แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

สภาพความต้องการจำเป็นและแนวทางพัฒนาสถานศึกษาสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบึงกาฬ
SITUATIONS, NEEDS AND GUIDELINES FOR THE DEVELOPMENT OF SCHOOLSTO LEARNING ORGANIZATIONS UNDER BUENGKAN SECONDARYEDUCATIONAL SERVICE AREA OFFICE

Address: หลักสูตรปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา
Organization : มหาวิทยาลัยนครพนม
keyword: สภาพปัจจุบัน
ThaSH: สถานศึกษาสู่การเป็นองคก์รแห่งการเรียนรู้
Classification :.DDC: 658.4038
; สภาพที่พึงประสงค์
; ความต้องการจำเป็น
; แนวทางพัฒนา
Abstract: องค์กรแห่งการเรียนรู้เป็นการพัฒนาสถานศึกษารูปแบบหนึ่งโดยการเพิ่มขีดความสามารถ ของบุคลากรผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน สู่ความเป็นเลิศ ขององคก์รการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ(1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ ของสถานศึกษาสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้(2) ประเมินความต้องการจำเป็นของสถานศึกษา สู่การเป็นองคก์รแห่งการเรียนรู้และ (3) พัฒนาแนวทางพัฒนาสถานศึกษาสู่การเป็นองค์กร แห่งการเรียนรู้สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามธัยมศึกษาบึงกาฬกลุ่มตัวอย่างได้แก่ผู้บริหาร และครู ปี การศึกษา 2565รวมจำนวน 294คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้เกณฑ์ร้อยละ ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่ายเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มีจำนวน 4 ฉบับ คือ (1) แบบสอบถาม สภาพปัจจุบันของสถานศึกษาสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้มีค่าดัชนีความสอดคล้องเชิงเนื้อหา รายข้อระหว่าง .80-1.00 มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อระหว่าง .41-.76 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ .94 (2)แบบสอบถามสภาพที่พึงประสงค์ของสถานศึกษาสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้มีค่าดัชนี ความสอดคล้องเชิงเนื้อหารายข้อระหว่าง .80-1.00 มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อระหว่าง .31-.88 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งัฉบับ เท่ากับ .90 (3)แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง มีค่าดัชนีความสอดคล้อง เชิงเนื้อหารายข้อระหว่าง 0.60-1.00 (4) แบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทาง พัฒนาสถานศึกษาสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้มีค่าดัชนีความสอดคล้องเชิงเนื้อหารายข้อระหว่าง 0.60-1.00 สถิติที่ใช้ได้แก่ร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและดัชนีการจัดลำดับความสำคัญ ของความต้องการจำเป็นแบบปรับปรุง (PNI Modified) ผลการวิจัย พบว่า (1) สภาพปัจุจบันของสถานศึกษาสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยรวมอยู่ในระดับ มาก สภาพที่พึงประสงค์ของสถานศึกษาสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด (2) ด้านที่มีค่าสูงกว่า ค่าโดยรวม จำนวน 2 ด้าน ได้แก่ ด้านมีแบบแผน ความคิด และด้านการคิดอย่างเป็นระบบ (3)แนวทางสถานศึกษาสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ 1) ด้านบุคคลมีความรอบรู้เป็นเลิศผู้บริหารและครูต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ พัฒนางานบรรลุเป้าหมาย 2) ด้านมีแบบแผนความคิดผู้บริหารและครูเรียนรู้รับฟังความคิดเห็น ของบุคลากรเพื่อปรับกรอบความคิดปรับความเข้าใจในการทำงานร่วมกัน 3) ด้านการมีวิสัยทัศน์ ร่วมกัน ผู้บริหารและครูประชุมหารือร่วมกัน ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาและสร้างทัศนคติที่ดีร่วมกัน ในการทำงานพัฒนาองค์กรไปในทิศทางเดียวกัน 4) ด้านการเรียนรู้ร่วมกัน เป็นทีม ผู้บริหารและครู ปรึกษาหารือรับฟังความคิดเห็นของบุคลากรปรับปรุงการทำงานจากประสบการณ์ที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาองค์กรไปได้อย่างต่อเนื่อง สนับสนุนการทำงานเป็นทีม 5) ด้านการคิดอย่างเป็นระบบ ผู้บริหารและครูมีกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ ปรึกษาหารือกัน ในองค์กรอาศัยปัจจัยกระบวนการ และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาองค์กรร่วมกันควรวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้น หลังจากการพัฒนาสถานศึกษาสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ควรแก้ไขปัญหาและหาแนวทาง พัฒนาสถานศึกษาสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้คร้ังต่อไป
Abstract: Learning organization was a form school development by enhancing the capabilities of personnel through the creation of new innovations efficiently and sustainably to the excellence of the organization. The objectives of this research were (1) to examine the current situations and the desirable situations of schools to learning organizations, (2) to assess the needs of schools to learning organizations, and (3) to develop the guidelines for the development of schools to learning organizations under Bueng KanSecondary Educational Service Area Office. The samples consisted of 331 school administrators and teachers in the academic year 2022 followed the percent criterion in the sample size specification, and they were selected by Stratified Random Sampling. There were 4 