แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงชนิดไมโครโฟกัสอัลตราซาวน์ เปรียบเทียบกับ แม็คโครโฟกัส อัลตราซาวน์ต่อการลดริ้วรอยร่องลึกบริเวณหางตา, ความหย่อนคล้อยใต้ตา, ริ้วรอยใต้ตา: การศึกษาแบบไปข้างหน้า, สุ่มเลือก ปกปิดผู้ประเมินและผู้ถูกประเมิน แบบแบ่งครึ่งหน้า
A study in intense focused ultrasound, microfocus ultrasound versus macrofocus ultrasound and the effect of static line at crow’s feet,infraorbital laxity, infraorbital rhytids: A prospective, randomized, double-blinded, intraindividual split face study

Address: 333 หมู่ที่ 1 ตำบลท่าสุด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57100
Organization : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
Email : library@mfu.ac.th
keyword: ไมโครอัลตราซาวน์
ThaSH: คลื่นเสียงความถี่สูง
; แม็คโครอัลตราซาวน์
ThaSH: ตา -- รอยย่น
; ริ้วรอยใต้ดวงตา
ThaSH: ผิวหนัง -- รอยย่น
; ความหย่อนคล้อยบริเวณใต้ตา
ThaSH: ผิวหนัง -- การรักษาด้วยรังสี
; ริ้วรอยร่องลึกบริเวณหางตา
Abstract: เนื่องจากความต้องการในการรักษาผิวหนังหย่อนคล้อยแบบไม่ต้องพึ่งศัลยกรรมมีมากขึ้น ดังนั้นจึงมีการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว หนึ่งในเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาความหย่อนคล้อยบริเวณใต้ตา (infraorbital laxity), ริ้วรอยใต้ตา (Infraorbital rhytids) ก็คือ คลื่นเสียงความถี่สูง หรือ Intense focus ultrasound (IFUS) โดยเครื่องซึ่งเป็นต้นแบบหรือ prototype สำหรับการรักษาริ้วรอยรอบดวงตา อย่างเช่นเครื่อง Ulthera นั้นยังมีข้อจำกัดด้านค่าใช้จ่ายในการรักษา ประกอบกับการส่งพลังงานลงใต้ชั้นผิวเป็นรูปไข่ (Oval shape) ซึ่งต้องผลิตคลื่นเสียงความถี่สูงมาก ก่อให้เกิดความร้อนใต้ชั้นผิว ทำให้ผู้ป่วยบางรายมีอาการเจ็บปวด และไม่สามารถทนต่อการรักษาได้ และอีกปัญหาหนึ่งของผู้ป่วยซึ่งมีความกังวลอย่างมาก คือ ริ้วรอยร่องลึก (static line) ซึ่งโดยปกติจะรักษาด้วย fractional laser เช่น fraxel , fractional microneedle RF เช่น ematrix,venus viva ยังมีข้อเสียเนื่องจากมีระยะเวลาพักฟื้นนาน และสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนได้บ่อย อาทิ post inflammatory hyperpigmentation ดังนั้นผู้วิจัยจึงเกิดคำถามว่า Intense focus ultrasound อีกยี่ห้อคือ Ultraformer III ซึ่งค่าใช้จ่ายต้นทุนในการรักษาถูกกว่า อีกทั้งยังมีการพัฒนาหัวส่งพลังงานขึ้นมาแบบใหม่เป็นรูปวงกลม (round shape) และเทคโนโลยี MMFU (micro and macrofocus Ultrasound) ซึ่งเป็นการปล่อยพลังงานที่ใหญ่ขึ้น ก่อเกิดความร้อนใต้ชั้นผิว และใช้ระยะพักฟื้นน้อย จะสามารถใช้แทนการรักษาเดิมได้หรือไม่ จึงน่าจะสามารถนำมาใช้รักษาผู้ป่วยในวงกว้างได้มากขึ้น อีกทั้งงานวิจัยที่ผ่าน ๆ มายังไม่เคยมีงานวิจัยไหนเปรียบเทียบเรื่องนี้มาก่อน ผู้วิจัยจึงได้ตัดสินใจนำเครื่องมือนี้มาเปรียบเทียบกันระหว่าง microfocus ultrasound 1.5mm และ macrofocus ultrasound 2 mm การศึกษานี้เป็นการศึกษาเครื่อง IFUS ยี่ห้อ ultraformer III เปรียบระหว่างหัวพลังงาน microfocus ultrasound 1.5mm และ macrofocus ultrasound 2 mm ว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาริ้วรอยร่องลึกบริเวณหางตา, ความหย่อนคล้อยใต้ตา, ริ้วรอยใต้ตา อย่างไหนมีประสิทธิภาพดีกว่ากัน