ผลการใช้ยูเรียสำหรับเลี้ยงกุ้งกุลาดำ (Penaeus monodon) ในระบบปิด

Effects of using urea on black tiger shrimp (Penaeus monodon) cultured in closed system

Name: สุพันธ์ณี สุวรรณภักดี

keyword: มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การเกษตร วิทยานิพนธ์ 2551

ThaSH: วิทยานิพนธ์ -- -- ไทย -- -- 2551

ThaSH: ปุ๋ยยูเรีย

ThaSH: ยูเรีย

ThaSH: กุ้งกุลาดำ -- -- การเลี้ยง

Abstract: ยูเรียเป็นปุ๋ยเคมีที่มีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นไนโตรเจนมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เนื่องจากเป็นแหล่งไนโตรเจนที่มีราคาถูก และเป็นแหล่งไนโตรเจนที่สำคัญสำหรับจุลินทรีย์ในระบบนิเวศของบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ อย่างไรก็ตามองค์ความรู้ของการใช้ยูเรียในการเลี้ยงกุ้งกุลาดำในระบบปิดยังมีน้อย ดังนั้นจึงทำการศึกษาผลการใช้ยูเรียสำหรับเลี้ยงกุ้งกุลาดำ (Penaeus monodon) ในระบบปิด โดยวางแผนการศึกษาออกเป็น 4 การทดลอง คือ การทดลองที่ 1 ศึกษาถึงระดับความเข้มข้นของยูเรียที่ปลอดภัยสำหรับลูกกุ้งระยะโพสลาวา 15 โดยใช้ยูเรีย 6 ความเข้มข้น คือ 0 5,000 10,000 15,000 20,000 และ 25,000 ส่วนในล้านส่วน ผลการศึกษาพบว่าระดับความเข้มข้นของยูเรียที่ทำให้กุ้งตาย 50 เปอร์เซ็นต์ (LC50) คือ 20,806 ส่วนในล้านส่วน และระดับความเข้มข้นที่ปลอดภัยสำหรับลูกกุ้ง คือ 2,081 ส่วนในล้านส่วน การทดลองที่ 2 เพื่อศึกษาถึงความเข้มข้นที่เหมาะสมของยูเรียต่อการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำและการเจริญเติบโตของกุ้ง โดยทำการเลี้ยงกุ้งน้ำหนักเฉลี่ย 9.44 + 0.17 กรัม ที่ระดับความหนาแน่น 10 ตัวต่อน้ำทะเลความเค็ม 20 ส่วนในพันส่วนจำนวน 70 ลิตร เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ โดยใช้ยูเรียที่ระดับความเข้มข้น 0 0.625 1.25 และ 2.50 ส่วนในล้านส่วน ผลการศึกษาพบว่ายูเรียที่ระดับความเข้มข้น 1.25 ส่วนในล้านส่วน เป็นระดับความเข้มข้นที่เหมาะสมที่กุ้งมีการเจริญเติบโตดีกว่าการทดลองชุดอื่นๆ และมีความเข้มข้นของไนไตรท์น้อยที่สุด ส่วนคุณภาพน้ำอื่นไม่มีความแตกต่าง การทดลองที่ 3 เพื่อศึกษาถึงความถี่ที่เหมาะสมของการใช้ยูเรียต่อคุณภาพน้ำและการเจริญเติบโตของกุ้ง โดยแบ่งการทดลองออกเป็น 3 ชุดการทดลองๆ ละ 5 ซ้ำ คือ ชุดควบคุมไม่เติมยูเรีย เติมยูเรียครั้งแรกเพียงครั้งเดียว และเติมยูเรียสัปดาห์ละครั้ง โดยใช้ยูเรียที่ระดับความเข้มข้น 1.25 ส่วนในล้านส่วน เลี้ยงเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ ผลการศึกษาพบว่าการเติมยูเรียความเข้มข้น 1.25 ส่วนในล้านส่วน สัปดาห์ละครั้งทำให้การเจริญเติบโตของกุ้งดีที่สุด และช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียกลุ่ม AOB อีกทั้งยูเรียที่ใส่ลงไปไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพน้ำ สำหรับการทดลองที่ 4 ศึกษาถึงการประยุกต์ใช้ยูเรียในสภาวะที่มีดินเหมือนกับการเลี้ยงกุ้งในบ่อ โดยแบ่งการทดลองออกเป็น 2 ชุดการทดลอง คือ ชุดการทดลองที่ไม่มีการเติมยูเรีย และชุดการทดลองที่เติมยูเรียทุกสัปดาห์ที่ระดับความเข้มข้น 1.25 ส่วนในล้านส่วน เลี้ยงเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ ผลการศึกษาพบว่าการเติมยูเรียอย่างต่อเนื่องในสภาวะการเลี้ยงที่มีดินไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำเช่นเดียวกับการทดลองก่อนหน้านี้ และในชุดที่เติมยูเรียทุกสัปดาห์ที่ระดับความเข้มข้น 1.25 ส่วนในล้านส่วน (2 กิโลกรัมต่อไร่) กุ้งมีการเจริญเติบโตสูงกว่าชุดการทดลองที่ไม่มีการเติมยูเรีย การศึกษาครั้งนี้สรุปได้ว่ายูเรียเป็นแหล่งไนโตรเจนที่สำคัญชนิดหนึ่งที่ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและแพลงก์ตอนพืชในน้ำ ที่จะส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของกุลาดำที่เลี้ยงในระบบปิด และควรใช้ในความเข้มข้น 1.25 ส่วนในล้านส่วน โดยเติมเป็นประจำทุกสัปดาห์

