รูปแบบความสุขตามแนวพุทธจิตวิทยาของนักธุรกิจหญิงในสังคมไทย

Name: สุวรรณี ไวท์

keyword: ความสุข

; พุทธจิตวิทยา

; นักธุรกิจหญิง

Abstract: ดุษฎีนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาความสุขตามแนวพุทธจิตวิทยา 2) เพื่อวิเคราะห์และสังเคราะห์หลักพุทธธรรมและทฤษฎีจิตวิทยาในการพัฒนารูปแบบความสุขตามแนวพุทธจิตวิทยาของนักธุรกิจหญิงในสังคมไทย และ 3) เพื่อนำเสนอรูปแบบความสุขตามแนวพุทธจิตวิทยาของนักธุรกิจหญิงในสังคมไทย เป็นการวิจัยแบบผสานวิธีระหว่างวิธีวิจัยเชิงคุณภาพและวิธีวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึกเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 20 รูปหรือคน และใช้แบบสอบถามเก็บข้อมูลเชิงปริมาณจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 384 คน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา และใช้สถิติวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ผลจากการวิจัยพบว่า 1. ความสุขตามแนวพุทธจิตวิทยาประกอบด้วย 2 ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กันในทางบวกอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 ซึ่งทุกหัวข้อต่างมีรูปแบบความสุขตามแนวพุทธจิตวิทยาของนักธุรกิจหญิงในสังคมไทยที่ไม่แตกต่างกัน กล่าวโดยองค์รวม ความสุขของนักธุรกิจหญิงในสังคมไทย คือ การมีความสุขทั้งในตนเอง ในครอบครัว ในองค์กร ในสังคม และมีความสุขอย่างมีสติ การเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เป็นแม่ที่ดี เป็นภรรยาที่ดี เป็นลูกที่ประเสริฐ เป็นพลเมืองดีที่มีความสุขทั้งกายและใจ มีสุขแท้ อย่างยั่งยืน เป็นผู้มีความสุขง่าย ที่สร้างได้ด้วยตัวเอง ด้วยการมีหลักธรรมนำชีวิตสร้างความสุข คือ การมีพื้นฐานของการให้ที่ดี การมีความสัมพันธ์กับสังคมด้วยความมีระเบียบวินัย และพัฒนาตนเองด้วยสติปัญญา ไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของความโลภ โกรธ หลง สอดคล้องกับทฤษฎีจิตวิทยาเชิงบวก PERMA ที่ทำให้เป็นคนคิดบวก มีระเบียบวินัยตั้งใจมั่นในสิ่งที่ทำ มีความสัมพันธ์เอื้อเฟื้อเกื้อกูลที่ดีกับผู้อื่น มีความเข้าใจในการดำเนินชีวิต นำสู่ความสำเร็จอย่างมีความสุขที่ง่ายแท้จริงและยั่งยืน ทั้งในชีวิตครอบครัวและธุรกิจการงาน 2. จากการวิเคราะห์และสังเคราะห์หลักพุทธธรรมและทฤษฎีจิตวิทยาในการพัฒนารูปแบบความสุขตามแนวพุทธจิตวิทยาของนักธุรกิจหญิงในสังคมไทย พบว่า คุณลักษณะของนักธุรกิจหญิงในสังคมไทยตามแนวพุทธจิตวิทยา ประกอบด้วย 7 G คือ 1) Good Value มีความคิดดี มีความคิดในแง่บวก มีสุขภาพจิตดี สุขภาพกายดี รู้จักตนเอง เห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น 2) Good Moral เป็นคนมีศีลธรรม มีการตระหนักรู้ถึงความผิด ชอบ ชั่วดี มีความสุจริต ซื่อสัตย์ในหน้าที่การงาน 3) Gratitude ขอบคุณทุกสิ่งที่ตนมี ขอบคุณในสิ่งที่ตนได้รับมา ขอบคุณที่ได้มีเพื่อให้ออกไป 4) Give เป็นผู้ให้ที่ดี ให้ด้วยใจจริง ให้ด้วยความสุข ให้ด้วยความบริสุทธิ์ตั้งแต่ขณะคิด ขณะให้ หลังให้ไปแล้ว ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ไม่ยึดติด 5) Grow พัฒนาตนเอง เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อสร้างความเติบโตให้กับตนเอง เพื่อจะได้มีกำลังในการดูแลตนเองและผู้อื่นต่อไป 6) Gain การเป็นผู้รับที่ดีมีความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ให้ ถ้าเป็นในแง่ของธุรกิจ คือการมีความซื่อตรง ซื่อสัตย์ สุจริต มีความกตัญญูกตเวทีต่อลูกค้าที่ได้ให้ความไว้วางใจ ให้งาน ให้อาชีพ ให้รายได้ เป็นต้น ในแง่ของการใช้ชีวิตประจำวันคือการได้ตอบแทนผู้มีพระคุณ เช่น มีความกตัญญูกตเวทีต่อบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ องค์กร สังคม ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ 7) Good Sufficiency รู้จักความพอดีรู้จักประมาณตน เดินทางสายกลาง ลดละจากความโลภ โกรธ หลง ที่จะนำพาให้ตนเองและผู้อื่นให้เกิดความทุกข์ 3. รูปแบบความสุขตามแนวพุทธจิตวิทยาของนักธุรกิจหญิงในสังคมไทยเป็นคนที่มีสุขภาพจิตดี มีอารมณ์ดีและเบิกบานเป็นคนคิดบวก มองโลกในแง่ดี สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีสติมีปัญญา สามารถมองเห็นโอกาสในทุกวิกฤติได้ เกิดภูมิคุ้มกัน นำไปสู่ความสำเร็จ ทำให้มองเห็นคุณค่าของตนเองและส่งมอบความสุขนั้นไปยังผู้อื่นให้มีความสุขได้ง่ายขึ้น มองเห็นความสุขที่แท้จริงได้มากขึ้น สามารถดำเนินชีวิตไปได้ด้วยความสงบสุขอย่างแท้จริง ส่งผลให้คนรอบข้างมีความสุข สังคมมีความสุข และธุรกิจหน้าที่การงานก็ประสบความสำเร็จ การมีความสุขทั้งในชีวิตครอบครัวและการทำงาน ส่งผลให้มีกำลังใจในการปฏิบัติดีต่อไป

