แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
จงกลมณี เสน่หา. วิถีเศรษฐกิจพอเพียงว่าด้วยชุมชนหมู่บ้านราชธานีอโศก ตำบลบุ่งไหม อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี. ปริญญาโท(เศรษฐศาสตร์การเมือง). มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ. : มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 2551.
วิถีเศรษฐกิจพอเพียงว่าด้วยชุมชนหมู่บ้านราชธานีอโศก ตำบลบุ่งไหม อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
Self-sufficiency and Rajathani Asoke Village im Tambol Bung Mai, Warinchamrab District of Ubon Ratchathani Province, Thailand
Name: จงกลมณี เสน่หา
ThaSH:
เศรษฐกิจพอเพียง
Classification :.DDC: 330.1
ThaSH:
ราชธานีอโศก
Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิถีการดำเนินชีวิตด้านสภาพทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม รวมถึงสภาพปัญหาและวิธีแก้ไขปัญหา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ของชุมชนหมู่บ้านราชธานีอโศก เพื่อนำเสนอเป็นแนวทางในการพัฒนาท้องถิ่นอื่น ๆ ในการใช้ดำเนินชีวิต
ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ประชาชนที่เป็นสมาชิกในชุมชนหมู่บ้านราชธานีอโศก ตำบลบุ่งไหม อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 370 คน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ประชาชนที่เป็นสมาชิกในชุมชนหมู่บ้านราชธานีอโศก ตำบลบุ่งไหม อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 191 คน จำแนกตามเพศ อายุ ระดับการศึกษา ระยะเวลาที่อาศัยอยู่ในชุมชน บทบาทในชุมชน ฐานงานที่รับผิดชอบ และหน้าที่ในฐานงานที่รับผิดชอบ โดยใช้วิธีสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ซึ่งขนาดของกลุ่มตัวอย่างได้กำหนดตามเกณฑ์ของ Krejcie and Morgan เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามประมาณของ Krejcie and Morgan เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามประมาณค่า 5 ระดับ ตามแบบของ Likert จำนวน 32 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .81 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ในการศึกษาวิถีการดำเนินชีวิตด้านสภาพทางเศรษฐกิจของชุมชนหมู่บ้านราชธานีอโศก พบว่า วิถีการดำเนินชีวิตแบบเรียบง่าย สมถะ สามารถทำให้คนในชุมชนหมู่บ้านราชธานีอโศก อยู่ในกระแสเศรษฐกิจและสังคมโลกทุนนิยมได้อย่างไม่เดือดร้อน และสามารถทำการเกษตรในรูปแบบไร้สารพิษไว้บริโภคเองภายในชุมชนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีทรัพยากรทางธรรมชาติ ภายในชุมชน อาทิ แหล่งน้ำ ดิน ป่าไม้ เอื้ออำนวยต่อการทำมาหากินในแบบฉบับของการทำเกษตรพอเพียง และเชื่อว่าการมีฐานะทางการเงินที่ดีและร่ำรวยไม่สามารถทำให้ชีวิตมีความสุขในอนาคต
2. ในการศึกษาวิถีการดำเนินชีวิตด้านสภาพทางสังคมของชุมชนหมู่บ้านราชธานีอโศก พบว่า ด้านระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน อาทิ น้ำประปา ไฟฟ้า ถนน มีความเพียงพอในการดำรงชีวิต คนในชุมชนได้รับการถ่ายทอดการเรียนรู้ทางภูมิปัญญาและการศึกษาจากผู้รู้ภายในชุมชนของตนเอง ทั้งด้านการแพทย์ การประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิต ซึ่งชุมชนมีกฎระเบียบของชุมชนไว้ให้คนในชุมชนปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยใช้หลักธรรมของการอยู่ร่วมกันในสังคมเป็นฐานราก มีการพบปะพูดคุยกันภายในชุมชนสม่ำเสมอ ทำให้ปัญหาด้านความขัดแย้งและทะเลาะวิวาทภายในชุมชนเกิดขึ้นน้อยมาก รวมทั้งเรื่องของการดูแลรักษาพยาบาล คนในชุมชนจะใช้สมุนไพรที่ปลูกในชุมชนรักษากันเองภายในชุมชน
3. ในการศึกษาวิถีการดำเนินชีวิตสภาพทางวัฒนธรรมของชุมชนหมู่บ้านราชธานีอโศก พบว่า คนในชุมชนได้รับการปลูกฝังและขัดเกลา ด้านจริยธรรม คุณธรรม ความซื่อสัตย์ และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่จากชุมชนของตนเอง และได้มีการถ่ายทอดวัฒนธรรมของชุมชนของตนไปสู่คนภายนอกชุมชนได้รับรู้ ทั้งด้านความเชื่อ ศาสนา วัฒนธรรม ซึ่งคนในชุมชนมองว่าวัฒนธรรมค่านิยม ความฟุ้งเฟื้อ การใช้จ่ายเพื่อแสวงหาความสุขส่วนตัว การแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหรา การรับประทานอาหารราคาแพง เป็นวิถีชีวิตที่ไม่เหมาะสม
4. ในการศึกษาด้านปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาของวิถีการดำเนินชีวิตในอดีตจนถึงปัจจุบันของชุมชนหมู่บ้านราชธานีอโศก พบว่า ปัญหาหลักในอดีตของชุมชน คือ ด้านภูมิประเทศที่เกิดปัญหาน้ำท่วมแทบทุกปี ซึ่งทำให้ต้องมีการอพยพคนในชุมชนไปยังจังหวัดใกล้เคียงเพื่อรอน้ำลด แต่ปัญหาที่ตามมาคือค่าใช้จ่ายด้านการฟื้นฟูสภาพของหมู่บ้าน ทั้งด้าน ที่อยู่อาศัย แปลงเกษตรกรรม และสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทำให้เกิดความท้อใจของคนในชุมชน ซึ่งวิธีแก้ไขปัญหาในจุดนี้ ชุมชนได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการเตรียมเรือใหญ่ไว้สำหรับขนถ่ายสิ่งของและเคลื่อนย้ายคนในชุมชน พร้อมทั้งวางแผนโครงการระบายน้ำเพื่อมิให้น้ำไหลบ่าเข้าสู่ชุมชนในอนาคต ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ยังคงยึดหลักธรรมของพระพุทธศาสนาในการปลอบประโลมจิตใจของคนในชุมชนให้เกิดกำลังในการสู้และรับมือกับปัญหาอย่างไตร่ตรองและรอบคอบ และปัญหาหลักที่สำคัญในปัจจุบันของชุมชนคือด้านพลังงานและเครื่องมือเครื่องใช้ ที่มีราคาสูงขึ้นตลอดเวลา ทำให้ชุมชนมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน อาทิ น้ำมัน ไฟฟ้า เพิ่มมากขึ้น ซึ่งคนในชุมชนได้แก้ปัญหาด้วยการจัดประชุมวางแผนการทำงานและใช้พลังงานของชุมชนอย่างเป็นระบบ เน้นความประหยัดและเป็นเหตุเป็นผลมากที่สุดในการแก้ปัญหา ซึ่งการแก้ไขปัญหาทั้งอดีตและปัจจุบันต้องได้รับความร่วมมือร่วมใจกันของคนในชุมชนจึงจะสำเร็จ