โดยผู้เข้าร่วมงานวิจัยมีปัญหาเรื่องริ้วรอยใต้ดวงตา, ความหย่อนคล้อยบริเวณใต้ตา และ ริ้วรอยร่องลึกบริเวณหางตา แตกต่างกันไปในแต่ละคน จำนวนทั้งหมด 12 คน อายุ 35-60 ปี แต่ละรายจะถูกสุ่มผิวหนังบริเวณใต้ตาและหางตา โดยได้รับการรักษาด้วย microfocus ultrasound 1.5 mm ข้างหนึ่ง และ macrofocus ultrasound 2 mm อีกข้างหนึ่ง หลังจากนั้นติดตามผลในสัปดาห์ที่ 1,6 และ 12 ประเมินประสิทธิผลการรักษาด้วยเครื่อง Visioscan® โดยพิจารณาจากค่าความขรุขระของผิว skin roughness (SEr), ค่าความเรียบของผิว skin smoothness (SESM) ในการประเมินริ้วรอยร่องลึกบริเวณหางตา และค่าริ้วรอย skin wrinkle (SEw) ในการประเมินริ้วรอยบริเวณใต้ตา การศึกษานี้เป็นการศึกษาเครื่อง IFUS ยี่ห้อ Ultraformer III macrofocus ultrasound 2 mm ว่ามีประสิทธิภาพต่อการรักษาความ หย่อนคล้อยใต้ตาและริ้วรอยใต้ตาได้ดีกว่าหรือเท่ากับ microfocus ultrasound 1.5 mm หรือไม่ โดยผู้เข้าร่วม วิจัยมีภาวะความหย่อนคล้อยและริ้วรอยใต้ตาและหางตาแตกต่างกันไป จำนวนทั้งหมด 12 ราย อายุ 35-60 ปี แต่ละรายจะถูกสุ่ม ผิวหนังบริเวณใต้ตา โดยได้รับการรักษาด้วย microfocus ultrasound 1.5mm ข้างหนึ่ง และ macrofocus ultrasound 2mm ในอีกข้างหนึ่ง หลังจาก นั้นติดตามผลในสัปดาห์ที่ 1, 6 และ 12 พบว่ามีผู้เข้าร่วมวิจัย 12 รายที่อยู่จนถึงสิ้นสุดงานวิจัย ส่วน ใหญ่เป็นเพศหญิง (9/12, 75.0%) มีอายุเฉลี่ย 44.75±6.62 ปี ผลการวิจัยพบว่า ภายหลังการรักษาทั้ง สัปดาห์ที่ 6 และ 12 เครื่อง microfocus ultrasound 1.5 mm มีประสิทธิภาพต่อการรักษาความหย่อนคล้อยถุงใต้ตาและริ้ว รอยใต้ตาได้ดี ไม่แตกต่างกับเครื่อง macrofocus ultrasound 2 mm โดยเครื่องมือทั้งสองชนิดสามารถเพิ่มค่าเฉลี่ยความยืดหยุ่นของผิวหนัง และลดค่าเฉลี่ยริ้วรอยใต้ตา อีกทั้งสามารถทำให้ค่าเฉลี่ยคะแนนประเมินริ้วรอยใต้ตาจากภาพถ่ายดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (ริ้วรอยลดลง 1-25%) ส่วนประเด็นด้านความพึงพอใจและความเจ็บปวดระหว่างการรักษาของผู้เข้าร่วมวิจัยพบว่า ทั้งสองเครื่องมือนั้นไม่แตกต่างกัน และสุดท้ายประเด็นเรื่องผลข้างเคียงจากการรักษาพบว่า ในกลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วย microfocus ultrasound 1.5 mm (2/12, 16.0%) เกิดผลข้างเคียงเป็นรอยแดงเพียงเล็กน้อยและเกิดขึ้นชั่วคราวหลังการรักษาเท่านั้น ซึ่งอัตราการเกิดมีค่าน้อยกว่า macrofocus ultrasound 2 mm (4/12, 33.3%) อย่างมีนัยสําคัญ
Abstract: With the growing demand for non-surgical skin tightening treatments, various technologies have been developed to address skin laxity. One such technology that has proven to be both safe and effective in treating infraorbital laxity and infraorbital rhytids (under-eye wrinkles) is high-intensity focused ultrasound (HIFU). A well-known prototype device for treating periorbital wrinkles, such as the Ulthera system, remains limited by its high treatment cost. Additionally, it delivers ultrasound energy in an oval-shaped pattern, requiring higher intensity to penetrate deeper skin layers. This generates significant heat and can cause discomfort, rendering the treatment intolerable for some patients. Another challenge in this field is the treatment