Contact Form Inside and outside the organization Affecting the effectiveness of the operational staff Faculty of Industrial Technology Surindra Rajabhat University)
Abstract:
การวิจัยเรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากร คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1)ศึกษารูปแบบการสื่อสารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลในการทำงานของบุคลากร คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ 2) เพื่อศึกษาหาความสัมพันธ์และระดับการส่งผลระหว่างรูปแบบการสื่อสารกับประสิทธิผลในการทำงานของบุคลากร คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณที่ได้จากการ จากแบบสอบถาม จำนวน 75 คน นำมาวิเคราะห์การวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่น (Reliability) 0.956 โดยการหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา ( - Coefficient) ค่าความถี่ (Mean) ค่าร้อยละ (Percentage) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการติดต่อสื่อสารภายในและ ภายนอกองค์กร และประสิทธิผลในหารทำงาน ระดับการส่งผลของปัจจัยด้านการสื่อสารภายใน และภายนอกองค์กร และ ระดับการติดต่อสื่อสารภายในและภายนอกองค์กรที่ส่งผลต่อประสิทธิผลในการทำงาน ของบุคลากร คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
ผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบการติต่อสื่อสารภายในองค์กรของบุคลากร ระดับความคิดเห็นของบุคลากรเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารภายในองค์กร ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลในการทำงาน ได้แก่ ด้านการติดต่อสื่อสารแนวนอน , ด้านการติดต่อสื่อสารจากล่างขึ้นบน , และด้านการติดต่อสื่อสารจากบนลงล่าง อยู่ในระดับมาก 2) ปัจจัยด้านการสื่อสารภายนอกองค์กร ระดับความคิดเห็นของพนักงานเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารภายนอกองค์กร ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลในการทำงาน อยู่ในระดับเห็นด้วยมาก ได้แก่ ด้านผู้ส่งสาร , ด้านผู้รับสาร , ด้านสาร , และด้านช่องทาง) อยู่ในระดับมาก
การทดสอบสมมุติฐาน
สมมุติฐานข้อที่ 1 การติดต่อสื่อสารภายในองค์กรและการติดต่อสื่อสารภายนอกองค์กรมีความสัมพันธ์กัน ผลการวิจัยพบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านการสื่อสารภายในปละภายนอกองค์กร ของบุคลากรคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม กับ ประสิทธิผลการทำงานของบุคลากร คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ มีความสัมพันธ์กันในทางบวกส่วน ปัจจัยด้านบุคคลของบุคลากรมีความสัมพันธ์ทางบวกกับประสิทธิผลในการทำงานของบุคลากรในระดับสูง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
สมมุติฐานข้อที่ 2 การติดต่อสื่อสารภายในองค์กรและการติดต่อสื่อสารภายนอกองค์กรส่งผลต่อประสิทธิผลในการทำงานของบุคลกร ผลการวิจัยพบว่า พบว่า การติดต่อสื่อสารภายในองค์กรด้านการติดต่อสื่อสารจากล่างขึ้นบน และด้านผู้ส่งสาร มีผลต่อประสิทธิผลในการทำงานของพนักงานระดับปฏิบัติการ ส่วนการติดต่อสื่อสารภายในองค์กร ด้านการติดต่อสื่อสารจากบนลงล่าง และการติดต่อสื่อสารแนวนอนรวมทั้งการติดต่อสื่อสารภายนอกองค์กรด้านช่องทาง ด้านสาร และด้านผู้ส่งสาร ไม่มีผลต่อประสิทธิผลในการทำงานของบุคลากร คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
The objective of this research is to study of internal and external communications pattern affecting work efficiency of operational employees in
Bangkok metropolitan area. Questionnaire is a tool to gather data and verify the
reliability with Cronbach's alphatoward 40 operational employees with the reliability
of 0.951. The sample was 400 operational employees in Bangkok metropolitan area.
The statistics used were descriptive and inferential statistics. 1) It found that level of
opinion toward internal communication within organization to organizational
efficiency was highest level at the rate of 4.00 and standard deviation at the rate of
0.39. Additionally, top-down communication gained high level of agreement while
down-top communication and horizontal communication gained agreeably rate of
4.05, 3.99 and 3.97cwhile standard deviation at the rate of 0.48, 0.49 and 0.54
respectively. 2) It also found that external communication consist of high agreement
in opinion at the rate of 3.99 while standard deviation at the rate of 0.39. To be
more specific, external communication that gained highest agreeable rate was source
of information and the receiver that gained average rate equally at 4.04, 4.03 and
3.85 while standard deviation at the rate of 0.44, 0.55, 0.52 and 0.66 respectively
Keyword : Internal Communication and External Communication, Work Efficiency,
Operational Employees