การประเมินความเสี่ยงของงานอบโอโซนและการประยุกต์ใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์เพื่อทำนายระยะเวลาการสลายตัวของโอโซน สำหรับบ่งชี้สภาวะปลอดภัย

Risk assessment in Ozone service and application of mathematical model to predict Ozone decomposition period for safety conditions

Name: จินตนา ฝ่งใจเจริญ

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์. วศ.ม. (วิศวกรรมความปลอดภัย) 2564

Classification :.LCCS: T55.3.H3

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. สาขาวิศวกรรมความปลอดภัย -- วิทยานิพนธ์

ThaSH: ความปลอดภัยในงานอุตสาหกรรม

ThaSH: โอโซน

ThaSH: การประเมินความเสี่ยง

Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อระบุความเป็นอันตราย และประเมินความเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานของการให้บริการอบโอโซน โดยใช้วิธีการประเมินความเสี่ยง HAZOP สำหรับการประเมินอุปกรณ์ในการผลิตโอโซน และใช้วิธี WHAT-IF Analysis สำหรับประเมินขั้นตอนการปฏิบัติงานครอบคลุมถึงสภาพแวดล้อมที่กำหนดให้เหมาะสมกับงาน และขั้นตอนการปฏิบัติงานอบโอโซนทั้ง 8 ขั้นตอน ผลจากการประเมินด้วยวิธี HAZOP พบว่าอุปกรณ์ที่ใช้ตั้งเวลาในการทำงานของเครื่องผลิตโอโซนไม่ทำงานมีความเสี่ยงมากที่สุด และผลจากการประเมินด้วยวิธี WHAT-IF พบว่าถ้าผู้ปฏิบัติงานเข้าไปในพื้นที่ขณะที่โอโซนมีค่าเกินขีดจำกัดการรับสัมผัสที่ 0.05 ppm มีความเสี่ยงมากที่สุด ดังนั้นเพื่อลดปัญหาการได้รับโอโซนที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ ต้องกำหนดมาตรการความปลอดภัย ประกอบด้วย มาตรการด้านการบริหารจัดการความปลอดภัย และมาตรการด้านวิศวกรรม รวมถึงการทดลองประยุกต์ใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่มีปัจจัยสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการสลายตัวของโอโซน เพื่อทำนายระยะเวลาการสลายตัวของโอโซน โดยกำหนดให้สภาวะปลอดภัยต้องมีปริมาณโอโซนคงเหลือเท่ากับ 0 ppm ทดลองในพื้นที่ปิด และพื้นที่ปิดที่ใช้เครื่องผลิตโอโซนร่วมกับระบบปรับและหมุนเวียนอากาศแบบ Air Handling Unit บริเวณภายนอกและภายในห้อง AHU จากผลการทดลองพบว่า ระยะเวลาการสลายตัวของโอโซนจากการคำนวณปัจจัยที่เกี่ยวข้องมีค่าเท่ากับ 260, 267 และ 93 นาทีตามลำดับ ซึ่งสอดคล้องกับการวัดปริมาณโอโซนคงเหลือจริงในพื้นที่ทั้งหมด ทำให้สามารถประยุกต์ใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ดังกล่าวเพื่อคาดการณ์ระยะเวลาการสลายตัวของโอโซนได้ The purpose of this study was to identify the hazards and assess the occupational health and safety risks in the Ozone Service. The researchers used the HAZOP method for ozone production equipment and the WHAT-IF method for operational procedures to cover the environment for the job and the eight steps of ozone operations. The results of the study by the HAZOP method found that the most dangerous issue was the timer of the ozone generator did not work, and the WHAT-IF method found that the most dangerous question was what would happen if a worker entered an area when the ozone exposure limit of 0.05 ppm. Thus, reducing ozone exposure that may cause health effects needs safety measures, including safety management and engineering controls. This experiment applies a mathematical model with factors related to ozone decomposition by requiring the safety condition at residual ozone equal to 0 ppm. The experiment was in a closed area and closed areas that use ozone generators with the Air Handling Unit systems, outside and inside AHU rooms. The results of experiments found that the ozone decomposition period is calculated from the relevant factors were 260, 267, and 93 minutes to be consistent with the actual measurement of residual ozone in the entire area. This makes it possible to apply this mathematical model to predict the ozone decomposition period.

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. สำนักหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: tdckulib@ku.ac.th

Name: สุชาติ เหลืองประเสริฐ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก

Created: 2564

Modified: 2568-07-18

Issued: 2568-07-18

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

URL: https://www.lib.ku.ac.th/KUthesis/2564/jintana-fon-all.pdf

CallNumber: T55.3.H3 .จ35

tha

DegreeName: วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: วิศวกรรมความปลอดภัย

Grantor: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

©copyrights มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	jintana-fon-all.pdf	7.62 MB	3	2025-07-31 09:30:58

ใช้เวลา

0.019016 วินาที