Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดการสอน
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนบ้านหนองยาว อำเภอเดชอุดม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 จำนวน 100 คน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/3 โรงเรียนชุมชนบ้านหนองยาว อำเภอเดชอุดม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ ชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งได้ค่าความยากง่ายตั้งแต่ .44 ถึง .80 และค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ .25 ถึง .63 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .82 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.78/84.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่ตั้งไว้
2. คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หลังจากที่เรียนโดยใช้ชุดการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
The purposes of this research were to develop instructional packages in career and technology strand Prathom Suksa 6 level, and to compare the pupils learning achievement before and after using the packages.
The samples used in this study were 30 pupils, of Ban Nongyao Community School, under the Jurisdiction of Ubon Ratchathani Educational Service Area Office 5 in the second semester of the academic year 2007. The samples gained by simple random sampling. The research tools consisted of the packages, and the learning achievement test. The difficulty indices of the test ranged from .44 - .80, the discrimination indices ranged from .25 - .63, and the reliability value was .82. The data were analyzed by using percentage, mean, standard deviation, and t-test.
The research findings were as follows:
1. The instructional packages were efficient since the criteria were 82.78/84.17 which were above the standardized criteria of 80/80.
2. The pupils learning achievement after using the packages, was significantly higher than that before using them at the .01 level.