แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ตามหลักทุติยปาปณิกสูตรของผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏ กลุ่มภาคเหนือตอนล่าง

Name: ธีรพจน์ แนบเนียน

keyword: การพัฒนาภาวะผู้นำ

; ทุติยปาปณิกสูตร

; ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา

; ภาวะผูู้นำเชิงกลยุทธ์

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏ กลุ่มภาคเหนือตอนล่าง 2) เพื่อเปรียบเทียบภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏ กลุ่มภาคเหนือตอนล่าง ตามสภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม และ 3) เพื่อหาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ตามหลักทุติยปาปณิกสูตรของผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏ กลุ่มภาคเหนือตอนล่าง ระยะที่ 1 การวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย ผู้บริหาร จำนวน 43 คน และอาจารย์ จำนวน 254 คน รวมทั้งสิ้น 297 คน เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( x̅ ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าทีและการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ระยะที่ 2 การวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 9 รูป/คน เครื่องมือเป็นแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏ กลุ่มภาคเหนือตอนล่าง ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( x̅= 4.31, S.D. = 0.16) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีระดับสูงสุด คือ ด้านการคิดและวางแผนเชิงกลยุทธ์ ( x̅ = 4.64, S.D. = 0.21) รองลงมา คือ ด้านการกำหนดทิศทาง (x̅= 4.52, S.D. = 0.25) และด้านที่มีระดับต่ำสุด คือ ด้านการพัฒนาผู้นำในปัจจุบันและในอนาคต (x̅ = 4.05, S.D. = 0.40) 2) ผลการเปรียบเทียบภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏ กลุ่มภาคเหนือตอนล่าง จำแนกตามเพศ และตำแหน่ง พบว่า ในภาพรวมไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้ และจำแนกตามประสบการณ์การทำงาน พบว่า ในภาพรวมแตกต่างกัน จึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ 3) แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ตามหลักทุติยปาปณิกสูตรของผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏ กลุ่มภาคเหนือตอนล่าง ผลจากการสังเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ พบว่า 3.1) จักขุมา ประกอบด้วย ผู้บริหารกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าหมาย กำหนดกลยุทธ์และเส้นทางการบริหารที่ชัดเจนเพื่อนำไปสู่การเป็นองค์กรการศึกษาแห่งอนาคต ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม มีการสื่อสารและถ่ายทอดแผนเชิงกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ 3.2) วิธูโร ประกอบด้วย ผู้บริหารมีความมุ่งมั่นในการแสวงหาความรู้ มีสมรรถนะดิจิทัล สนับสนุนเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการบริหาร สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3.3) นิสสยสัมปันโน ประกอบด้วย ผู้บริหารต้องมีมนุษยสัมพันธ์ สามารถทำให้ทุกส่วนงานทำงานร่วมกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร ส่งเสริมให้บุคลากรมีความรักและศรัทธาในการเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัย ส่งเสริมให้บุคลากรมีการพัฒนาความรู้ ความสามารถและความก้าวหน้าในวิชาชีพ

Abstract: The objectives of this research are as follows: 1) to study the state of strategic leadership development of administrators of Rajabhat University in the Lower Northern Region 2) to compare the state of strategic leadership development of administrators of Rajabhat University in the Lower Northern Region according to the general condition of the respondents and 3) to fine the guidelines for strategic leadership development in accordance with the Dutiyapāpaṇika Sutta of administrators of Rajabhat University in the Lower Northern Region. Phase 1 is quantitative research, the sample group consisting of 43 administrators and 254 teachers, totaling 297 people. The instrument used in this research was a questionnaire. Data were analyzed using statistics such as frequency, percentage, mean (x̅), standard deviation (SD), t-test (Independent) and One-way ANOVA . Phase 2 is qualitative research, with 9 key informants/person. The instrument was a semi-structured interview and the data was analyzed by content analysis. The results showed that: 1) the state of strategic leadership development of administrators of Rajabhat University in the Lower Northern Region as a whole was at a high level (x̅= 4.31, SD = 0.16). The aspect with the highest level was strategic thinking and planning (x̅= 4.64, SD = 0.21), followed by direction (x̅= 4.52, SD = 0.25) and the lowest was the current and future leadership development (x̅= 4.05, SD = 0.40) when considered on a case-by-case basis. 2) The results of the comparison of strategic leadership development of administrators of Rajabhat University in the Lower Northern Region classified by gender and position as a whole were not different, thus rejecting the research hypothesis and classified by work experience found that the overall is different, thus accepting the research hypothesis set. 3) The guidelines for strategic leadership development in accordance with the Dutiyapāpaṇika Sutta of administrators of Rajabhat University in the Lower Northern Region. The results of the synthesis of data from the interview revealed that; 3.1) Cakkhumā consist of executives setting vision, mission and goals, administrators should define clear strategies and administrative paths to lead them to become the educational organization of the future and realize social change, as well as communicate and transfer strategic plans into action. 3.2) Vidhūro consist of, administrators are committed to the pursuit of knowledge and digital competence, support technology and management innovation, able to apply technology to drive the organization effectively. 3.3) Nissayasampanno consists of administrators should have human relations and be able to make all departments work together to achieve the goals of the organization, encourage personnel to have love and faith in being a university personnel. Administrators should encourage personnel to develop knowledge and competence and advancement in the profession.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ส่วนหอสมุดกลาง

Address: พระนครศรีอยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: อานนท์ เมธีวรฉัตร

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: วินัย ทองมั่น

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2564

Modified: 2567-07-28

Issued: 2567-07-28

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: พุทธบริหารการศึกษา

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	ธีรพจน์ แนบเนียน.pdf	4.14 MB	36	2025-10-15 21:01:31

ใช้เวลา

0.021316 วินาที