ความสัมพันธ์ระบบเครือญาติชุมชนปากมูล

The study of macro nutrient in compost from several operations under aerobic and anaerobic composting

Name: ชาญยุทธ หาญชนะ

keyword: ครอบครัว

ThaSH: ชุมชนปากมูล

Classification :.DDC: 305.4

; ระบบเครือญาติ

Abstract: การวิจัยเรื่อง ความสัมพันธ์ระบบเครือญาติชุมชนปากมูลครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะความสัมพันธ์ระบบเครือญาติไทย-ลาวชุมชนปากมูล และ เพื่อศึกษาลักษณะการปรับเปลี่ยน การคงอยู่ และการเกิดใหม่ของระบบเครือญาติไทย-ลาวชุมชนปากมูล พื้นที่ในการวิจัยได้แก่ ประเทศไทย ประกอบด้วยบ้านเวินบึก บ้านห้วยหมากใต้ และบ้านท่าแพ ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ในส่วนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประกอบด้วย บ้านสิงสำพัน บ้านลาดเสือ เมืองชะนะสมบูน และบ้านคันยาง เมืองโพนทอง แขวงจำปาสัก กลุ่มตัวอย่างมีจำนวนทั้งหมด 150 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ได้แก่ กลุ่มผู้รู้ จำนวน 10 คน เป็นคนไทย 5 คน คนลาว 5 คน กลุ่มผู้ปฏิบัติ จำนวน 130 คน เป็นคนไทย 73 คน ลาว 57 คน และกลุ่มผู้ให้ข้อมูลทั่วไป จำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสำรวจ แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต และแบบสนทนากลุ่ม นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการพรรณนาวิเคราะห์ ผลการวิจัยพบว่า ลักษณะความสัมพันธ์ระบบเครือญาติไทย-ลาวของชุมชนปากมูล เกิดจากการสืบทอดผ่านทางสายโลหิตหรือการแต่งงาน การไปมาหาสู่ของชาย-หญิงจากชุมชนทั้งสองฝั่ง โดยผ่านวิถีชีวิตประจำวัน เช่น การทำมาค้าขาย การทำบุญตามประเพณี-ความเชื่อ หรือการพบปะสังสรรค์ระหว่างชาวชุมชนทั้งสองฟากฝั่งก่อให้เกิดความรักความผูกพัน จนนำมาสู่การแต่งงาน สอดคล้องกับทฤษฎีนิเวศวิทยาวัฒนธรรม ที่ผู้คนอยู่ในระบบนิเวศวัฒนธรรมเดียวกันหรือคล้ายคลึงกันย่อมเป็นการสะดวกที่จะมีความเข้าใจในวิถีชีวิตของกันและกัน ทำให้ง่ายต่อการปรับตัวหรือการสร้างครอบครัว และความสัมพันธ์ระบบเครือญาติไทย-ลาว โดยการสืบทอดผ่านทางวัฒนธรรม พบว่า ความสัมพันธ์ระบบเครือญาติไทย-ลาว มีวิถีชีวิตวัฒนธรรมที่เรียบง่าย มีความเชื่อในเรื่องผี นับถือประเพณีตามฮีต สิบสองคองสิบสี่ ที่มีมาตั้งแต่ครั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนลักษณะการปรับเปลี่ยน การคงอยู่ และการเกิดใหม่ของระบบเครือญาติไทย-ลาวของชุมชนปากมูล มีสาระสำคัญ 3 ประการคือ ประการแรกการปรับเปลี่ยนระบบเครือญาติ ไทย-ลาว พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องพื้นที่ที่อยู่อาศัย แต่ยังคงรักษาวิถีชีวิตวัฒนธรรมประเพณีเดิมไว้ ประการที่สอง การคงอยู่ของระบบเครือญาติไทย-ลาว ชุมชนปากมูลทั้งสองฝั่งพบว่า มีความผูกพันทางเครือญาติที่สืบทอดมาตั้งแต่ครั้งอดีตที่ชุมชนปากมูลเคยเป็นหนึ่งเดียวกัน การคงอยู่ดังกล่าวถือได้ว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้ระบบสังคมเศรษฐกิจ และการเมืองของทั้งสองประเทศ จะเปลี่ยนแปลงไปก็ตาม ประการที่สามการเกิดใหม่ของระบบเครือญาติไทย-ลาว ชุมชนปากมูล พบว่า เครือญาติไทย-ลาว มีลักษณะที่ซับซ้อนกับการคงอยู่ จะเห็นได้จาก การแต่งงานด้วยเหตุผลเชิงวัฒนธรรมหรือเพื่อการสืบตระกูล และเพื่อการขยายเครือข่ายทางธุรกิจ