of static lines (deep wrinkles), which are often addressed with fractional laser treatments such as Fraxel, or with fractional microneedle radiofrequency devices like eMatrix or Venus Viva. However, these methods are associated with longer recovery times and common adverse effects, such as post-inflammatory hyperpigmentation. Given these concerns, the researcher posed the question of whether another brand of HIFU—Ultraformer III—could serve as a viable alternative. This system has lower treatment costs and incorporates an innovative round-shaped transducer tip, along with MMFU (Micro and Macro Focused Ultrasound) technology, which allows for the delivery of broader energy pulses. These pulses induce subdermal heating with minimal downtime, potentially making the treatment more accessible to a broader patient population. To date, no prior study has directly compared the efficacy of these technologies in treating periorbital wrinkles. Thus, this study aimed to compare the effectiveness of the Ultraformer III device using two different handpieces: the 1.5 mm microfocused ultrasound and the 2.0 mm macrofocused ultrasound. The objective was to evaluate which modality was more effective in treating crow’s feet wrinkles, infraorbital laxity, and under-eye wrinkles. This prospective, randomized, evaluator- and subject-blinded, split-face study included 12 participants aged between 35 and 60 years, all presenting with varying degrees of under-eye wrinkles, infraorbital laxity, and crow’s feet. Each subject received treatment on one side of the face using the 1.5 mm microfocused ultrasound and on the opposite side using the 2.0 mm macrofocused ultrasound. Follow-up assessments were conducted at weeks 1, 6, and 12 post-treatment. Efficacy was evaluated using the Visioscan® device, which measured several skin parameters: skin roughness (SEr) and skin smoothness (SEsm) for crow’s feet wrinkles, and skin wrinkle values (SEw) for under-eye wrinkles. The results demonstrated that both devices—microfocused ultrasound (1.5 mm) and macrofocused ultrasound (2.0 mm)—were similarly effective in improving infraorbital laxity and under-eye wrinkles. At both week 6 and week 12, there were statistically significant improvements in average skin elasticity and reductions in wrinkle scores as assessed by photographic analysis (with wrinkle reduction ranging from 1% to 25%). Regarding patient satisfaction and pain levels during treatment, no significant differences were observed between the two devices. As for adverse effects, mild and transient erythema was reported in 2 out of 12 participants (16.7%) who received treatment with the 1.5 mm microfocused ultrasound, compared to 4 out of 12 participants (33.3%) in the 2.0 mm macrofocused ultrasound group. The incidence of side effects was significantly lower in the microfocused ultrasound group.
