แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
อลิสา เลขะวัฒนะ. ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยจูงใจและปัจจัยเกื้อหนุนในการทำงานของพนักงานราชการสำนักงานสหกรณ์จังหวัดในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. ปริญญาโท(การจัดการ). มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ. : มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 2553.
ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยจูงใจและปัจจัยเกื้อหนุนในการทำงานของพนักงานราชการสำนักงานสหกรณ์จังหวัดในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
The Relationship between Motivator and Hygiene Factors in the Job Performance of Government Employees at the Offices of Provincial Co-operative in the Northeastern Part of Thailand
Name: อลิสา เลขะวัฒนะ
keyword:
แรงจูงใจในการปฏิบัติงาน
ThaSH:
ขวัญในการทำงาน
Classification :.DDC: 658.314
Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยจูงใจและปัจจัยเกื้อหนุนในการทำงานของพนักงานราชการสำนักงานสหกรณ์จังหวัด ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเปรียบเทียบปัจจัยจูงใจในการทำงานและปัจจัยเกื้อหนุนในการทำงานของพนักงานราชการสำนักงานสหกรณ์จังหวัด ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ พนักงานราชการสำนักงานสหกรณ์จังหวัด ในเขต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัด ศรีสะเกษ จังหวัดยโสธร จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดขอนแก่น จังหวัดสกลนคร จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดนครพนม จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดเลย จังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดหนองคาย พ.ศ. 2550 จำนวน 350 คน จากการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิอย่างเป็นสัดส่วน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับปัจจัยจูงใจในการทำงาน และปัจจัยเกื้อหนุนในการทำงาน มีลักษณะเป็นแบบประเมินค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่น 0.92 และ 0.94 ตามลำดับสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า t การทดสอบค่า F และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ปัจจัยจูงใจในการทำงาน มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับปัจจัยเกื้อหนุนในการทำงานของพนักงานราชการ สำนักงานสหกรณ์จังหวัด ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2. พนักงานราชการสำนักงานสหกรณ์จังหวัด ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีปัจจัยภูมิหลังแตกต่างกัน จะมีปัจจัยจูงใจในการทำงานและปัจจัยเกื้อหนุนในการทำงานแตกต่างกัน ดังนี้
2.1 พนักงานราชการที่มีปัจจัยส่วนบุคคลเมื่อจำแนกตาม เพศ ระดับการศึกษา สถานภาพสมรส ภูมิลำเนาตามขนาดของจังหวัด และขนาดของจังหวัดที่ปฏิบัติงานแตกต่างกัน จะมีปัจจัยจูงใจในการทำงานแตกต่างกัน ส่วนปัจจัยส่วนบุคคลด้านอายุที่แตกต่างกัน จะมีปัจจัย จูงใจในการทำงานไม่แตกต่างกัน
2.2 พนักงานราชการที่มีปัจจัยส่วนบุคคลเมื่อจำแนกตาม เพศ อายุ ระดับการศึกษา ภูมิลำเนาตามขนาดของจังหวัด และขนาดของจังหวัดที่ปฏิบัติงานแตกต่างกัน จะมีปัจจัยเกื้อหนุนในการทำงานแตกต่างกัน ส่วนปัจจัยส่วนบุคคลด้านสถานภาพสมรสที่แตกต่างกัน จะมีปัจจัยเกื้อหนุนในการทำงานไม่แตกต่างกัน
This research aimed to study the relationship between motivator and hygiene factors and to compare these two types of factors in the job performance of government employees at the provincial cooperative offices in the northeastern part of Thailand, which comprised 19 provinces: Ubon Ratchathani, Amnat Chareon, Sisaket, Yasothon, Surin, Burirum, Nakon Ratchasima, Chaiyapoom, Roi-et, Mahasarakam, Khokaen, Sakon Nakon, Mukdahan, Nakon Phanom, Kalasin, Udon Thani, Lei, Nongbua Lampoo, and Nongkai. The sample group of 350 subjects were selected from the whole population of the government employees working in the provincial cooperative offices in all these provinces in 2007. The proportionate stratified random sampling was employed in the selecting process. The research instrument was a questionnaire on the motivator and hygiene factors with a five-level Likert scale, yielding the reliability values of .92 and .94 respectively. The data were analyzed using percentage, mean, standard deviation, t-test, F-test, and Pearson Product Moment Correlation.
The findings were as follows:
1. The motivator factors had significantly positive relationship with the hygiene factors at the level of .01
2. The government employees background, motivator factors, and hygiene factors were compared and the results were as follows:
2.1 There was significant difference in the motivator factors among those who were different in gender, education, marital status, size of the province of their residence, and size of the province of their work place. No significant difference was, however, found regarding the motivator factors perceived by those who were different in age.
2.2 There was significant difference in the hygiene factors among those who were different in gender, age, education, size of the province of their residence, and size of the province of their work place. No significant difference was, however, found regarding the motivator factors perceived by those who were different in marital status.
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
Address:
อุบลราชธานี
Email:
info.lib@ubru.ac.th
Role:
ประธานกรรมการที่ปรึกษา
Role:
กรรมการที่ปรึกษา
Created:
2553
Modified:
2554-08-25
Issued:
2554-08-09
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
tha
DegreeName: บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
Level: ปริญญาโท
Descipline: การจัดการ
Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
RightsAccess:
ใช้เวลา
-0.939498 วินาที
อลิสา เลขะวัฒนะ
| Title | Contributor | Type |
|---|---|---|
| ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยจูงใจและปัจจัยเกื้อหนุนในการทำงานของพนักงานราชการสำนักงานสหกรณ์จังหวัดในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี อลิสา เลขะวัฒนะ | รองศาสตราจารย์ ดร.ทองใบ สุดชารี รองศาสตราจารย์บุญยืน ชัยสุโรจน์ | วิทยานิพนธ์/Thesis |
รองศาสตราจารย์ ดร.ทองใบ สุดชารี
รองศาสตราจารย์บุญยืน ชัยสุโรจน์