Abstract: The research aimed to study the relationships in the relative system and to investigate the adaptation, existence, and the new-born system of the relative systems of Thai-Lao Pak Moon communities. The areas of the study included Ban Wernbueg, Ban Huaymaktaay, and Ban Tahprae of Tambol Kongchiam in Amphor Kongchiam of Ubon Ratchathani province, Thailand. The study locations in Loas PDR included Ban Singh Sam Pan, Ban Lard Suer of Mueang Chanasomboon, and Ban Kanyang of Mueang Pontong in Champasak province. The sample group consisted of 150 people purposively selected including 10 local knowledgeable persons (5 Thais and 5 Laotians), 130 performance persons (73 Thais and 57 Laotians), and 10 general informants. The research tools were questionnaires, interviews, observations, and group discussions. The results of data analysis were presented in a descriptive written report. The research findings were as follows: The relationships among relatives of the Thai-Lao Pak Moon communities were found to exist through heredity or marriage. The traveling back and forth between men and women from the two sides of the border through daily routines such as trading, making merits by traditions and beliefs, and interacting among the people in the Thai-Lao communities created love and closeness, which led to marriages in accordance with eco-cultural theory in the sense that the people living in the same or similar eco-cultural settings tend to conveniently understand one another. This made it easy to adapt and build a family. The relative relationship system was found to pass through cultures in that their ways of life were very simple, and they believed in ghosts and in particular traditions taken place in 12 months known as “Heed Sib Song Klong Sib See,” having been passed on since the past up until now. In relation to the changes, the existence, and the new-born ways of the relative system of Thai-Lao Pak Moon communities, three findings were found: (1) the changes in the residence but the sustainability of traditional ways of life; (2) the strengthening of the relative system of Thai-Lao Pak Moon communities being existing from whence they were unified even though the socio-economical systems and politics of Thailand and Laos had changed; (3) the complexity of the new-born ways of life of the relative system of Thai-Lao Pak Moon communities viewed from which marriages were based on cultural reasons or keeping the family lines, and on expanding business connections and networks.

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: อุบลราชธานี

Email: info.lib@ubru.ac.th

Name: กิติรัตน์ สีหบัณฑ์

Role: ประธานกรรมการที่ปรึกษา

Name: อรรถ นันทจักร์

Role: กรรมการที่ปรึกษา

Created: 2553

Modified: 2025-11-11

Issued: 2551-08-13

Issued: 2551-08-13

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

Spatial: ไทย

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

Descipline: ยุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค

Level: ปริญญาเอก

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	titlepage.pdf	269.13 KB	110	2025-01-14 10:52:03
2	abstract.pdf	133.36 KB	126	2024-10-14 15:28:02
3	content.pdf	198.15 KB	50	2024-01-10 15:11:43
4	chapter 1.pdf	120.19 KB	99	2024-01-10 15:11:54
5	chapter 2.pdf	1.49 MB	128	2024-02-13 10:11:10
6	chapter 3.pdf	80.18 KB	102	2025-03-04 08:54:12
7	chapter 4.pdf	2.11 MB	83	2024-10-14 15:27:31
8	chapter 5.pdf	97.69 KB	54	2024-01-10 15:12:43
9	bibliography.pdf	131.3 KB	46	2024-01-10 15:12:53
10	appendix.pdf	264.79 KB	46	2024-01-10 15:13:05
11	biodata.pdf	167.36 KB	50	2024-01-10 15:13:16

ใช้เวลา

0.055504 วินาที