การพัฒนารูปแบบความรอบรู้ด้านสุขภาพและความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองในความสามารถของตนเองในการส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคผักและผลไม้ในนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ

Development of health literacy and self-efficacy model to promote fruit and vegetable consumption in Rajabhat University Students

Name: พูนศักดิ์ บุญยัง

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์. ปร.ด. (การส่งเสริมสุขภาพและสุขศึกษา) 2564.

Classification :.LCCS: RA776.95

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. -- สาขาการส่งเสริมสุขภาพและสุขศึกษา -- วิทยานิพนธ์

ThaSH: มหาวิทยาลัยราชภัฏ -- นักศึกษา

ThaSH: พฤติกรรมสุขภาพ

ThaSH: ความรอบรู้ทางสุขภาพ

ThaSH: การดูแลสุขภาพด้วยตนเอง

ThaSH: ความสามารถในตนเอง

Abstract: งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณแบบพหุวิธี แบ่งการดำเนินการออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงสร้างความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของพฤติกรรมการบริโภคผักและผลไม้พร้อมทั้งตรวจสอบความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามกับนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาศึกษาทั่วไปของมหาวิทยาลัยราชภัฏ จำนวน 550 คน โดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและโมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling: SEM) และการวิจัยระยะที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบและศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคผักและผลไม้ในนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ โดยนำผลการวิจัยในระยะที่ 1 มาเป็นปัจจัยนำเข้าในการพัฒนารูปแบบและนำไปทดสอบประสิทธิผลของรูปแบบฯ กับนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ จำนวน 181 คน ด้วยการสุ่มอย่างง่าย โดยแบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ กลุ่มละ 91 คน และ 90 คน ตามลำดับ เก็บรวบรวมข้อมูลจำนวน 3 ครั้ง ได้แก่ ก่อนการทดลอง หลังการทดลอง และระยะติดตามผล วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความแปรปรวนแบบวัดซ้ำ (repeated measure ANOVA) ผลการศึกษา พบว่า โมเดลโครงสร้างความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของพฤติกรรมการบริโภคผักและผลไม้ในนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วยตัวแปรแฝง 3 ตัว ได้แก่ ความรอบรู้ด้านสุขภาพ ความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง และพฤติกรรมการบริโภคผักและผลไม้ และพบว่าโมเดลที่พัฒนาขึ้นมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ {u1D712}² เท่ากับ 29.397, {u1D712}²/df เท่ากับ 1.633, df เท่ากับ 18 และ p-value เท่ากับ 0.059 และเมื่อพิจารณาความสอดคล้องของตัวแบบกับข้อมูลเชิงประจักษ์ พบว่า GFI เท่ากับ 0.988 และ RMSEA เท่ากับ 0.035 รูปแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคผักและผลไม้ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) ผู้ใช้รูปแบบ 4) กลุ่มเป้าหมาย 5) กิจกรรมการเรียนรู้ในรูปแบบ และ 6) การประเมินผลการใช้รูปแบบ ซึ่งผ่านการประเมินคุณภาพจากผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 5 ท่าน และผ่านเกณฑ์คุณภาพในระดับดี ผลการใช้รูปแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคผักและผลไม้ พบว่ากลุ่มทดลองมีการเปลี่ยนแปลงความรอบรู้ด้านสุขภาพ ความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง และพฤติกรรมการบริโภคผักและผลไม้สูงขึ้นกว่าก่อนการทดลอง มีความยั่งยืนในระยะติดตามผลและสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 This research is a multi-method quantitative research. The implementation was divided into two phases: Phase I aimed to develop a causal structure of fruit and vegetable consumption behavior and to verify consistency with empirical data. The samples were 550 Rajabhat University students who enrolled in general education courses selected by multi – stage sampling. Questionaires developed by the researcher were used to collect the data. Descriptive statstics and structural equation model : SEM were used to analyze the data. The objective of the second phase was to develop a behavior modification modelof fruit and vegetable consumption among Rajabhat University students and to study the effectiveness of the model. The results of the research in Phase I were used as an input factor for developing the model in phase II. The participants were 181 Rajabhat University students recruited by simple random sampling. The participants were randomly assigned to the experimental and the comparison groups. They were 91 and 90 students in each group respectively. Data was collected 3 times: before and after implementing the model and the follow-up stage. Repeated measure ANOVA was used to analyze the data. The results of the study were found as follows : 1. The causal relationship structural model of fruit and vegetable consumption in Rajabhat University students consisted of 3 latent variables: health literacy, self-efficacy and fruit and vegetable consumption. The results found that the developed model was consistent with the empirical data, {u1D712} 2 was 29.397, {u1D712} 2 / df = 1.633, df = 18, and p-value 0.059. The GFI and RMSEA were 0.988 and 0.035 respectively. 2. The fruit and vegetable consumption modification model consists of 6 components: 1)principle of the model2) objectives3) model users4) target group5) learningactivities and 6) evaluation of the a model. The model were passed the quality assessment from 5 experts with a good level. 3. After implementing the behavior modification model of fruit and vegetable consumption, the results revealed that the experimental group had higher health literacy, self-efficacy and fruit and vegetable consumption behavior than before participating in the model and found a sustainability at the follow-up stage at a .05 statistical significance level. The study results also showed that health literacy, self-efficacy, fruit and vegetable consumption in the experimental group were higher than those in the comparison group at a .05 statistical significance level.

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. สำนักหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: tdckulib@ku.ac.th

Name: กรัณฑรัตน์ บุญช่วยธนาสิทธิ์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก

Created: 2564

Modified: 2568-07-21

Issued: 2568-07-21

วิทยานิพนธ์/Thesis

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

URL: https://www.lib.ku.ac.th/KUthesis/2564/poonsak-boo-all.pdf

CallNumber: RA776.95 .พ415

tha

DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: การส่งเสริมสุขภาพและสุขศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

©copyrights มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	poonsak-boo-all.pdf	5.94 MB	3	2025-10-04 13:25:15

ใช้เวลา

0.025026 วินาที