ปัญหาการตรวจสอบภายในของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ

Internal audit problems of autonomous universities

Name: สุมาลี เชเดฟ

ThaSH: มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ

ThaSH: สถาบันอุดมศึกษา

ThaSH: มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ -- การบริหาร

ThaSH: การตรวจสอบภายใน

Abstract: การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการปฏิบัติงานตรวจสอบภายในของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล ประชากรในการศึกษาครั้งนี้ คือ กลุ่มตัวอย่างผู้ปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบภายในของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ โดยกลุ่มตัวอย่างได้จากการคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ซึ่งพิจารณาจากมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐที่มีหน่วยตรวจสอบภายในและมีความพร้อมในการเข้าร่วมการศึกษา จากทั้งหมด 21 แห่ง มีมหาวิทยาลัยที่ตอบรับและให้ความยินยอมเข้าร่วมการศึกษาจำนวน 16 แห่ง (คิดเป็นร้อยละ 76.19) โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามรวมทั้งสิ้น 91 คน จากบุคลากรในหน่วยตรวจสอบภายในทั้งหมด 138 คน คิดเป็นร้อยละ 65.94 ของกลุ่มเป้าหมายภายใต้ขอบเขตการศึกษา ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ และค่าเฉลี่ย ร่วมกับสถิติเชิงอนุมานโดยใช้การทดสอบค่าที (T-test) เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของระดับปัญหาด้านการตรวจสอบภายในใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการวางแผนการตรวจสอบ ด้านการปฏิบัติงานตรวจสอบ และด้านการจัดทำรายงานและการติดตามผลการตรวจสอบ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยด้านลักษณะของหน่วยงาน ได้แก่ อายุ ประสบการณ์ และขนาดของมหาวิทยาลัยผลการศึกษาพบว่า ผู้ปฏิบัติงานตรวจสอบภายในของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 36-50 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการบัญชี/บริหารธุรกิจ ปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ปฏิบัติงานตรวจสอบภายใน มีประสบการณ์ในการทำงาน 10 ปีขึ้นไปโดยปัญหาการตรวจสอบภายในในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ปัญหาด้านการวางแผนการตรวจสอบเป็นประเด็นที่พบมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย 3.25) รองลงมาคือปัญหาด้านการปฏิบัติงานตรวจสอบ (ค่าเฉลี่ย 2.92) และปัญหาด้านการจัดทำรายงานและการติดตามผล (ค่าเฉลี่ย 2.71) ตามลำดับ ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดในแต่ละด้าน ได้แก่ การประเมินความเสี่ยงไม่ครอบคลุม การจัดสรรทรัพยากรไม่เพียงพอ การสำรวจข้อมูลเบื้องต้นไม่ครบถ้วน ระยะเวลาในการตรวจสอบที่จำกัด ความซับซ้อนของกระบวนการตรวจสอบ การจัดทำรายงานล่าช้า และการติดตามผลที่ขาดระบบนอกจากนี้การวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ พบว่า กลุ่มผู้ปฏิบัติงานที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี และมีประสบการณ์ในการทำงานน้อยกว่า 10 ปี มีระดับการรับรู้ปัญหาสูงกว่ากลุ่มอื่นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในขณะที่ขนาดของมหาวิทยาลัยไม่ส่งผลต่อระดับของปัญหาอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าปัญหาการตรวจสอบภายในเป็นปัญหาเชิงระบบที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะลักษณะองค์กรข้อค้นพบชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการยกระดับประสิทธิภาพของกระบวนการตรวจสอบภายในในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านการวางแผน การปฏิบัติงาน และการรายงานผล เพื่อให้การตรวจสอบภายในสามารถตอบสนองต่อบทบาทเชิงกลยุทธ์ และเป็นกลไกสนับสนุนการบริหารจัดการที่มีธรรมาภิบาลภายในมหาวิทยาลัยได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. สำนักหอสมุด

Address: เชียงใหม่

Email: cmulibref@cmu.ac.th

Name: ตุลยา ตุลาดิลก

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2568

Modified: 2568-08-14

Issued: 2568-08-14

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Grantor: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

©copyrights มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	651532059.pdf	1.06 MB	7	2025-10-03 10:51:01

ใช้เวลา

0.016343 วินาที