Abstract:
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาผลของกากมันสำปะหลังผสมน้ำกากผงชูรส (CPMSGB) เป็นแหล่งวัตถุดิบโปรตีนในอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้องต่อกระบวนการหมักและนิเวศวิทยาในกระเพาะรูเมนโดยวางแผนการทดลองแบบ 2x2 แฟคทอเรียล ในการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ ปัจจัยแรก คือแหล่งโปรตีนแบ่งเป็น 2 ระดับ ได้แก่ น้ำกากผงชูรส (MSGB) และ ยูเรีย ปัจจัยที่สอง คือลักษณะทางกายภาพของอาหารแบ่งเป็น 2 ระดับ ได้แก่ แบบไม่อัดเม็ด และแบบอัดเม็ด ทำการศึกษาโดยเทคนิค In vitro gas production โดยมีจำนวน 5 ซ้ำ ทำการบันึกปริมาณแก๊สสะสมตั้งแต่ชั่วโมงที่ 0 ถึง 72 และทำการเก็บตัวอย่างเพื่อศึกษาความสามารถในการย่อยได้ ความเข้มข้นแอมโมเนียไนโตรเจน ปริมาณกรดไขมันระเหยได้ง่าย และจำนวนประชากรจุลินทรีย์ ผลการทดลองพบว่า CPMSGB แบบไม่อัดเม็ด มีค่าความเข้มข้นของแอมโมเนียไนโตรเจนมากที่สุด (P<0.01) โดยพบว่าแหล่งโปรตีน และลักษณะทางกายภาพของอาหารมีอิทธิพลต่อค่าความเข้มข้นของกรดไขมันระเหยง่ายรวม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิต (P<0.05) อิทธิพลของยูเรียมีผลทำให้ค่าความเข้มข้นของกรดไขมันระเหยง่ายมากกว่าน้ำกากผงชูรสในขณะที่อาหารอัดเม็ดมีค่าความเข้มข้นของกรดไขมันระเหยง่ายมากกว่า (P<0.05) อาหารไม่อัดเม็ด นอกจากนี้การวิเคราะห์เชิงปริมาณของประชากรจุลินทรีย์ในกระเพาะรูเมนโดยเทคนิค Real time PCR พบว่าปฎิสัมพันธ์ระหว่างแหล่งโปรตีน (น้ำกากผงชูรส และยูเรีย) และลักษณะทางกายภาพของอาหาร(อาหารไม่อัดเม็ด และอาหารแบบอัดเม็ด) มีอิทธิพลต่อประชากร Ruminococcus albus อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.01) โดยพบว่า CPMSGB แบบอัดเม็ดมีค่าประชากร Ruminococcus albus สูงที่สุด (P<0.01) นอกจากนี้ พบว่าน้ำกากผงชูรสมีอิทธิพลต่อประชากร Prevotella bryantii มากกว่าการเสริมด้วยยูเรียอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) จากการศึกษาในครั้งนี้สรุปได้ว่าการใช้กากมันสำปะหลังผสมร่วมกับน้ำกากผงชูรส และใช้ในรูปแบบอัดเม็ดสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ไนโตรเจนได้สูงขึ้น และมีผลต่อการเพิ่มจำนวนประชากร Ruminococcus albus สูงที่สุด นอกจากนี้พบว่าการใช้น้ำกากผงชูรสส่งผลให้ประชากรแบคทีเรีย Prevotella bryantii มากกว่าการเสริมยูเรีย
The objective of this study was to study the effect of cassava pulp mix with monosodium glutamate by-product (CPMSGB) as protein source in ruminant diet on rumen fermentation and rumen ecology. This experiment was arrangement to 2 x 2 factorial in completely randomized design. First factor is protein type which are monosodium glutamate by-product and urea. Secondary factor is physical characteristic of feed which are powder and pellet form. The experiment is using in vitro gas production technique with 3 replicates. Cumulative gas was recorded 0 to 72 hours post inoculated. The sample was collected to analyze for digestibility, ammonia nitrogen concentration, volatile fatty acid concentration and rumen microorganism population. It was found that protein type and physical characteristic had affected on volatile fatty acid concentration (P<0.05). The effect of urea more effect on volatile fatty acid concentration than monosodium glutamate by-product, while pellet form could significantly increase volatile fatty acid concentration (P<0.05). Moreover, the study of rumen microorganism population by using Real-time PCR was found the interaction of protein type and physical form had significantly (P<0.01) effect on the population of Ruminococcus albus. CPMSGB with pellet form could increase R. albus population. Moreover, monosodium glutamate by-product has significantly higher effect on Prevotella bryantii than urea. Base on this study, it could be concluded that CPMSGM with pellet could increase rumen nitrogen utilization and increase the highest R. albus population, moreover, using monosodium glutamate by-product could increase Prevotella bryantii than using urea