การพัฒนารูปแบบการบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในยุคดิจิทัล

The development of a business risk management model for the automotive parts industry in the digital era

Name: จินตนา โชควรวัฒนกร

keyword: การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ

ThaSH: อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ -- การบริหารความเสี่ยง

Abstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับการบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในยุคดิจิทัล 2) พัฒนารูปแบบการบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในยุคดิจิทัล และ 3) สร้างคู่มือการบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในยุคดิจิทัล โดยใช้วิธีวิจัยแบบผสมผสานเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ ข้อมูลเชิงคุณภาพได้จากการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ทำงานในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ จำนวน 9 คน และข้อมูลเชิงปริมาณที่ได้จากการตอบแบบสอบถามของกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 287 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเชิงคุณภาพ ประกอบด้วยแบบสัมภาษณ์เชิงลึกและการประชุมสนทนากลุ่มประชาพิเคราะห์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเชิงปริมาณ ได้แก่ แบบสอบถามเป็นแบบมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีวิเคราะห์เชิงเนื้อหาและการวิเคราะห์ทางสถิติ โดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ ผลการวิจัย พบว่า รูปแบบการบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในยุคดิจิทัล ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบหลัก 18 องค์ประกอบย่อย ดังนี้ องค์ประกอบหลักที่ 1 ด้านโครงสร้างการดำเนินงาน ประกอบด้วย 1) กำหนดโครงสร้างองค์กรที่สนับสนุนการบริหารความเสี่ยง 2) คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงและคณะกรรมการบริหารความต่อเนื่องเป็นชุดเดียวกันและมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ 3) กำหนดหน่วยงานเจ้าของความเสี่ยงในงานที่รับผิดชอบ องค์ประกอบหลักที่ 2 ด้านการกำกับดูแลกิจการ ประกอบด้วย 1) การปฏิบัติที่สอดคล้องกับข้อกำหนด 2) การตรวจสอบและควบคุมภายใน และ 3) การบูรณาการการบริหารความเสี่ยงเข้ากับการดำเนินธุรกิจ องค์ประกอบหลักที่ 3 ด้านวัฒนธรรมองค์กร ประกอบด้วย 1) วัฒนธรรมที่พึงประสงค์ 2) การสนับสนุนจากผู้บริหาร และ 3) การจัดการความรู้และความสามารถของบุคลากร องค์ประกอบหลักที่ 4 ด้านการบริหารความเสี่ยง ประกอบด้วย 1) กลยุทธ์และการกำหนดวัตถุประสงค์ 2) การระบุและประเมินความเสี่ยง และ 3) การตอบสนองความเสี่ยง องค์ประกอบหลักที่ 5 ด้านการบริหารความต่อเนื่อง ประกอบด้วย 1) การจัดทำแผนและซักซ้อมแผน 2) การจัดเตรียมทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับภาวะวิกฤตและใช้ฟื้นฟู และ 3) การควบคุมและเฝ้าระวัง องค์ประกอบหลักที่ 6 ด้านระบบสารสนเทศและการสื่อสาร ประกอบด้วย 1) ระบบสารสนเทศและความปลอดภัยของข้อมูล 2) การสื่อสารด้านความเสี่ยง และ 3) การประเมินผลและการรายงาน รูปแบบและคู่มือได้รับการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมสนทนากลุ่มประชาพิเคราะห์ว่ามีความเหมาะสมในการนำไปประยุกต์ใช้งาน

Abstract: The purposes of this research were: 1) to study the components of business risk management for the automotive parts industry in the digital era, 2) to develop a model of business risk management for the automotive parts industry in the digital era, and 3) to construct a guideline manual for application to the automotive parts industry in the digital era. The research was a mixed method of qualitative and quantitative approaches through an in-depth interview with nine business experts and field specialists in the automotive parts industry and 287 questionnaires from the research sampling group. The research tools for the qualitative study were an in-depth interview and a focus group, while the research tool for the quantitative study was the 5-scaled questionnaire. The data analysis uses content analysis and statistics for means, standard deviation, and exploratory factor analysis. The results revealed that the development of a business risk management model for the automotive parts industry in the digital era comprised six key components; and 18 sub-elements: the first key component was the operating structure consisting of 1) establishment of an organization structure supporting risk management, 2) same committee of risk management and continuity management with representatives from relevant departments, and 3) assignment of risk ownership in job responsible areas, the second key component was governance consisting of 1) compliance practice, 2) internal audit and control, and 3) embed risk management into the business operation, the third key component was organizational culture consisted of 1) desired culture, 2) top management support, and 3) knowledge management and personnel capability, the fourth key component was risk management consisting of 1) strategies and objectives setting, 2) risk identification and assessment, and 3) risk response, the fifth key component was continuity management consisted of 1) planning and rehearsal, 2) resources preparation for crisis and recovery, and 3) control and surveillance, and the sixth key component was information system, and communication consisted of 1) information system and data security, 2) communication of risk information, and 3) evaluation and reporting. The experts approved the model and the manual with consensus agreement for appropriateness in an application.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@kmutnb.ac.th

Name: สุชาติ เซี่ยงฉิน

Role: ที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Email : suchart.s.pe@tggs-bangkok.org

Name: ธีรวุฒิ บุณยโสภณ

Role: ที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Email : vhd@kmutnb.ac.th

Name: สมนึก วิสุทธิแพทย์

Role: ที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Email : noekwisu@kmutnb.ac.th

Created: 2564

Modified: 2566-10-12

Issued: 2566-10-12

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: การพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมและทรัพยากรมนุษย์

Grantor: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	B17615203.pdf	10.44 MB	50	2025-08-15 21:30:40

ใช้เวลา

0.019778 วินาที