Abstract: Urea, a nitrogen-containing chemical product, has been widely used in aquaculture due to its relatively cheap source of nitrogen and being an important source of nitrogen for microorganisms in the ecosystem of aquaculture pond. However, a knowledge of using urea in the shrimp closed culture system has not been reported. In this study, four sets of experiments were performed to determine the effects of using urea on black tiger shrimp (Penaeus monodon) when reared in closed system. The first experiment was to clarify a safety concentration of urea to post-larva 15. Six urea concentrations of 0, 5,000, 10,000, 15,000, 20,000 and 25,000 ppm were tested. The results showed that 50% lethal concentration (LC50) of urea was 20,806 ppm and the safety concentration was 2,081 ppm for post-larva 15 of P. monodon. The second experiment was to determine the optimal concentration of urea on the changing of water qualities and growth of the shrimps. Shrimps of an average body weight 9.44 + 0.17 g were reared at a density of 10 individuals per tank of 70 liters at a salinity of 20 ppt for six weeks. Urea was initially added at the concentrations of 0, 0.625, 1.25 and 2.50 ppm. It was found that using of urea at a concentration of 1.25 ppm was considered to be the best concentration according to the best growth rate of the shrimps and low nitrite concentration of the rearing water. The third experiment was to determine the optimal frequency of using urea in shrimp culture. The experiment consisted of three treatments: control (without urea add), single adding of urea at a concentration of 1.25 ppm (at the initial of experiment) and adding of urea at a concentration of 1.25 ppm weekly. The experiment was carried out for six weeks. The results showed that the continuous adding of urea at a concentration of 1.25 ppm weekly enhanced shrimp and the population of ammonia oxidizing bacteria (AOB) growths with no significant effect on water qualities. The last experiment was to determine growth of shrimp reared in tanks providing with soil substrate. There were two treatments and four replications including treatments of control (no urea added) and adding of urea at a concentration of 1.25 ppm weekly. The experiment was carried out for eight weeks. The results showed that the continuous adding of urea at a concentration of 1.25 ppm gave the better growth of shrimp under the condition of having soil substrate and without a significant effect on water qualities. This study concluded that urea was a suitable source of nitrogen in order to promote growth of bacterial and phytoplankton populations and consequently enhancing growth of shrimp in the closed culture system. It suggested to add urea at a concentration of 1.25 ppm weekly into the closed culture system.

WALAILAK UNIVERSITY. CENTER FOR LIBRARY RESOURCES AND EDUCATIONAL MEDIA

Address: NAKON SI THAMMARAT

Email: clm@wu.ac.th

Name: อนุชิต ชินาจริยวงศ์

Created: 2553-09-15

Modified: 2553-09-15

Issued: 2553-09-15

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: QD315 ส7ผ 2551

tha

Spatial: ไทย

DegreeName: Master of Science (Agricultural Science)

Level: Master's Degree

Descipline: Agricultural Science

Grantor: Walailak University

©copyrights มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	front pages.pdf	218.73 KB	39	2020-03-22 11:21:43
2	abstract.pdf	71.22 KB	26	2020-12-03 13:44:37
3	chapter1.pdf	44.56 KB	23	2020-03-22 11:22:10
4	chapter2.pdf	120.16 KB	37	2023-06-17 15:40:02
5	chapter3.pdf	533.12 KB	26	2024-05-23 21:55:31
6	chapter4.pdf	491.62 KB	22	2021-05-23 05:52:50
7	chapter5.pdf	37.1 KB	23	2020-03-22 11:22:53
8	bibliography.pdf	94 KB	21	2020-03-22 11:23:02
9	appendix.pdf	150.35 KB	21	2020-03-22 11:23:11
10	cv.pdf	67.43 KB	18	2020-03-22 11:23:20

ใช้เวลา

-0.970808 วินาที