Abstract:
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความคุ้มค่าของการลงทุนในการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ของเกษตรกรในจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางด้านการเงินของโครงการ มีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจงจากเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ ของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 40 ราย ในการศึกษาได้แบ่งตามขนาดพื้นที่การทำเกษตรทฤษฎีใหม่เป็น 3 กรณี ดังนี้ พื้นที่ขนาด 1-5 ไร่ พื้นที่ขนาด 6-10 ไร่ และพื้นที่ขนาด 11-15 ไร่ ซึ่งการวิเคราะห์ความคุ้มค่าของการลงทุนมีเกณฑ์ที่ใช้ในการชี้วัด คือ มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) อัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุน (BCR) และอัตราผลตอบแทนภายในของโครงการ (IRR) และการวิเคราะห์ความอ่อนไหวของโครงการ นอกจากนี้ยังวิเคราะห์ค่าความแปรเปลี่ยนทางด้านต้นทุนและผลประโยชน์ของโครงการ ผลการศึกษาพบว่า การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ของเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่ปลูกข้าวเป็นหลัก โดยจัดสรรพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน คือ พื้นที่นา พื้นที่พืชไร่และพืชสวน พื้นที่สระน้ำ และพื้นที่อยู่อาศัย ซึ่งในพื้นที่ขนาด 1-5 ไร่ มีสัดส่วนคือ 44.35: 25.42: 26.84: 3.39 พื้นที่ขนาด 6-10 ไร่ มีสัดส่วนคือ 52.03: 27.37: 18.50: 2.10 และพื้นที่ขนาด 11-15 ไร่ มีสัดส่วนคือ 58.33: 13.92: 22.17: 5.58 จากการศึกษาทางด้านการเงิน พบว่า ในกรณีพื้นฐาน ทั้ง 3 ขนาด มีความคุ้มค่าในการลงทุน แต่ในกรณีพื้นที่ขนาด 6-10 ไร่ จะมีความคุ้มค่าในการลงทุนมากที่สุด
This study aimed for the cost-benefit analysis of New Theory Agriculture of farmers in Kalasin Province with the financial feasibility analysis. Purposive sampling was used to select only 40 farmers who joined the subsidy project of Office of the Permanent Secretary, Ministry of Agriculture and Cooperatives. These cases categorized on land sizes: 1-5 rai, 6-10 rai and 11-15 rai for New Theory Agriculture. Cost-Benefit analysis was applied through estimating Net Present Value (NPV), Benefit-Cost Ratio (BCR), Internal Rate of Return (IRR) and the sensitivity analysis. Switching Value Test of cost and Benefit of the project. Most of the participants in the project mainly grow rice and partitioned the farming areas into 4 parts: rice fields, crop & horticultural fields, pond & reservoir, and settlement. The ratio of 1-5 rai area was 44.35: 25.42: 26.84: 3.39, respectively. The ratio of 6-10 rai was 52.03: 27.37: 18.50: 2.10, respectively. The ratio of 11-15 rai was 58.33: 13.92: 22.17: 5.58, respectively. According to the financial analysis of base cases, all 3 area sizes (1-5 rai, 6-10 rai, and 11-15 rai) are worth investing. However, the case of 6-10 rai could be the most worthwhile investment