การประยุกต์แนวคิดลีนเพื่อปรับปรุงกระบวนการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย โรงพยาบาลอุตรดิตถ์

Application of Lean thinking to improve care process of patients with sepsis, Male Medical Ward, Uttaradit Hospital

Name: ธนิษฐ์นันท์ บุญจันทร์

ThaSH: โรงพยาบาลอุตรดิตถ์. หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย

ThaSH: การติดเชื้อ

ThaSH: ผู้ป่วย -- การดูแล

ThaSH: โรคติดเชื้อในโรงพยาบาล

ThaSH: หอผู้ป่วย -- ไทย -- อุตรดิตถ์

ThaSH: การผลิตแบบลีน

Abstract: ความล่าช้าในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดจะส่งผลให้ป่วยเสียชีวิตได้ การศึกษาเชิง พัฒนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงกระบวนการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ โดยใช้แนวคิดลีนของวอแม็ก และ โจน (Womack & Jones, 2003) กลุ่มตัวอย่าง คือ กิจกรรมในกระบวนการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด การเก็บข้อมูลประกอบด้วย 7 ขั้นตอน ได้แก่ 1) กำหนดผังคุณค่าการไหล 2) วิเคราะห์กระบวนการทำงาน 3) ศึกษาเวลาในการทำ กิจกรรม 4) ระบุกิจกรรมที่มีคุณค่า 5) ระบุความสูญเปล่าในกระบวนการทำงางาน 6) ระบุวิธีการลด ความสูญเปล่า และ 7) ออกแบบกระบวนการทำงานที่เหมาะสม เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย พจนานุกรม กิจกรรมในกระบวนการให้การดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในกระเเสเลือด แบบวิเคราะห์คุณค่าของกิจกรรม และแบบบันทึกปริมาณเวลาที่ใช้ในกิจกรรม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย ผลการวิจัยพบว่า 1. กระบวนการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดของหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย ประกอบไปด้วย 4 กิจกรรมหลักและ 20 กิจกรรมย่อย 2. กระบวนการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดที่ปรับปรุงขึ้นมาใช้เวลาเท่ากับ 1.80 ชั่วโมง ซึ่งน้อยกว่ากระบวนการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดก่อนการพัฒนาที่ใช้เวลา 3.47 ชั่วโมง และกระบวนการดังกล่าวยังใช้เวลาตั้งแต่แพทย์ให้คำสั่งการรักษาจนกระทั่งได้รับยาปฏิชีวนะเท่ากับ 29.43 นาที ซึ่งน้อยกว่ากระบวนการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดก่อน การพัฒนาที่ใช้เวลา 71.43 นาที จากผลการศึกษาครั้งนี้แสดงให้ว่าเเนวคิดลีนช่วยลดความสูญเปล่าและความล่าช้าในกระบวนการ ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ส่งผลให้ผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดได้รับยาปฏิชีวนะ รวดเร็วขึ้นและช่วยลดอัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยได้

Abstract: Delays in providing care for patients with sepsis will result in the patient death. This developing study aimed to improve the care process for patients with sepsis at the Male Medicine Ward in Uttaradit Hospital based on the lean concept by Womack and Jones (2003). The study sample was activities in the process of care for patients with sepsis. Seven steps in data collection of the study included 1) value stream mapping, 2) identifying work process, 3) studying activity times, 4) identifying value-added activities, 5) identifying wastes in the process 6) identifying solutions to reduce wastes and 7) design effective work process. The research instruments included a dictionary of the care process for sepsis patients, a value analysis form, and a record form for time spent on activities. Data were analyzed by using descriptive statistics. The results revealed that ; 1. The process for sepsis patients at the Male Medicine ward consisted of 4 major activities and 20 minor activities. 2. The new care process for patients with sepsis took 1.80 hours, which was less than time spending in the previous development process of 3.47 hours. The process also took 29.43 minutes from the doctor's prescription until antibiotics were administered, which was less than time spending in the previous development process of 71.43 minutes. The result of this study pointed out that lean concept could reduce waste and delays in the caring process for the patient with sepsis, the patients able to receive antibiotics quickly and thereby reducing the mortality rate.

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. สำนักหอสมุด

Address: เชียงใหม่

Email: cmulibref@cmu.ac.th

Name: เพชรสุนีย์ ทั้งเจริญกุล

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: อภิรดี นันท์ศุภวัฒน์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2566

Issued: 2568-09-22

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

Spatial: อุตรดิตถ์

DegreeName: พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: การบริหารทางการพยาบาล

Grantor: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

©copyrights มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ใช้เวลา

0.016434 วินาที