ผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคทีจีทีร่วมกับแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษาที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

The Effect of Cooperative Learning Management with TGT Technique and Education Application on Learning Achievement and Attitude Towards Learning in the Mathematics Subject of Mathayomsuksa 4 Students

Name: พรรณิภา อนันทสุข

ThaSH: การเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคทีจีที

ThaSH: เจตคติต่อการเรียน

ThaSH: ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ThaSH: แอปพลิเคชันเพื่อการศึกษา

Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคทีจีทีร่วมกับแอปพลิเคชัน เพื่อการศึกษา 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับ การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคทีจีทีร่วมกับแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษากับเกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม และ 3) ศึกษาเจตคติต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคทีจีทีร่วมกับแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนสตรีอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง จำนวน 41 คนที่ได้มาจากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคทีจีทีร่วมกับแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษาจำนวน 6 แผน ที่มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด (x̅ = 4.91,S.D. = 0.21) 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่มีความตรงเชิงเนื้อหาระหว่าง 0.67 - 1.00 ค่าความยากระหว่าง 0.53 - 0.80 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.25 - 0.85 ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.77 และ 3) แบบวัดเจตคติต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ที่มีค่าความตรงเชิงเนื้อหาระหว่าง 0. 67 - 1.00 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.58 - 0.82 และ ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.94 การวิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าทีกรณีกลุ่มตัวอย่างไม่เป็นอิสระต่อกัน และการทดสอบค่าทีกรณีกลุ่มเดียว ผลการวิจัยพบว่า 1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคทีจีที ร่วมกับแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษามีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 15.02 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 1.51 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 22.29 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.70 เมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนพบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคทีจีที ร่วมกับแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษามีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 22.29 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 2.70 เมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ70 ของคะแนนเต็ม พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ70 ของคะแนนเต็มอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคทีจีที ร่วมกับแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษามีเจตคติต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์อยู่ในระดับมาก (x̅ = 4.34, S.D. = 0.70)

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: นครสวรรค์

Email: library@nsru.ac.th

Name: พรรณราย เทียมทัน

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Created: 2565

Modified: 2566-12-27

Issued: 2566-12-27

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: หลักสูตรและการสอน

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Pannipa Ananthasuk.pdf	6.25 MB	38	2025-10-20 18:51:13

ใช้เวลา

0.018223 วินาที