แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำของครูในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนมัธยมศึกษา สายสามัญเมืองฉงจั่ว สาธารณรัฐประชาชนจีน

Guidelines for Developing Teacher Leadership in the 21st Century for Ordinary High Schools in Chongzuo City, People's Republic of China

Name: หวาง เหม่ยชิว

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาภาวะผู้นำของครูในศตวรรษที่ 21 โรงเรียน มัธยมศึกษาสายสามัญ เมืองฉงจั่ว สาธารณรัฐประชาชนจีน 2) ศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำ ของครูในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนมัธยมศึกษาสายสามัญในเมืองฉงจั่ว สาธารณรัฐประชาชนจีน3) ประเมินแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำของครูในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนมัธยมศึกษาสายสามัญ เมืองฉงจั่ว สาธารณรัฐประชาชนจีน การวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพ ปัจจุบันของแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำของครูในศตวรรษที่ 21 ในโรงเรียนมัธยมศึกษาสายสามัญ เมืองฉงจั่ว สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นครูจำนวน 351 คน จากโรงเรียน มัธยมศึกษาสายสามัญ 22 แห่ง เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถามมาตราส่วน 5 ระดับ ซึ่งมีค่า ความเชื่อมั่นที่ระดับ 0.923 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระยะที่ 2 การพัฒนาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำของครูในศตวรรษที่ 21 ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน โดยใช้การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง ขั้นตอนที่ 1 กลุ่มเป้าหมาย ครูที่ ได้รับรางวัลดีเด่น จำนวน 10 คน ขั้นตอนที่ 2 ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 10 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง ระยะที่ 3 การประเมินแนวทางและคู่มือการพัฒนาภาวะผู้นำของครูในศตวรรษที่ 21 ซึ่งแบ่ง ออกเป็น 2 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การประเมินความถูกต้องและความเหมาะสม โดยกลุ่ม เป้าหมายคือผู้บริหารและรองฝ่ายวิชาการ จำนวน 15 คน ขั้นตอนที่ 2 การประเมินความเป็นไปได้ และประโยชน์ของคู่มือ โดยกลุ่มเป้าหมายคือหัวหน้าสาขาวิชา จำนวน 20 คน โดยเครื่องมือที่ใช้ใน การประเมินเป็นแบบสอบถามมาตราส่วน 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สรุปผลการวิจัย 1. สภาพการพัฒนาภาวะผู้นำของครูในศตวรรษที่ 21 ในโรงเรียนมัธยมศึกษาสายสามัญ เมืองฉงจั่ว สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการส่งเสริมการใช้ข้อมูลประมวลผล ปรับปรุง และพัฒนาการศึกษา มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือด้านการเข้าถึงและใช้การวิจัยในการเรียนการสอน และด้านการทำงานร่วมกับ ผู้ปกครองและชุมชน ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ด้านการอำนวยความสะดวกในการจัดการ เรียนรู้ 2. แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำของครูในศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย 7 ด้านหลัก ได้แก่ 1) ด้านการส่งเสริมการใช้ข้อมูลในการประมวลผล ปรับปรุง และพัฒนาการศึกษา2) ด้านการเข้าถึงและใช้การวิจัยในการเรียนการสอน 3) ด้านการทำงานร่วมกับผู้ปกครองและชุมชน 4) ด้านการส่งเสริมวัฒนธรรมความร่วมมือ 5) ด้านการส่งเสริมการเรียนรู้แบบครูมืออาชีพ6) ด้านการสนับสนุนการเรียนรู้ทางวิชาการและวิชาชีพ และ 7) ด้านการอำนวยความสะดวกใน การจัดการเรียนรู้ 3. ผลการประเมินแนวทางและคู่มือประกอบการพัฒนาภาวะผู้นำของครูในศตวรรษที่ 21 ผลการวิจัยพบว่า ความถูกต้องและความเหมาะสมของแนวทางโดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านการส่งเสริมการใช้ข้อมูลประมวลผล ปรับปรุง และพัฒนาการศึกษา รองลงมาคือ ด้านการเข้าถึงและใช้การวิจัยในการเรียนการสอน ส่วนที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ด้านการอำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ ส่วนผลการประเมิน ความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ของคู่มือที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ โมดูล 1 การส่งเสริมการใช้ข้อมูล ปรับปรุง และพัฒนาการศึกษา รองลงมา โมดูล 2 การเข้าถึง และใช้การวิจัยในการเรียน การสอน ส่วนที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ข้อ 7 การวัดและประเมินผลการพัฒนา

Abstract: The purposes of this research were to: 1) investigate the current status of teacher leadership in the 21st century in ordinary high schools in Chongzuo City, People's Republic of China; 2) study the development guidelines for teacher leadership in these schools; and 3) evaluate the guidelines for its further development. The study was divided into three phases. In Phase I, the current status was investigated using a 5-point Likert scale questionnaire administered to 351 teachers from 22 ordinary high schools in Chongzuo City, with data analyzed using frequency, percentage, mean, and standard deviation, and the instrument demonstrating a reliability coefficient of 0.923. Phase II was to develop the guidelines for teacher leadership development, and was conducted in two steps through semi-structured interviews. The first step involved interviews with 10 Best Practice award teachers, and the second involved interviews with 10 experts selected through purposive sampling. Phase III was to evaluate the developed guidelines and their accompanying manual in two parts. The first part assessed the accuracy and suitability of the guidelines with a target group of 15 administrators and deputy academic officers, and the second part evaluated the feasibility and utility of the manual with 20 department heads, using a 5-point Likert scale questionnaire with data analysis based on mean and standard deviation. The findings revealed that: 1. The state of teacher leadership development in the 21st century in ordinary high schools in Chongzuo City, People's Republic of China, was at a high level both overall and across individual dimensions. When examined by dimension, the highest average is observed in the area of promoting the use of data for educational improvement and development, followed by the dimensions of accessing and utilizing research in teaching and learning and collaborating with parents and the communities. The lowest average was found in the area of facilitating learning management. 2. The guidelines for developing teacher leadership in the 21st century comprised seven main areas: 1) Promoting the use of data for educational improvement and development; 2) Accessing and utilizing research in teaching and learning; 3) Collaborating with parents and the community; 4) Promoting a collaborative culture; 5) Fostering professional teacher learning; 6) Supporting academic and professional learning; and 7) Facilitating learning management. 3. The evaluation results of the guidelines and accompanying handbook for developing teacher leadership in the 21st century indicated that the accuracy and appropriateness of the guidelines were rated at a high level. When analyzed by dimension, the highest average score was found in promoting the use of data for educational improvement and development, followed by accessing and utilizing research in teaching and learning, while the lowest score was in facilitating learning management. Regarding the feasibility and utility of the handbook, the highest average score was observed for Module 1: promoting the use of data for educational improvement and development, followed by Module 2: accessing and utilizing research in teaching and learning, with the lowest average score for Item 7: measurement and evaluation of development.

มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์. ศูนย์วิทยบริการ

Address: บุรีรัมย์

Name: ศิราณี จุโฑปะมา

Role: ที่ปรึกษาหลัก

Name: นฤมล ศักดิ์ปกรณ์กานต์

Role: ที่ปรึกษาร่วม

Created: 2568

Issued: 2568-08-28

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: การบริหารการศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์

ใช้เวลา

0.019133 วินาที