The social innovation of cross-border health services system

นวัตกรรมทางสังคมของระบบบริการสุขภาพข้ามแดน

Name: Kessarawadee Khonhan

LCSH: Emigration and immigration -- Health aspects

LCSH: Health services accessibility

Abstract: This study aimed to 1) find out the social innovation of the cross-border health service system and 2) synthesize the process, result, and factor or condition related to the process and result of the social innovation in the cross-border area of Mae-Sod - Miawwadee and Khlongyai - Koh Kong through the qualitative study approach. The data collection was conducted via the documents, participatory observation, focus-group, and indepth interview, respectively. The main informants were from the government sector, private sector, and private development organization sector. The content analysis was carried out for the data analysis. It was revealed that in both areas, there were social innovations that were in compliance with this study's criteria. Ten case studies were found with the epidemic disease and the caring burden acts as a catalyst for the emergence of the social innovation. The principal innovation process comprised 4 dimensions: (1) formation process, (2) implementing process, (3) learning process, and (4) adjustment process, respectively. The crucial point was the awareness of a problem of those stakeholders in the cross-border areas which led to perception formation, problem solution seeking, thinking to do new things, and implementing. This happened due to the supporting factors or conditions for the social innovation which were especially the workers' human and knowledge capitals, as well as the social and network capitals in the cross-border areas such as the positive attitude towards the neighboring countries, leadership, literate, and experienced workers in the cross-border areas who have inspiration and creative thinking, and had established good relationship between the two border areas. The social innovation's principal principles are trust, cross-border collaboration formation, and the common goal in helping humans without any discrimination. The results relied in 2 levels: 1) the problem can be solved such as the reduction of disease and illness problems in the areas and 2) can change the social relationship in the areas such as crossborder collaboration should take place, a new working model must be formed, and learning to live together have to be derived among themselves. The adjustment and maintenance of the social innovation was divided into three characteristics 1) it is in extinction, 2) it is still sustained but fragile and challenges the change, and 3) it is still sustained with further development and expansion, respectively. It is recommended from the study, that the eco-system should be set to help promote the social innovation process, the learning in the social innovation process, and the adjustment, the maintenance, and the social innovation's result expansion should be nurtured.

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษานวัตกรรมทางสังคมของระบบบริการสุขภาพข้ามแดน สังเคราะห์กระบวนการ ผล และปัจจัยเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการและผลของนวัตกรรมทางสังคม ฯ ในพื้นที่ชายแดนแม่สอด-เมียวดี และคลองใหญ่-เกาะกง ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร การสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม การสนทนากลุ่มย่อยและการสัมภาษณ์เชิงลึก มีผู้ให้ข้อมูลสำคัญจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรพัฒนเอกชน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า ทั้ง 2 พื้นที่ มีนวัตกรรมทางสังคม ฯ ที่เป็นไปตามเกณฑ์การวิจัยครั้งนี้ จำนวน 10 กรณีศึกษา โดยมีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคระบาด ภาระการรักษาพยาบาล เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมทางสังคม ฯ กระบวนการหลักทางนวัตกรรมทางสังคมมี 4 ด้าน คือ (1) กระบวนการก่อเกิด (2) กระบวนการปฏิบัติ (3) กระบวนการเรียนรู้ และ (4) กระบวนการปรับตัว โดยหัวใจสำคัญคือการตระหนักรู้ในปัญหาของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ชายแดนจนนำไปสู่การสร้างการรับรู้ การหาทางออกร่วมกัน การคิดทำสิ่งใหม่ ๆ และการนำความคิดไปสู่การปฏิบัติ ปัจจัย เงื่อนไขที่สนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมทางสังคมที่สำคัญคือต้นทุนมนุษย์และ ต้นทุนความรู้ของคนทำงาน ต้นทุนทางสังคมและต้นทุนเครือข่ายที่อยู่ในพื้นที่ชายแดน อาทิ ทัศนะเชิงบวกต่อประเทศเพื่อนบ้าน ภาวะผู้นำ ทีมงานที่มีความรู้และประสบการณ์ทำงานในพื้นที่ชายแดน มีแรงจูงใจไฝ่สัมฤทธิ์ การคิดนอกกรอบ และสัมพันธภาพที่ดีระหว่าง 2 พื้นที่ชายแดน หลักการสำคัญในกระบวนการนวัตกรรมทางสังคม ฯ คือ ความเชื่อใจ การสร้างความร่วมมือข้ามแดน และมีเป้าหมายร่วมในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ โดยก้าวข้ามความแตกต่างของชาติพันธุ์และเส้นเขตแดน ผลที่เกิดขึ้นมี 2 ระดับ คือ (1) สามารถแก้ปัญหาได้ เช่น ลดป่วยลดโรคที่เป็นปัญหาในพื้นที่ และ (2) สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ได้ เช่น เกิดความร่วมมือ ข้ามแดน เกิดรูปแบบการทำงานใหม่ เกิดการเรียนรู้เพื่ออยู่ร่วมกัน เป็นต้น การปรับตัวและดำรงอยู่ของนวัตกรรมทางสังคม ฯ แบ่งเป็น 3 ลักษณะคือ (1) สูญสลายไปแล้ว (2) ดำรงอยู่แต่มีความเปราะบางและท้าทายต่อการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง (3) ดำรงอยู่ มีการพัฒนาต่อยอดและขยายผลการวิจัยครั้งนี้ มีข้อเสนอแนะให้มีการจัดระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อกระบวนการนวัตกรรมทางสังคมการฟูมฟักนวัตกรรมทางสังคม การเรียนรู้ การปรับตัว การดำรงอยู่และการขยายผลของนวัตกรรมทางสังคม

Mahidol University. Mahidol University Library and Knowledge Center

Address: NAKHONPATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Nawarat Phlainoi

Role: Thesis Advisors

Name: Luechai Sri-Ngernyuang

Role: Thesis Advisors

Name: Patamawadee Pochanukul

Role: Thesis Advisors

Created: 2019

Modified: 2025-04-18

Issued: 2025-04-18

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

eng

DegreeName: Doctor of Philosophy

Level: Doctoral Degree

Descipline: Population Education

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	5636285.pdf	3.12 MB	2	2025-08-29 22:45:06

ใช้เวลา

0.238752 วินาที