สมบัติคววามล้าของท่อเหล็กกล้าติดครีบ ASME SA-192 ที่ผ่านกระบวนการเชื่อมความต้านทานความถี่สูง

Name: มนตรี แสงสุริยันต์

Address: สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน

Organization : คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า

keyword: พารามิเตอร์การเชื่่อม

; สมบัติเชิงกล

; การเชื่อมความต้านทานความถี่สูง

; ท่อติดครีบ

; Welding parameters

; mechanical property

; high frequency resistance welding

; finned-tubes

Abstract: งานวิจัยนี้ วิเคราะห์ค่าความร้อนสู่แนวเชื่อมของเหล็กกล้าติดครีบ ASME SA-192 และหาค่าพารามิเตอร์ที่เหมาะสมสําหรับการเชื่อมความต้านทานความถี่สูงแนวเชื่อมแบบ T- Joint โดยวิธีการทดลองแบบส่วนประสมกลาง (Central composite design : CCD) หาค่าปัจจัยที่เหมาะสมในการเชื่อม ได้แก่กระแส 13 กิโลโวลต์ แรงดันไฟฟ้า 9 แอมป์ ความถี่ 250 รอบต่อนาที ผลการทดสอบชิ้นงานที่มีค่าความร้อนสู่แนวเชื่อมระหว่าง 200 ถึง 290 จูล/มิลลิเมตรพบว่าอิทธิพลของความร้อนส่งผลต่อโครงสร้างจุลภาค ชิ้นงานไม่มีการหลอมละลาย ค่าความแข็งชิ้นงานที่ได้รับความร้อนสูงทําให้ค่าความ แข็งของพื้นผิวชิ้นงานสูงขึ้น บริเวณกระทบร้อนมีบริเวณแคบ ผลการทดสอบแรงดึงและทดสอบความล้าพบว่าเมื่อชิ้นงานรับแรงมากระทําซํ้า ๆ เพียงเล็กน้อยจะเสียหายทันที ซึ่งไม่ผ่านมาตรฐานสมาคมผู้ผลิตท่อติดครีบ (Ultimate Tensile Strength: UTS) เพราะว่ามีการฉีกขาดระหว่างครีบและท่อ ส่วนอีกกลุ่มชิ้นงานที่มีค่าความร้อนสู่แนวเชื่อม 350 ถึง 540 จูล/มิลลิเมตรพบว่าอิทธิพลของความร้อนส่งผลต่อโครงสร้างจุลภาค มีการหลอมละลายที่สมบูรณ์ระหว่างครีบและท่อ เกรนมีความละเอียด รอยเชื่อมมีความกว้างและเป็นบริเวณที่ได้รับความร้อนมากที่สุดทําให้ค่าความเค้นแรงดึงสูงขึ้นด้วย ค่าความแข็งของผิวชิ้นงานสูง แต่บริเวณพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทางความร้อนมีค่าความแข็งลดลง ทุกชิ้นงานผ่านมาตรฐาน UTS นอกจากนี้ผลการวิจัยพบว่าความแข็งแรงของชิ้นงานต้องพิจารณาค่าความเค้นแรงดึงควบคู่กับค่าความล้า อีกทั้งงานวิจัยนี้ ยังเสนอค่าพารามิเตอร์ที่เหมาะสมกบผลกระทบที้เกิดจากความ ร้อนของชิ้นงานทําให้ทราบถึงการหลอมละลายมีความกว้างและมีการซึมลึกที่เหมาะสม

Abstract: This thesis was to analyze the welding heat input of ASME SA-192 finned tube steel and optimization of parameters for High Frequency Resistance Welding (HFRW), T joints welding. The Central Composite Design (CCD) analyzes the determination of optimum factors for welding: current 13 kVolt, voltage 9 Amp, and frequency 250 rpm. The first specimen group assigned the heat to the weld from 200 to 290 J/mm revealed that the influence of heat on the microstructure. The specimens have no melting. The hardness of the specimens has been heated up, resulting in a higher surface hardness value. The hot affected area has a narrow area. The tensile and fatigue test results showed that when the specimen was subjected to a slight repetitive load then the specimens are damaged immediately. This does not pass Ultimate Tensile Strength (UTS) standard because there is a tear between the fin and the tube. In another group, the heat to the weld 350 to 540 J/mm was found that the influence of heat on the microstructure. There is a complete melting between the fin and the tube. The Grain resolution. The width of the weld, where this area is most heated, also increases the tensile stress. High surface hardness value but the area that has been affected with heat has decreased hardness. All specimens pass UTS standard. Besides, the research found that the strength of the specimens must be considered the tensile stress along with the fatigue value. Moreover, this research proposes parameters suitable for the effect of the heat of the workpiece to determine the optimum melting width and weld depth

Patumwan Institute of Technology. Library

Address: BANGKOK

Email: somsuay12@hotmail.com

Name: ประยูร สุรินทร์

Name: กฤตธี เอียดเหตุ

Created: 2563

Modified: 2567-02-23

Issued: 2567-02-23

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: วิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง

©copyrights สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	มนตรี.pdf	10 MB	1	2025-04-10 15:27:26

ใช้เวลา

0.032372 วินาที