ผลของการใช้บีตา-ไซโคลเด็กซ์ทรินและขั้นตอนการทำบริสุทธิ์ต่อการลดปริมาณคอเลสเตอรอลในน้ำมันปลาทูน่า

Effect of B-cyclodextrin and regining process on cholesteral removal from tuna oil

Name: เบญจพร ตั้งวิชัย

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์. วท.ม. (ผลิตภัณฑ์ประมง) 2560.

Classification :.LCCS: SH336.5.T85

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. -- สาขาผลิตภัณฑ์ประมง -- วิทยานิพนธ์

ThaSH: น้ำมันปลาทูน่า

ThaSH: ไซโคลเดกซตริน

ThaSH: ผลิตภัณฑ์ประมง

Abstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาขั้นตอนการทำบริสุทธ์และสภาวะที่เหมาะสมของการใช้ บีตา-ไซโคลเด็กซ์ทรินต่อการลดปริมาณคอเลสเตอรอลในน้ำมันปลาทูน่า รวมถึงการประยุกต์ใช้ บีตา-ไซโคลเด็กซท์รินในขั้นตอนการทำ บริสุทธิ์นํ้ามันปลาทูน่า ผลการศึกษาการทำบริสุทธิ์น้ำมัน ปลาทูน่าซึ่งประกอบด้วย ขั้นตอนการทำให้เป็นกลางด้วยด่าง การแยกส่วนไขมัน การฟอกสี และ การกำจัดกลิ่น สามารถลดคอเลสเตอรอลจากน้ำมันดิบได้ร้อยละ 80.9 โดยขั้นตอนการฟอกสีมีประสิทธิภาพในการลดได้สูงที่สุด การหาสภาวะที่เหมาะสมของการใช้บีตา-ไซโคลเด็กซ์ทรินในการ ลดคอเลสเตอรอลในน้ำมันปลาทูน่ากึ่งบริสุทธิ์มีปริมาณคอเลสเตอรอลตั้งต้น 1,180.1 มิลลิกรัมต่อน้ำมัน 100 กรัม โดยปัจจัยที่ทำการศึกษามี 5 ปัจจัย คือปริมาณของบีตา-ไซโคลเด็กซ์ทริน 12, 16, 20, 24 และ 28 กรัมต่อน้ำมัน 100 กรัม อุณหภูมิในการกวนผสม 40, 50, 60, 70 และ80 องศา-เซลเซียส ระยะเวลาในการกวนผสม 5, 10, 20 และ 30 นาทีอัตราส่วนระหว่างน้ำมันต่อน้ำ 1 :1, 1 :2,1 :3 และ1 :4 และความเร็วในการกวนผสม 100, 200, 400 และ 600 รอบต่อนาที่พบว่าสภาวะที่ เหมาะสม คือผสมบีตา-ไซโคลเด็กซ์ทริน 20 กรัม ในน้ำ 200 มิลลิลิตร ก่อนกวนผสมกับน้ำมันปลาทูน่า 100 กรัม ที่ความเร็ว 400 รอบต่อนาทีอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาทีสามารถ ลดปริมาณคอเลสเตอรอลร้อยละ 89 และได้ผลผลิตของน้ำมันร้อยละ 67.3 โดยน้ำมันมีคุณภาพด้าน สีที่ดีขึ้น มีค่าความเป็นกรดลดลงและไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของกรดไขมัน โดยเฉพาะกลุ่มโอเมกา 3 ได้แก่ Eicosapentaenoic acid (EPA) และDocosahexaenoic acid (DHA) แต่จะมีการเพิ่มขึ้นของค่าเพอร์ออกไซด์และค่าพาราแอนนิซิดีนเล็กน้อย การประยุกต์ใช้บีตา-ไซโคลเด็กซ์ทรินร่วมในขั้นตอนการทำ บริสุทธิ์นํ้ามันปลาทูน่าควรใช้หลังการแยกสบู่ออกจากขั้นตอน การทำให้เป็นกลางด้วยด่างโดยใช้บีตา-ไซโคลเด็กซ์ทรินผสมกับน้ำแทนการล้างสบู่ที่ตกค้างในน้ำมัน ด้วยน้ำร้อน สามารถกำจัดสบู่ที่ตกค้างออกได้ทั้งหมด และสามารถลดปริมาณคอเลสเตอรอลใน น้ำมันกึ่งบริสุทธิ์ได้ร้อยิละ 79.2 จากการศึกษาพบว่าการใช้บีตา-ไซโคลเด็กซ์ทรินมีศักยภาพในการ ขยายสู่การนำไปใช้ในระดับอุตสาหกรรมเนื่องจากไม่มีความซับซ้อนโดยปรับเปลี่ยนขั้นตอนการผลิต จากเดิมเพียงเล็กน้อย The aims of this study were to investigate the refining process and the optimum conditions of β-cyclodextrin on cholesterol removal from tuna oil and also to apply β-cyclodextrin in the tuna oil refining step. The results showed that effects of refining process consisting of neutralization, winterization, bleaching and deodorization can reduce the cholesterol from crude oil by 80.9 percent. The bleaching process is the most effective in reducing cholesterol. The optimization of using β-cyclodextrin for cholesterol reduction in semi-purified tuna oil initial cholesterol content of 1,180.1 milligrams per 100 grams of oil. The 5 factors studied were amount of β-cyclodextrin (12, 16, 20, 24 and 28 grams per 100 grams of oil), stirring temperature (40, 50, 60, 70 and 80 ํ C), mixing time (5, 10, 20 and 30 minutes), the oil to water ratio (1:1, 1:2, 1:3 and 1:4) and stirring speed (100, 200, 400 and 600 rpm). The optimum condition were to mix β-cyclodextrin 20 grams in 200 milliliter of water before stirring with tuna oil 100 grams at a speed of 400 rpm, temperature 60 ํ C for 30 minutes reduced cholesterol content by 89 percent and yielded 67.3 percent. The oil had better color quality and acid value was reduced but did not have any effect on fatty acids composition especially omega-3 fatty acid, eicosapentaenoic acid (EPA) and docosahexaenoic acid (DHA). There were slightly increasing in peroxide value and p-anisidine value. The application of β-cyclodextrin in the refining step of tuna oil should be used after the separation of the soap from the alkaline neutralization step by mixing β-cyclodextrin with water instead of hot water washing can remove all remaining soap and reduce cholesterol in semi-refine oil by 79.2 percent. The study has the potential for extending the use of β-cyclodextrin at the industry level due to not complicate and slightly change original production process.

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. สำนักหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: tdckulib@ku.ac.th

Name: วันชัย วรวัฒนเมธีกุล

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก

Name: จุฑา มุกดาสนิท

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม

Name: จีรภา หินซุย

Created: 2560

Modified: 2566-06-08

Issued: 2566-06-08

วิทยานิพนธ์/Thesis

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

URL: https://kasetsart.idm.oclc.org/login?url=https://www.lib.ku.ac.th/KUthesis/2560/benchaporn-tan-all.pdf

CallNumber: SH336.5.T85.บ53

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: ผลิตภัณฑ์ประมง

Grantor: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

©copyrights มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	benchaporn-tan-all.pdf	4.56 MB

ใช้เวลา

0.032774 วินาที