instruments used in this research: (1) a questionnaire on the current situations of schools to learning organizations with the index of Item Congruence (IC) between .80-1.00, the discrimination between .41-.76, and the reliability of .94; (2) a questionnaire on the desirable situations of schools to learning organizations with the index of Item Congruence (IC) between .80-1.00, the discrimination between .31-.88, and the reliability of .90; (3) a structured interview form with the index of Item Congruence (IC) between .60-1.00; and (4) a suitability and possibility assessment form of the guidelines for the development of schools to learning organizations with the index of Item Congruence (IC) between .06-1.00. The statistics employed were percentage, mean, standard deviation, and the index modified Priority Needs Index (PNIModified). The results revealed the (1) the overall current situations and the desirable situations of schools to learning organizations were at the high level the highest level respectively. (2) There were 2 aspects revealed higher than the overall value, namely mental model and systematic thinking. (3) The guidelines for the development of schools to learning organizations: 1) personnel mastery, school administrators and teachers must constantly develop themselves, keep learning, acquire new knowledge, and improve their works to achieve goals; 2) mental model, school administrators and teachers should learn and listen to the opinions of personnel to adjust the mindset and improve understanding of working together; 3) shared vision, school administrators and teachers should discuss and set goals for developing and establishing a positive attitude in the work together. 4) team learning, school administrators and teachers should consult and listen to the opinions of personnel on improving work from past experiences to develop the organizations continuously and support teamwork; 5) systematic thinking, school administrators and teachers should have a systematic consultative thinking process in the organization, and depend on the process factors and results to determine their own development direction, and the problems should be solved and guided to schools into learning organization next time.5) systematic thinking, school administrators and teachers should have a systematic thinking process and consult each other within the organization by relying on factors, processes and results to find ways to develop the organization together. They should analyze the problems that arise after the development of schools to learning organizations. In addition, they should solve the problem and find a way to develop schools to learning organizations afterwards.
มหาวิทยาลัยนครพนม. สำนักวิทยบริการ
Address: นครพนม
Email: netprommin2518@npu.ac.th
Role: อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก
Role: อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม
Created: 2565
Modified: 2567-03-29
Issued: 2567-03-29
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
tha
Spatial: มหาวิทยาลัยนครพนม จังหวัดนครพนม
©copyrights มหาวิทยาลัยนครพนม
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 tiltel11.pdf 4.4 MB156 2025-12-07 15:28:27
ใช้เวลา
0.026718 วินาที

รองศาสตราจารย์ดร.ทัศนา ประสานตรี
Title Creator Type and Date Create
สภาพความต้องการจำเป็นและแนวทางพัฒนาสถานศึกษาสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบึงกาฬ
มหาวิทยาลัยนครพนม
รองศาสตราจารย์ดร.ทัศนา ประสานตรี;ผูู้่้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุมาลีศรี พุทธรินทร์
สิทธิโชค ปุณริบูรณ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
ผูู้่้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุมาลีศรี พุทธรินทร์
Title Creator Type and Date Create
สภาพความต้องการจำเป็นและแนวทางพัฒนาสถานศึกษาสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบึงกาฬ
มหาวิทยาลัยนครพนม
รองศาสตราจารย์ดร.ทัศนา ประสานตรี;ผูู้่้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุมาลีศรี พุทธรินทร์
สิทธิโชค ปุณริบูรณ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 12
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 8,708
รวม 8,720 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 437,033 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 923 ครั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ = 763 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล = 120 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเอกชน = 49 ครั้ง
สถาบันพระบรมราชชนก = 21 ครั้ง
หน่วยงานอื่น = 12 ครั้ง
มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ = 7 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสงฆ์ = 1 ครั้ง
รวม 438,929 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.134
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.104