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง. ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา
Address: เชียงราย
Email: library@mfu.ac.th
Role: อาจารย์ที่ปรึกษา
Modified: 2568-09-15
Issued: 2568-09-15
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
tha
©copyrights มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 140228-Fulltext.pdf 11.03 MB1 2025-09-15 10:29:28
ใช้เวลา
-0.967365 วินาที

สุนิสา ไทยจินดา
Title Creator Type and Date Create
การศึกษาแบบสุ่มเปรียบเทียบครึ่งใบหน้าถึงประสิทธิผลของเจล 1% โปรเจสเตอโรน เทียบกับยาหลอกในการรักษาริ้วรอยรอบดวงตาในคนไทย
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ผู้ช่วยศาสตราจารยพิเศษ สุนิสา ไทยจินดา
รัตนา ซิมสุชิน
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาประสิทธิผลของการใช้ครีมสารสกัดข้าวไรซ์เบอร์รี่เทียบกับครีมเบสในการปรับผิวขาว
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ สุนิสา ไทยจินดา
สุพรรณิกา มาแตง
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของครีมเซริซิน 8% และยาหลอกในการรักษาฝ้า
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ สุนิสา ไทยจินดา
ทัศนันท์ ง่วนสน
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาฤทธิ์การต้านสารอนุมูลอิสระของ Lycium barbarum (GOJI) โดยวัดผลจากการลดลงของการเกิด Rouleaux formation จากการตรวจ Live Blood Analysis
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุนิสา ไทยจินดา
สิริลักษณ์ นันทธีรพงศ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาผลของการฝึกโยคะต่อกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุนิสา ไทยจินดา
มนวรัตน์ พ่อค้า
วิทยานิพนธ์/Thesis
ผลการต้านอนุมูลอิสระของน้ำทับทิมในผู้ที่สูบบุหรี่
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
อาจารย์ สุนิสา ไทยจินดา
ภัทรา วาณิชวศิน
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาประสิทธิผลและผลข้างเคียงของครีมสารสกัดจากใบบัวบกเมื่อเทียบกับครีมเบสมาตรฐานเพื่อการปรับผิวหน้าขาว
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
อาจารย์ สุนิสา ไทยจินดา
พัฐสุดา ชมจันทร์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาแบบสุ่มและแบ่งครึ่งหน้าเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผลของครีม 1% chlorella vulgaris extract กับ 0.02% tretinion ในการลดริ้วรอยรอบดวงตา
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
อาจารย์ สุนิสา ไทยจินดา
ธารทิพย์ ตันชวลิต
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลของการทาครีมสารสกัดพลับพลึงทะเล 1.5% กับครีมอัลฟ่าอัลบูติน 2% เพื่อการปรับผิวหน้าขาวในอาสาสมัครชาวไทย
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
อาจารย์ สุนิสา ไทยจินดา
นฤมล ทองศรีเนียม
วิทยานิพนธ์/Thesis
ผลของน้ำบรอกโคลีต่อความเป็นกรดด่างในปัสสาวะ
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
อาจารย์ สุนิสา ไทยจินดา
กวิศรา ลิ่มอภิชาต
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาเปรียบเทียบระหว่างการใช้ชาชงหญ้าดอกขาวกับมะนาวในการลดความอยากบุหรี่โดยใช้แบบประเมิน
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
อาจารย์ สุนิสา ไทยจินดา
ณัฐสินีย์ นลินทัศไนย
วิทยานิพนธ์/Thesis
ประสิทธิผลของไอโซฟลาโวนต่อภาวะนอนไม่หลับในผู้หญิงไทยวัยหมดประจำเดือน
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
อาจารย์สุนิสา ไทยจินดา
พนารัตน์ วงศ์รุ่งโรจน์
วิทยานิพนธ์/Thesis
ประสิทธิผลของเครื่อง venus freeze คลื่นสนามแม่เหล็กแบบเป็นจังหวะ (pulse electromagnetic field) ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าสมองในคนที่เป็นออฟฟิตซินโดรม
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สุนิสา ไทยจินดา
เพชรรัตน์ สุขวานิชรัชต์
Petcharat Sukavanicharat
วิทยานิพนธ์/Thesis
ผลของการฝึกสมาธิเหวี่ยง ต่อการเปลี่ยนแปลงคลื่นไฟฟ้าสมอง
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สุนิสา ไทยจินดา
แสงรวี พุทธสอน
Sangrawee Puttason
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาผลของชาหญ้าดอกขาวในผู้สูบบุหรี่กรณีศึกษาคลื่นไฟฟ้าสมอง
