การเพาะเลี้ยงสาหร่ายในน้ำเสียอุตสาหกรรมผลิตเบียร์เพื่อบำบัดน้ำเสียและผลิตไบโอดีเซล

Algae culturing from wastewater of brewing industry for wastewater treament and biodiesel production

Name: วรไกร วิชานุชิต

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์. วท.ม. (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม) 2563.

Classification :.LCCS: TD745

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. -- สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม -- วิทยานิพนธ์

ThaSH: น้ำเสีย -- การบำบัด

ThaSH: น้ำเสีย -- การใช้ประโยชน์

ThaSH: สาหร่าย -- การเพาะเลี้ยง

ThaSH: เชื้อเพลิงไบโอดีเซล -- การผลิต

ThaSH: อุตสาหกรรมเบียร์ -- การกำจัดของเสีย

Abstract: อุตสาหกรรมผลิตเบียร์เป็นอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดน้ำเสียเป็นปริมาณมาก น้ำเสียจากอุตสาหกรรมผลิตเบียร์มีธาตุอาหารหลายชนิดที่เหมาะสมต่อการใช้เพาะเลี้ยงสาหร่ายสีเขียวขนาดเล็ก Chlorella vulgaris และสาหร่ายขนาดเล็กชนิดนี้ยังมีความสามารถในการปรับปรุงคุณภาพน้ำเสียให้ดียิ่งขึ้น โดยในงานวิจัยนี้ได้ทำการบำบัดน้ำเสียจากโรงงานผลิตเบียร์โดยใช้สาหร่ายสีเขียวขนาดเล็ก Chlorella vulgaris บำบัดน้ำเสียในความเข้มข้นต่าง ๆ คือร้อยละ 100, 80, 60, 40, 20, 0 พบว่า สาหร่ายสามารถเจริญเติบโตได้สูงสุดในวันที่ 5 มีปริมาณ 7.8X105 เซลล์ ต่อมิลลิลิตร ที่เพาะเลี้ยงในน้ำเสียที่มีความเข้มข้นร้อยละ 100 หลังจากเลี้ยงสาหร่ายไปทั้งสิ้น 7 วัน พบว่าค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) มีช่วงความเป็นด่างอยู่ในช่วง 8.89-10.68 ค่าซีโอดี (COD) ค่าบีโอดี(BOD) ค่าฟอสเฟต (PO43-) ค่าของแข็งแขวนลอย (SS) ค่าทีเคเอ็น (TKN) มีค่าลดลงร้อยละ 10.00-52.42, 10.34-52.48, 12.52-40.82, 0.2-53.51 และ 94.38-98.72 ตามลำดับ ส่วนค่าของแข็งละลายน้ำ (TDS) และ ไขมันและน้ำมัน (O&G) มีค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.14-17.8 และ 34.31-70.55 ตามลาดับ ผลของชีวมวล พบว่า ชีวมวลของสาหร่ายสูงสุดคือ 0.1541 กรัมต่อลิตร ที่ความเข้มข้นของน้ำเสียร้อยละ 80 จากการทดลองพบว่าวิธี Autoclave เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสกัด น้ำมันจากสาหร่ายสีเขียวขนาดเล็ก Chlorella vulgaris โดยมีค่าร้อยละเป็น 6.3 และเนื่องจากการสกัดน้ำมันจากสาหร่ายทำได้น้อยจึงส่งผลให้ไม่สามารถผลิตเป็นไบโอดีเซลได้ The brewing industry is an industry that generates a lot of wastewater. Wastewater from the brewing industry contains many nutrients suitable for culturing microalgae, Chlorella vulgaris, they also have the ability to further improve wastewater quality. In this research, the wastewater from the brewing factory was treated using microalgae, Chlorella vulgaris in different concentrations of wastewater as 100, 80, 60, 40, 20, 0%. It was found that algae at day 5 had the highest growth at 7.8X105cells per ml cultured in wastewater at a concentration of 100%. After culturing algae for a total of 7 days, it was found that the pH had an alkalinity in the range 8.89-10.68, COD, BOD, phosphate (PO43-), suspended solids (SS), TKN values decreased by percentage as 10.00-52.42, 10.34-52.48, 12.52-40.82, 0.2-53.51 and 94.38-98.72, respectively. The dissolved solids (TDS) and fats and oils (O&G) increased 2.14-17.8% and 34.31-70.55%, respectively. The results of biomass showed that the highest algal biomass was 0.1541 grams per liter at 80% wastewater concentration. From the experiment, it was found that the autoclave method was the best method to extract oil from microalgae, Chlorella vulgaris with the value 6.3%. Extraction of algae oil is minimal, resulting in the inability to produce biodiesel.

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. สำนักหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: tdckulib@ku.ac.th

Name: ธนวรรณ พาณิชพัฒน์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก

Created: 2563

Modified: 2568-07-18

Issued: 2568-07-18

วิทยานิพนธ์/Thesis

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

URL: https://www.lib.ku.ac.th/KUthesis/2563/worakai-wic-all.pdf

CallNumber: TD745 .ว172

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม

Grantor: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

©copyrights มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	worakai-wic-all.pdf	1.36 MB

ใช้เวลา

0.02838 วินาที