ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3

Innovative Leadership in the 5.0 Era of School Administrators Affecting The Effectiveness of Teachers’ Performances in Schools under Sakon Nakhon Primary Educational Service Area Office 3

Name: ศศิประภา ฤาไกรศรี

Address: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร

keyword: ภาวะผู้นำ

Classification :.DDC: วจ 372.1201 ศ18ภ

; ผู้บริหารสถานศึกษา

; ประสิทธิผลการปฏิบัติงานของครู

Abstract: การศึกษาวิจัยในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา เปรียบเทียบหาความสัมพันธ์ หาอำนาจพยากรณ์ของภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 และหาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 327 คน จำแนกเป็นผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 92 คน และครูผู้สอนจำนวน 235 คน กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างตามตารางของ Krejcie and Morgan และใช้การวิธีสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi – Stage Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แบบสอบถามภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหารสถานศึกษา มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .993 และค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .673 - .967 แบบสอบถามประสิทธิผลการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียน มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .971 และค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .697 - .920 และแบบสัมภาษณ์แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบ t - test การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแต่ละขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า 1. ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหารสถานศึกษาและประสิทธิผลการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก 2. ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหารสถานศึกษา และประสิทธิผลการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง ขนาดโรงเรียน และลักษณะการเปิดสอน โดยรวมไม่แตกต่างกัน 3. ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหารสถานศึกษามีความ สัมพันธ์ทางบวกกับประสิทธิผลการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียน โดยรวมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยภาพรวมมีความสัมพันธ์อยู่ในระดับสูงมาก (rxy =0.976) 4. ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหารสถานศึกษา มีจำนวน 4 ด้าน ที่สามารถพยากรณ์ประสิทธิผลการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียน ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ได้แก่ ด้านการมีวิสัยทัศน์เชิงนวัตกรรมเน้นการเรียนรู้ ตลอดชีวิตสู่การเปลี่ยนแปลง (X1) ด้านการมีความคิดเชิงนวัตกรรมอย่างสร้างสรรค์ในการบริหารสถานศึกษา (X2) ด้านการทำงานเป็นทีมเพื่อการพัฒนาการศึกษาอย่างยั่งยืน (X3) และด้านการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้เสมือนจริงที่เชื่อมโยงกับการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด (X4) และตัวแปรภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหารสถานศึกษาทั้ง 4 ด้านนี้สามารถร่วมกันพยากรณ์ประสิทธิผลการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียนได้ร้อยละ 95.40 มีความคลาดเคลื่อนมาตรฐานของการพยากรณ์ เท่ากับ ± .13216 5. แนวทางในการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหารสถานศึกษา ด้านการมีวิสัยทัศน์เชิงนวัตกรรมเน้นการเรียนรู้ตลอดชีวิตสู่การเปลี่ยนแปลง ผู้บริหารต้องมีวิสัยทัศน์เชิงนวัตกรรมที่ใหม่ ทันสมัย และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องด้านการมีความคิดเชิงนวัตกรรมอย่างสร้างสรรค์ในการบริหารสถานศึกษา ผู้บริหารมีเทคนิค วิธีการ กระตุ้นส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ด้านการทำงานเป็นทีมเพื่อการพัฒนาการศึกษาอย่างยั่งยืน ผู้บริหารต้องมีเครือข่ายทางการศึกษา ทำงานเป็นทีม มีเป้าหมายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ด้านการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้เสมือนจริงที่เชื่อมโยงกับการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด ผู้บริหารกำหนดเป้าหมาย ส่งเสริมการมีส่วนร่วมทุกฝ่าย นำนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้ในการทำงานที่เป็นบรรยากาศแห่งการเรียนรู้สถานที่จริงและเสมือนจริง

Abstract: The research aimed to examine, compare, find relationships, and find predictive power of innovative leadership in the 5.0 era of school administrators that affect the performance of teachers in schools under the Office of the Sakon Nakhon Primary Educational Service Area 3 and find ways to develop innovative leadership in the 5.0 era of school administrators. The sample group used in the research was school administrators and teachers under the Office of the Sakon Nakhon Primary Educational Service Area 3 in the academic year 2024, totaling 327 people, divided into 92 school administrators and 235 teachers. The sample size was determined according to the table of Krejcie and Morgan and the multi-stage sampling method was used. The data collection tools consisted of the Innovative Leadership in the 5.0 Era Questionnaire of School Administrators, with a reliability of .993 and a discrimination power between .673 and .967, and the Teacher Performance Questionnaire in Schools. The reliability value is .971 and the discrimination power is between .697 - .920. The interview form on the development of innovative leadership in the 5.0 era of school administrators that affects the effectiveness of teachers in schools. The statistics used in data analysis include frequency, percentage, mean and standard deviation, t-test, one-way analysis of variance, Pearson's simple correlation coefficient analysis and each step of multiple regression analysis. The findings revealed that: 1. Innovative leadership in the 5.0 era of school administrators and the effectiveness of teachers in schools are overall at a high level. 2. Innovative leadership in the 5.0 era of school administrators and the effectiveness of teachers in schools classified by job position, school size and teaching style are not different overall. 3. Innovative leadership in the 5.0 era of school administrators is positively related to the effectiveness of teachers in schools. Overall, there was a statistical significance at the .01 level. Overall, there was a very high level of relationship (rxy = 0.976). 4. Innovative leadership in the 5.0 era of school administrators, there were 4 aspects that could predict the effectiveness of teachers in schools with statistical significance at the .01 level, namely, having an innovative vision that emphasizes lifelong learning for change (X1), having creative innovative thinking in school administration (X2), working as a team for sustainable educational development (X3), and creating a virtual learning atmosphere linked to the use of smart technology innovation (X4). And the 4 aspects of innovative leadership in the 5.0 era of school administrators can jointly predict the effectiveness of teachers in schools at 95.40 percent, with a standard error of prediction equal to ± .13216. 5. Guidelines for developing innovative leadership in the 5.0 era of school administrators In terms of having an innovative vision that emphasizes lifelong learning for change, administrators must have a new, modern innovative vision and continuously develop themselves. In terms of having creative innovative thinking in school administration Executives have techniques, methods, and incentives to create new creative and innovative ideas in terms of teamwork for sustainable educational development. Executives must have educational networks, work as a team, and have the same goals in creating a virtual learning atmosphere that is linked to the use of smart technology innovations. Executives set goals, promote participation from all parties, and apply modern technology innovations to work in a learning atmosphere that is both real and virtual.

มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: สกลนคร

Email: library@snru.ac.th

Name: วัฒนา สุวรรณไตรย์

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Name: ภัทรดร จั้นวันดี

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Created: 2568

Modified: 2568-05-28

Issued: 2568-05-28

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วจ 372.1201 ศ18ภ

tha

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: การบริหารการศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	66421229228_fulltext.pdf	12.85 MB	309	2025-10-25 22:26:01

ใช้เวลา

0.021208 วินาที