การบริหารงานตามหลักกัลยาณมิตรธรรม 7 ของผู้บริหารสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1

Name: สุภีร์ สุดสงวน

keyword: การบริหารงาน

; กัลยาณมิตรธรรม 7

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับการบริหารงานตามหลักกัลยาณมิตรธรรม 7 ของผู้บริหารสถานศึกษา 2) เปรียบเทียบระดับการบริหารงานตามหลักกัลยาณมิตรธรรม 7 ของผู้บริหารสถานศึกษา จำแนกตามตำแหน่งวิทยฐานะ อายุ วุฒิการศึกษา ประสบการณ์ ในการปฏิบัติงาน ขนาดของสถานศึกษา และ 3) ศึกษาแนวทางการพัฒนาการบริหารงานตามหลักกัลยาณมิตรธรรม 7 ของผู้บริหารสถานศึกษา ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 23 คน และครู จำนวน 304 คน รวมจำนวน 327 คน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 โดยใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นตามขนาดของสถานศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว สำหรับข้อมูลปลายเปิดจากแบบสอบถามใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า 1. การบริหารงานตามหลักกัลยาณมิตรธรรม 7 ของผู้บริหารสถานศึกษาโดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (x ̅ = 4.61, S.D. = 0.54) และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านไม่ชักนำ ไปในทางเสื่อมเสียอยู่ในลำดับสูงสุด (x ̅ = 4.69, S.D. = 0.51) รองลงมาคือ ด้านเจริญใจ (x ̅ = 4.65, S.D.= 0.57) และด้านน่ารัก (x ̅ = 4.63, S.D. = 0.50) ตามลำดับ 2. ระดับการบริหารงานตามหลักกัลยาณมิตรธรรม 7 ของผู้บริหารสถานศึกษาจำแนกตามตำแหน่งวิทยฐานะ อายุ วุฒิการศึกษา ประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน และขนาดของสถานศึกษา ในภาพรวมไม่แตกต่างกัน 3. แนวทางการพัฒนาการบริหารงานตามหลักกัลยาณมิตรธรรม 7 ของผู้บริหารสถานศึกษา ประกอบด้วย 1) ควรให้ความเป็นกันเอง ไม่ถือตัว พูดจาสุภาพ อ่อนโยน 2) ควรประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี วางตนเหมาะสมกับบทบาทหน้าที่ เคารพและให้เกียรติผู้อื่น 3) ควรมีภาวะผู้นำ มีการวางแผน มีวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติงาน มุ่งพัฒนาโรงเรียน ครูและนักเรียนให้ดีขึ้น ให้เป็นที่ยอมรับของผู้ปกครองและชุมชน 4) ควรสื่อสารอย่างมีเหตุผล ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ และแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ 5) ควรมีความอดทนต่อถ้อยคำที่ไม่เป็นจริง ตั้งใจปฏิบัติงานด้วย ความอดทน จริงใจ มีเมตตา 6) ควรมีความรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้สามารถอธิบายและถ่ายทอดให้ผู้ร่วมงานเข้าใจได้ และ 7) ควรคิดดี พูดในสิ่งที่ดี ปฏิบัติในสิ่งที่ดีงาม เป็นแบบอย่าง ว่ากล่าวตักเตือนและให้แนวทางที่ดีในการปฏิบัติ ลายมือชื่อนักศึกษา ___________________________________________________________ ลายมือชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา 1.__________________________ 2. _______________________

Abstract: The objectives of this research were to: 1) examine the level of administration based on the seven principles of Kalyanamitta Dhamma among school administrators; 2) compare the level of administration based on the seven principles of Kalyanamitta Dhamma among school administrators as classified by academic position, age, educational qualification, work experience, and school size; and 3) study the approaches for enhancing administration based on the seven principles of Kalyanamitta Dhamma among school administrators. The research sample consisted of 23 school administrators and 304 teachers, totaling 327 participants, under the jurisdiction of the Nakhon Pathom Primary Educational Service Area Office 1. The sample was selected using stratified random sampling based on school size. The research instrument was a questionnaire. The statistics used for data analysis included frequency, percentage, mean, standard deviation, one-way analysis of variance (ANOVA). For the open-ended responses from the questionnaire, content analysis was applied. The research findings revealed that: 1. Overall, the administration based on the seven principles of Kalayanamitta Dhamma among school administrators was at the highest level (x ̅= 4.61, S.D. = 0.54). When considering each aspect individually, the highest-rated aspect was not leading others toward deterioration (x ̅= 4.69, S.D. = 0.51), followed being inspiring ((x ) ̅= 4.65, S.D. = 0.57) and being lovable (x ̅ = 4.63, S.D. = 0.50), respectively. 2. The level of administration based on the seven principles of Kalayanamitta Dhamma among school administrators, when classified by academic position, age, educational qualification, work experience, and school size, revealed no significant differences overall. 3. The key approaches for enhancing school administration based on the seven principles of Kalyanamitta Dhamma included: 1) being approachable, humble, and speaking politely and gently; 2) behaving as a good example, conducting oneself appropriately according to one’s role and responsibilities, and showing respect and consideration for others; 3) demonstrating leadership, planning, determining vision in administration, and focusing on the development of the school, teachers, and students to gain acceptance from parents and the community; 4) communicating rationally, engaging in collaborative decision-making, and expressing opinions creatively; 5) being tolerant of false or negative remarks, and performing duties with patience, sincerity, and compassion; 6) possessing knowledge and understanding to effectively explain and convey information to colleagues; and 7) thinking positively, speaking well, acting virtuously, serving as a role model, offering constructive feedback, and providing guidance for proper conduct. Student’s signature ___________________________________________________________ Advisors’ signatures 1._________________________ 2______________________________

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: นครปฐม

Email: library@npru.ac.th

Name: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรพรรณ ตู้จินดา

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดวงใจ ชนะสิทธิ์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 29/0

Modified: 2568-09-29

Issued: 2568-09-29

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: การบริหารการศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	158145Supree.pdf	5.32 MB

ใช้เวลา

0.017999 วินาที