การพัฒนารูปแบบการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของนักศึกษาครูพลศึกษาของสถาบันการพลศึกษาสังกัดวิทยาเขตภาคกลาง

Development of teaching professional internship model for enhancing physical education Pre-Service Education Students’ Competency at Physical Education Institutes in Central Region Campus

Name: ปรีดาภรณ์ ดวงใจดี

keyword: สภาพแวดล้อมในการทำงาน

ThaSH: การฝึกสอน -- การประเมิน

Classification :.DDC: 371.1

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อสมรรถนะของนักศึกษาครูพลศึกษา 2) พัฒนารูปแบบการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู และ 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการ ฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของนักศึกษาครูพลศึกษาของสถาบันการพลศึกษาสังกัดวิทยาเขตภาคกลาง ในการศึกษา ระยะที่ 1 ศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อสมรรถนะของนักศึกษาครูพลศึกษา ใช้วิธีการศึกษาเอกสาร งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้บริหาร ครูพี่เลี้ยง อาจารย์นิเทศก์ และครูผู้สอนในสถาบันการพลศึกษา จำนวน 285 คน โดยเครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม มาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และโมเดลสมการเชิงโครงสร้าง ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของนักศึกษาครูพลศึกษาของสถาบันการพลศึกษา สังกัดวิทยาเขตภาคกลาง โดยใช้การสนทนากลุ่ม โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน ตรวจสอบความเหมาะสมองค์ประกอบของรูปแบบก่อนนำไปทดลองใช้ ระยะที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของนักศึกษาครูพลศึกษาของสถาบันการพลศึกษา สังกัดวิทยาเขตภาคกลาง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง คือ นักศึกษา จำนวน 30 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.82 แบบประเมินและแบบสังเกตด้านการสอนพลศึกษา และแบบสอบถามวัดเจตคติการฝึกประสบการณ์ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.89 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยที ที่กลุ่มตัวอย่างเป็นอิสระต่อกัน ผลการวิจัยพบว่า 1. การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตรวจสอบความสอดคล้องกลมกลืนของปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อสมรรถนะของนักศึกษาครูพลศึกษาของสถาบันการพลศึกษาสังกัดวิทยาเขตภาคกลางกับข้อมูล เชิงประจักษ์หลังการปรับโมเดล พบว่า ดัชนี วัดระดับความสอดคล้องเปรียบเทียบ เท่ากับ 1.00 คลาดเคลื่อนโดยประมาณ เท่ากับ 0.02 แสดงว่า โมเดลมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ทั้งนี้ค่าอิทธิพลของคุณลักษณะของนักศึกษา มีอิทธิพลต่อสมรรถนะของนักศึกษาครูพลศึกษาของสถาบันการพลศึกษา สังกัดวิทยาเขตภาคกลางอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 2. รูปแบบการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูนี้ โดยแบ่งเป็น 4 หน่วยการฝึกประสบการณ์ คือ ความรู้เกี่ยวกับภาวะผู้นำ และการเสริมสร้างภาวะผู้นำ ศิลปะการสื่อสาร การพัฒนาทีมงานให้มีประสิทธิภาพ และการสอนพลศึกษา ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ คือ แนวคิดและหลักการ จุดประสงค์การฝึกประสบการณ์ เนื้อหา สื่อประกอบการฝึกประสบการณ์ การวัดและประเมินผล และกิจกรรมการฝึกประสบการณ์ ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นเล่าสู่กันฟัง ขั้นตอนที่ 2 ขั้นกิจกรรมพาเพลิน ขั้นตอนที่ 3 ขั้นนำเสนอ และขั้นตอนที่ 4 ขั้นรวมความคิด 3. การใช้รูปแบบการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู พบว่า 1) ด้านความรู้ความเข้าใจ หลังการใช้รูปแบบการฝึกประสบการณ์เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของนักศึกษาครูพลศึกษา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 30.93 และก่อนใช้รูปแบบการฝึกประสบการณ์ เท่ากับ 23.30 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 2) ด้านการสอนพลศึกษา จากการประเมินการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 21.43 และการสังเกตการสอนพลศึกษา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 28.83 3) ด้านเจตคติการ ฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู มีค่าเฉลี่ยภาพรวมในระดับมากที่สุด เท่ากับ 4.68 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีความคิดเห็นในระดับมากถึงมากที่สุด คือ มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.47 - 4.77

มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: ปทุมธานี

Email: arit@vru.ac.th

Name: พิทักษ์ นิลนพคุณ

Role: ประธานที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์.

Created: 2568

Modified: 2568-07-15

Issued: 2568-07-15

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

วพ 371.1 ป471ก 2562

tha

DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Grad-Di-2562-8608873.pdf	277.42 MB	5	2025-10-16 15:19:05

ใช้เวลา

0.034137 วินาที