: The objective of this study was to determine the factors influencing "Brain Drain" among professional nurses from public to private sector in Bangkok Metropolitan Area. The study based on case-control study (Unmatched case-control) was conducted in 10 hospitals and 10 private hospitals from November 22, 1993 to January 21, 1994. Data was collected by a self-administered questionnaire. The case group was nurses in the private hospital who have received a bachelor degree in nursing from 1988 to 1992, worked in the public sector for at least 6 months and shifted from public to private sector for not more than 2 years. The control group was nurses in the public hospital who have received a bachelor degree in nursing from 1988 to 1992 and have been working in the public sector for at least 6 months. the total of 151 cases and 150 controls were collected during this period. The result of these studies found that 5 factors have a significant association with Brain Drain at p < 0.05, these were analysed by univariate analysis : spouse's occupation, convenience of travelling of work, compensation, working condition, and supervision. Spouse's occupation, convenience of travelling to work, compensation, and working condition were found to be a significant negative association. So the only one factor was supervision which is the main factor associated with Brain Drain Nurses who are dissatisfied with supervision are at risk to Brain Drain 2.63 times more than nurses having satisfaction with supervision. Factors which are not a significant association with Brain Drain were : marital status, number of dependents, family income, salary, fringe benefit, work itself, interpersonal relations, advancement opportunity, policy and administration. Analysis the predictive factors of Brain Drain by multiple logistic regression could not be done for this study due to a significant negative association. 4. Factors which have a significant negative association may be artificial association from random bias or recall bias. The result of this study recommend to hospital administration should established supervision and management training schemes. To create a good leadership style and type of management who are sensitive to the needs of all nursing and associated staff and patients

Abstract: ทำการศึกษาในโรงพยาบาลภาครัฐ 10 แห่ง และภาคเอกชน 10 แห่ง เริ่มศึกษาตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2536 ถึงวันที่ 21 มกราคม 2537 วิธีเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม กลุ่มศึกษาคือ พยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการพยาบาล ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 ถึง 2535 เคยทำงานอยู่ในภาครัฐบาลมาก่อนอย่างน้อย 6 เดือน และลาออกมาอยู่ภาคเอกชนไม่เกิน 2 ปี และกลุ่มควบคุมคือ พยาบาลในโรงพยาบาลรัฐบาลที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการพยาบาล ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 ถึง 2535 ยังคงทำงานอยู่ในภาครัฐบาลอย่างน้อย 6 เดือน จำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา กลุ่มศึกษา 151 คน กลุ่มควบคุม 150 คน ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มศึกษาและกลุ่มควบคุม มีปัจจัยเกี่ยวกับอาชีพสามี, ความสะดวกในการเดินทางมาทำงาน, ค่าตอบแทน, สภาพแวดล้อมในการทำงาน และการนิเทศงาน มีความสัมพันธ์กับภาวะสมองไหลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 วิเคราะห์โดย UNIVARIATE ANALYSIS พบว่าอาชีพสามี, ความสะดวกในการเดินทางมาทำงาน, ค่าตอบแทนและสภาพแวดล้อมในการทำงาน มีความสัมพันธ์ในเชิงตรงข้ามกับภาวะสมองไหล ดังนั้นมีเพียงปัจจัยเดียว คือ การนิเทศงานที่เป็นปัจจัยสำคัญที่มีความสัมพันธ์โดยตรง กับภาวะสมองไหล กล่าวคือ พยาบาลที่มีความไม่พึงพอใจในการนิเทศงานมีโอกาสเสี่ยงต่อภาวะสมองไหล เป็น 2.63 เท่าของพยาบาลที่มีความพึงพอใจในการนิเทศงาน สำหรับปัจจัยที่พบว่าไม่มีความสัมพันธ์กับภาวะสมองไหล ได้แก่ สถานภาพสมรส, จำนวนบุคคลที่ต้องอุปการะ, รายได้ครอบครัว, เงินเดือน, สวัสดิการ, ลักษณะงาน, ความสัมพันธ์กับผู้ร่วมงาน, โอกาสก้าวหน้าในวิชาชีพ, นโยบายและการบริหารงาน สำหรับการวิเคราะห์สมการทำนายภาวะสมองไหล โดย MULTIPLE LOGISTIC REGRESSION ไม่สามารถคำนวณได้เนื่องจากมีปัจจัย 4 ตัวที่มีความสัมพันธ์ในเชิงตรงข้าม และมีเพียง 1 ปัจจัยที่มีผลโดยตรง สำหรับปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ในเชิงตรงข้าม อาจเป็นความสัมพันธ์ชนิดไม่จริง อาจเกิดจากอคติที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ หรืออาจเกิดจากอคติจากการถามย้อนหลัง ข้อเสนอแนะสำหรับผู้บริหาร ควรที่จะวางแผนจัดอบรมเกี่ยวกับการนิเทศงาน และการบริหารงานสำหรับผู้นิเทศงาน เพื่อที่จะสร้างเสริมลักษณะของผู้นำ และลักษณะการบริหารงานที่ดี ซึ่งมีผลต่อการพยาบาล ผู้ร่วมงาน และผู้ป่วย

Chulalongkorn University. Center of Academic Resources

Address: BANGKOK

Email: cuir@car.chula.ac.th

Name: Kamjorn Tatiyakavee

Role: Advisor

Name: Chanvit Kotheeranurak

Role: Advisor

Created: 2537

Modified: 2553-11-26

Issued: 2010-11-26

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9745844128

eng

DegreeName: Master of Science

Level: Master's Degree

Descipline: Health Development

Grantor: Chulalongkorn University

©copyrights Chulalongkorn University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	nantiya_ch.pdf	6.65 MB	90	2024-03-08 12:46:31

ใช้เวลา

0.022839 วินาที