การศึกษาแรงจูงใจภายในในการขับเคลื่อนตนเองเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานให้มีประสิทธิภาพของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

The study of intrinsic motivation in driving the KMUTNB's supporting staff to improve their work efficiency

Name: มาลี จำรัส

Organization : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. สำนักงานอธิการบดี

Email : malee.c@op.kmutnb.ac.th

ThaSH: การจูงใจในการทำงาน

Classification :.LCCS: HF5549.5.M63

ThaSH: แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์

ThaSH: การพัฒนาตนเอง

ThaSH: ลูกจ้าง -- ทัศนคติ

ThaSH: ลูกจ้าง -- การประเมินศักยภาพตนเอง

ThaSH: แรงจูงใจภายใน

Abstract: การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแรงจูงใจภายในในการขับเคลื่อนตนเอง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ที่จำแนกตามข้อมูลส่วนบุคคล เพศ สถานภาพ อายุรายได้ต่อเดือน ระดับการศึกษา และประสบการณ์ทำงาน 2) ศึกษาสภาพปัญหาและอุปสรรค ในการทำงานของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการ ที่จำแนกตามข้อมูลส่วนบุคคล เพศ สถานภาพ อายุ รายได้ต่อเดือน ระดับการศึกษา และประสบการณ์ทำงาน โดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นบุคลากร สายสนับสนุนวิชาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จำนวน 311 คน โดยใช้แบบสอบถามในรูปแบบออนไลน์ ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีสถานภาพ ส่วนใหญ่โสด อายุ 25-30 ปี รายได้ต่อเดือน จำนวน 25,001 – 30,000 บาท ระดับการศึกษา ปริญญาตรีตำแหน่ง พนักงานมหาวิทยาลัย ระดับตำแหน่ง ระดับปฏิบัติการ ประสบการณ์ทำงาน 5 ปี ถึง 10 ปีคณะ/ส่วนงาน สำนักงานอธิการบดี โดยแรงจูงใจภายในในการขับเคลื่อนตนเองเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานให้มีประสิทธิภาพของบุคลากร สายสนับสนุนวิชาการ ในภาพรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก สภาพปัญหาและอุปสรรคในการทำงานของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการ ในภาพรวมทุกด้าน อยู่ในระดับมาก การเปรียบเทียบความแตกต่างของแรงจูงใจภายในการขับเคลื่อนตนเอง ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ ด้านความก้าวหน้าและมั่นคงในงาน ด้านการพัฒนาตนเอง และ ด้านการรักษาดุลยภาพระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว จำแนกตามเพศ สถานภาพ อายุ รายได้ต่อเดือน ระดับการศึกษา และประสบการณ์ทำงาน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 การเปรียบเทียบความแตกต่างของสภาพปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านสถานที่ในการปฏิบัติงานและการส่งเสริมสุขภาพ ด้านลักษณะงานในความรับผิดชอบด้านหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงานในงาน จำแนกตาม เพศ สถานภาพ อายุ รายได้ต่อเดือน ระดับการศึกษา และประสบการณ์ทำงาน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Abstract: This research has the purposes as follows: 1) T study the internal motivation in driving the self-improvement which will increase the work efficiency based on the different categories of personal information, such as gender, status, age, monthly salary, education level and working experiences. 2) To study the problems and obstacles faced in workplace by academic staff and supporting staff based on the different categories of personal information, such as gender, status, age, monthly salary, education level and working experiences. The samples were the 311 supporting staff of King Mongkut’s University of Technology North Bangkok, and the online questionnaire was employed. The analysis of data was based on the percentage, mean, standard deviation. The research outcomes indicate that the majority of sample group who complete a questionnaire is female and single with the average age of 25 – 30 years old. Their monthly salary is 25,001 – 30,000 THB and education level is bachelor's degree. Their statuses are university staff in practitioner level with the working experiences of 5 - 10 years in faculties or Office of the President. It was found that the overall score of the supporting staff’s internal motivation in driving the self-improvement which will increase the work efficiency was at the high level. Also, the overall score of supporting staff’s problems and obstacles faced in workplace was at the high level. The comparison of differences of internal motivation in 4 categories, including the remuneration and welfare, working security and progress opportunities, the self-improvement, and the balance between working life and private life, based on the different categories of personal information, such as gender, status, age, monthly salary, education level and working experiences, indicates the significant difference at 0.5, while the comparison of differences in problems and obstacles in three categories, such as the working environment and health promotion, the characteristics of working responsibility, the supervisors and colleges in workplace, based on the different categories of personal information, such as gender, status, age, monthly salary, education level and working experiences, indicates the significant difference at 0.5

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@kmutnb.ac.th

Name: งานวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนจากทุนอุดหนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพการทำงานวิจัย ของสายสนับสนุนวิชาการ ประจำปี 2566.

Role: ผู้ให้ทุน

Created: 2566

Modified: 2567-03-21

Issued: 2567-03-21

งานวิจัย/Research report

application/pdf

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	B17638227.pdf	2.1 MB	11	2025-12-24 22:16:39

ใช้เวลา

0.027896 วินาที