The purpose of this research was to study ways of life of Rajathani Asoke Village by focusing on economic, social, and cultural aspects as well as problems and their solutions from the past up to present in order to promote the self-sufficiency to be implemented in other communities.
A total of 191 members of the village, out of 370, were selected to be the sample of the study by using a simple random sampling technique. They were also demographically categorized to their gender, age, educational level, village residence time length, roles in the village, work-base responsibility. A five-scale rating questionnaire with the coefficient reliability of 0.81 was used as the research instrument. Descriptive statistics, that is, percentage, arithmetic mean, and standard deviation were employed to analyze the data collected.
The findings of the study were as follows:
1. In terms of self-sufficiency of the economy, it is likely that the village has lived its life in a simple way and least trouble living in the mainstream of globalized capitalist economy. With the affluence in rich soil, water resource, and forest, altogether enables the village to establish organic farms together with their disbelief in richness of money as a source of the current and future happiness has created a sustainable self-consumption society. Herbal medicines have also been enhanced to apply when curing sickness. By this means, the village has made the practice of self-sufficiency theory truly effective.
2. In social aspect, it was found that there has been sufficiency in the village infrastructure such as water-supply, electricity, and roads within the community. The individual members of the community have learned and educated from the local wisdoms and experts in various branches such as medical, vocational practices, and lifestyles. To unite the members of the village, there have been strict moral codes and practices established on harmonious living together principles. Regular meeting is a tool as well to solidify the members. This leads to the solution and prevention in disagreement and quarrels in the community.
3. In relation to the cultural aspect, Rajathani Asoke Village has its own principles in a variety of practice both in religion and lifestyle. Honesty and ethics, morality, kindness and generosity have been implanted in every individual body of the community. Such belief in having a simple life and disbelief in luxurious life has also been distributed to the people outside the community.
4. For the solutions of their own problems, it appeared that fold has been a big difficulty that the village has encountered since the past. As the village is located on the river bank, in rainy season there is a yearly flood and the villagers have to be evacuated to other villages in neighboring province and live there until the high water level reduces. The high cost of the villages infrastructure and its farm repair after the flood is another big problem. The solutions include their provision of a few big ships for evacuation and planning to construct the routes for water release. Another trouble is the cost of energy and utensils which are likely to be more increase than did in the past. The community has been trying to solve out by making plans for careful systematical working and energy consumption. Concentration of being economical and wise and cooperative use of energy is an alternative means which expected to be effective to achieve or at least lessen such difficulties.
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
Address:
อุบลราชธานี
Email:
info.lib@ubru.ac.th
Role:
ประธานกรรมการที่ปรึกษา
Created:
2551
Modified:
2553-08-21
Issued:
2553-06-10
Issued:
2553-06-10
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
tha
DegreeName: ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต
Level: ปริญญาโท
Descipline: เศรษฐศาสตร์การเมือง
Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
RightsAccess:
ใช้เวลา
0.042079 วินาที
จงกลมณี เสน่หา
| Title | Contributor | Type |
|---|---|---|
| วิถีเศรษฐกิจพอเพียงว่าด้วยชุมชนหมู่บ้านราชธานีอโศก ตำบลบุ่งไหม อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี จงกลมณี เสน่หา | ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นลินี ทองประเสริฐ | วิทยานิพนธ์/Thesis |
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นลินี ทองประเสริฐ