การศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับแหล่งของเสียงในการเข้าโค้งของรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนบนโค้งกลมที่มีค่าความโค้งน้อยและบังใบไม่สัมผัสกับราง

An initial study on a source of curving noise of a mass rapid transit train on a small curvature circular track with non-flange curving

Name: ณัฐภัทร คุณค้ำชู

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์. วศ.ม. (วิศวกรรมเครื่องกล) 2563.

Classification :.LCCS: TF258

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. -- สาขาวิศวกรรมเครื่องกล -- วิทยานิพนธ์

ThaSH: รางรถไฟ

ThaSH: รถไฟฟ้า

ThaSH: การสั่นสะเทือน

Abstract: งานวิจัยนี้เริ่มมาจากปัญหาเรื่องเสียงที่เกิดขึ้นในขณะที่รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนเดินรถระหว่างสถานีปุณณวิถีและอุดมสุข ในวันที่มีอากาศร้อนและแห้ง จากการทดลองวัดระดับเสียงที่เกิดขึ้นจากภายในตัวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน พบว่ามีความถี่เสียงเกิดขึ้นในช่วง 700-800 Hz ซึ่งสอดคล้องกับเสียงที่เกิดขึ้นเมื่อรางเกิดคอร์รูเกชัน แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของล้อรถไฟที่วิ่งผ่านรางที่เกิดคอร์รูเกชันสามารถแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างค่าพลังงานความเสียดทานและปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเกิดเสียง ได้แก่ สัมประสิทธิ์ความเสียดทานระหว่างล้อและราง อัตราส่วนระหว่างแรงขับเคลื่อน และแอมพลิจูดของคอร์รูเกชันที่เกิดขึ้นบนผิวราง จากการสำรวจรางในสถานที่จริง พบว่าเกิดคอร์รูเกชันบนผิวรางจริง โดยขนาดแอมพลิจูดของคอร์รูเกชันบนรางด้านนอกโค้งมีขนาดระหว่าง 0.00083-0.00187 มม. และรางด้านในโค้งมีขนาด 0.0033-0.032 มม. ในขณะที่มีความยาวคลื่นของคอร์รูเกชันบนรางด้านนอกโค้งระหว่าง 2.8-3.1 มม. และรางด้านในโค้งมีขนาด 3.6-3.9 มม. การลดความดังและโอกาสของการเกิดเสียงรบกวนที่ส่งผลกระทบต่อการเดินรถและการบำรุงทางที่น้อยที่สุดคือการลดแอมพลิจูดของคอร์รูเกชัน โดยการลดช่วงเวลาระหว่างการเจียร์รางลง เช่น การเจียร์รางทุก ๆ 3 เดือนในเส้นทางที่พบปัญหา จะทำให้ระดับเสียงที่เกิดขึ้นลดลงเมื่อเทียบกับการเจียร์รางทุก ๆ 6 เดือน โดยกำหนดให้ความลึกในการเจียร์รางมีค่าเพียงครึ่งหนึ่งของความลึกในการเจียร์รางปกติ ซึ่งจะทำให้อายุการใช้งานของรางยังคงเดิม แต่สามารถลดระดับความดังของเสียงที่เกิดขึ้นได้ This research originated from a noise problem of a mass rapid transit train which operated between Punnawithi and Udomsuk stations on any hot and dry day. A measurement identified the noise frequency of 700 to 800 Hz which corresponded to a case of rail corrugation. A mathematical model of a wheel running over a corrugated rail indicated relations between friction energy and important factors related to noise generation which were coefficient of friction between wheel and rail, traction ratio, and corrugation amplitude on the rail head. A survey on the site revealed that there were corrugation on multiple locations on the rail whereas the corrugation amplitudes on the higher and lower rails are 0.00083 to 0.00187 mm and 0.0033- 0.032 mm respectively while the corrugation wavelengths on the higher and lower rails were 2.8-3.1 mm and 3.6-3.9 mm respectively. The most appropriate solution with regards to the operation and maintenance of way is proposed as the reduction of corrugation amplitude which can be performed by reducing a period between rail surface milling service. For instance, a rail surface milling service performed every 3 months may reduce a noise level from rail corrugation in comparison to the present noise level resulted from a regular rail milling interval of 6 months while a milling depth can be reduced by half to maintain a useful life of rail.

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. สำนักหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: tdckulib@ku.ac.th

Name: วิชัย ศิวะโกศิษฐ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก

Created: 2563

Modified: 2568-07-09

Issued: 2568-07-09

วิทยานิพนธ์/Thesis

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

URL: https://www.lib.ku.ac.th/KUthesis/2563/nutthapat-koo-all.pdf

CallNumber: TF258 .ณ113

tha

DegreeName: วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: วิศวกรรมเครื่องกล

Grantor: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

©copyrights มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	nutthapat-koo-all.pdf	11.94 MB

ใช้เวลา

-0.970063 วินาที