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สุนิสา ไทยจินดา
ปิยนุช รัตนโกเศศ
วิทยานิพนธ์/Thesis
ประสิทธิผลของการบริหารร่างกายแบบมณีเวชต่ออาการปวดประจำเดือนระดับปฐมภูมิในวัยรุ่น
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สุนิสา ไทยจินดา;อาริญา สาริกะภูติ
ชนิกานต์ ชำนิศาสตร์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลของเจลเรสเวอราทรอล 5% กับเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ 25% ในการรักษาสิวที่มีระดับความรุนแรงเล็กน้อยถึงปานกลางในคนไทย
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สุนิสา ไทยจินดา
อัจฉรีย์ พหุลทรัพย์
วิทยานิพนธ์/Thesis
ผลของการกดที่จุดฝังเข็มต่อระดับความรุนแรงของอาการปวดที่จุดกดเจ็บในผู้ป่วยที่มีอาการปวดคอด้านหลังเรื้อรัง
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สุนิสา ไทยจินดา
สุนีย์รัตน์ พรพิชญาภัทร
วิทยานิพนธ์/Thesis
ผลของการฟังดนตรีผ่อนคลายเพื่อลดภาวะเครียด
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สุนิสา ไทยจินดา
ปองหทัย จันทร์มณี
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาประสิทธิผลของการดื่มน้ำมะเขือเทศในการลดจุดดำบนใบหน้าของอาสาสมัครชาวไทย
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สุนิสา ไทยจินดา
ศศิวิมล เสริมโสภณ
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาความสามารถในการลดการอักเสบของสารสกัดเห็ดเยื่อไผ่ต่อเซลล์ผิวหนังสะเก็ดเงิน
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สุนิสา ไทยจินดา
สิริกานต์ ว่องวิวัฒน์ไวทยะ
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลของการใช้ครีมน้ำมันจมูกข้าวสาลีกับครีมเบสเพื่อการรักษาผื่นผิวแห้งอักเสบบริเวณด้านหน้าของขาส่วนล่างในผู้ป่วยสูงอายุคนไทย
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สุนิสา ไทยจินดา
เพ็ญนีติ์ คูวัฒนานนท์
วิทยานิพนธ์/Thesis
ประสิทธิผลของผักเชียงดาแคปซูลในการลดระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมงและระดับน้ำตาลสะสมในผู้ที่มีภาวะก่อนเบาหวาน
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สุนิสา ไทยจินดา
สุภิญญา สดเอี่ยม
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาและวิเคราะห์สารก่อการแพ้ในผลิตภัณฑ์ย้อมสีผม
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สุนิสา ไทยจินดา
อภิสรา เจริญวัฒนโยธิน
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาและวิเคราะห์สารก่อการแพ้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้า
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สุนิสา ไทยจินดา
ชัญญานุช ฐาปนะพงศ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงชนิดไมโครโฟกัสอัลตราซาวน์ เปรียบเทียบกับ แม็คโครโฟกัส อัลตราซาวน์ต่อการลดริ้วรอยร่องลึกบริเวณหางตา, ความหย่อนคล้อยใต้ตา, ริ้วรอยใต้ตา: การศึกษาแบบไปข้างหน้า, สุ่มเลือก ปกปิดผู้ประเมินและผู้ถูกประเมิน แบบแบ่งครึ่งหน้า
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สุนิสา ไทยจินดา
ธนวร ธาดานุกูลวัฒนา
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลระหว่างการฉีดโบทูลินุมทอกซินเอเข้าใต้ผิวหนังร่วมกับยาทารักษาสิวมาตรฐานเทียบกับยาทารักษาสิวมาตรฐานเพียงอย่างเดียวในการรักษาสิวบริเวณคางในวัยผู้ใหญ่
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สุนิสา ไทยจินดา
กฤษฏิ์สิรี โปษะกฤษณะ
วิทยานิพนธ์/Thesis
Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 20
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 6,015
รวม 6,035 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 294,782 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 1,270 ครั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ = 145 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล = 23 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเอกชน = 11 ครั้ง
หน่วยงานอื่น = 9 ครั้ง
สถาบันพระบรมราชชนก = 4 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสงฆ์ = 1 ครั้ง
รวม 296,245 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.134
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.33