Abstract: The objectives of the study were 1) to study a happiness based on Buddhist psychology; 2) to analyze and synthesize Buddhist principles and psychological theories to develop a happiness model based on Buddhist Psychology of business women in Thai society; and 3) to present a happiness model based on Buddhist Psychology of business women in Thai society. The study was a mixed method research between a qualitative method and quantitative method in nature, using an in-depth interview to collect qualitative data from 20 key informants and a questionnaire to collect quantitative data from 384 samples. A content analysis was employed for analyzing qualitative data and statistics was used for analyzing quantitative data. The results of the study were as follows : 1. Regarding a study of a happiness based on Buddhist psychology it found that 1. both variables had a significant positive correlation at .01 level with every topic of indifferent patterns of happiness based on Buddhist psychology of business women in Thai society, and overall happiness of business women in Thai society consisted of self-happiness, family happiness, organizational happiness, social happiness and conscious happiness, being successful business women, being happy mothers, being happy wives, being noble offspring, being good citizen with both physical and mental happiness, being truly, sustainably, easily and self-constructively happy persons with Buddhadharma of life, including the principles of well giving, good social relations, and self-development by mindful wisdom without the domination of greed, anger, and delusion in association with the application of positive psychological theory of PERMA enhancing the positive thinking, good engagement, good relationship, understanding the meaning of life leading to the achievement of the easy, true, and sustainable happiness in family and business. 2. From the analysis and synthesis of Buddhist principles and psychological theories to develop a happiness model based on Buddhist Psychology of business women in Thai society it revealed that the characteristics of business women in Thai society based on Buddhist Psychology consisted of 7 G, including 1) Good value as having good thoughts, a positive mindset, good mental health, good physical health, self-awareness, self-appreciation, and appreciating others, 2) Good moral as a person with morals with awareness of right and wrong honesty in work, 3) Gratitude as being grateful for the ownership of things, being thankful for the sharing with others, 4) Giving as being a good giver with happiness in the purity from the moment of thought while giving and after giving, giving without expecting anything in return with detachment, 5) Growth self-development with learning new things to create self-growth all the time with the ability to continue helping others, 6) Gaining being a good receiver with a good gratitude for the giver in terms of business with integrity, honesty, gratitude to customers with their trust, and in daily life to repay benefactors such as being grateful to parents, teachers, social organizations, nations, religion, and monarchy, and 7) Good sufficiency as understanding and knowing self-reliance, being moderate, being in middle way, refraining from greed, anger and delusion leading to suffering for oneself and others. 3. A happiness model based on Buddhist Psychology of business women in Thai society was the model of a person with good mental health, humor and cheer, being positive, optimistic, and resourceful in problem solutions with mindful wisdom able to see opportunities in every crisis, having immunity leading to success, causing self-value easily rendering the happiness to others, easier understanding true happiness, being able to live with true peace resulting in other people’s happiness, social happiness and successful business, and being happy in both family life and work bringing about the encouragement to continue doing good deeds.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ส่วนหอสมุดกลาง

Address: พระนครศรีอยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: สิริวัฒน์ ศรีเครือดง

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: สุวัฒสัน รักขันโท

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2565

Modified: 2568-09-14

Issued: 2568-09-14

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: สาขาวิชาพุทธจิตวิทยา

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	สุวรรณี ไวท์.pdf	4.05 MB	1	2025-10-12 16:49:27

ใช้เวลา

0.022766 วินาที