Abstract:
การประเมินความพึงพอใจหลังการใช้งาน (Post Occupancy Evaluation) สวนสาธารณะที่มีการจัดพื้นที่สำหรับกิจกรรมทางสมาธิ กรณีศึกษาสวนวนธรรม กรุงเทพฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินความพึงพอใจหลังการใช้บริการของผู้ใช้สวนวนธรรมซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่มีพื้นที่ สำหรับกิจกรรมทางสมาธิอยู่ร่วมกัน 2 ) เสนอแนวทางในการพัฒนาปรับปรุง และ3) เพื่อใช้ผลการศึกษาเป็นแนวทางในการออกแบบสวนสาธารณะที่มีการจัดพื้นที่สำหรับกิจกรรมทางสมาธิอยู่ร่วมกันในที่อื่น ๆ มีวิธีวิจัยดังนื้ 1) ข้อมูลด้านวัตถุประสงค์และแนวทางในการออกแบบสวนฯ เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ผู้ออกแบบวิเคราะห์ผลเชิงพรรณนา 2) ศึกษาข้อมูลด้านกายภาพและการใช้งานของสวนฯ เก็บข้อมูลโดยสำรวจถ่ายภาพ และจัดบันทึก วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา และ 3) ศึกษาความพึงพอใจหลังการใช้งานของผู้ใช้บริการสวนฯ เก็บข้อมูลจากแบบสอบถามการวิเคราะห์ข้อมูลโดยค่าเฉลี่ยร้อยละในการทดสอบสมมติฐานแบ่งกลุ่มผู้ใช้บริการออกเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มผู้ใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกบืพื้นที่สำหรับกิจกรรมทางสมาธิ และ กลุ่มผู้ใช้พื้นที่ส่วนกลางเพียงอยางเดียวมีประเด็นที่ศึกษารวม 40 ประเด็นย่อย ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้สวนฯ พบว่า 1) ความพึงพอใจระดับมากสุด 1 ประเด็น คิดเป็น 2.5% 2) ความพึงพอใจระดับมาก 13 ประเด็น คิดเป็น 32.5% 3) ความพึงพอใจระดับปานกลาง 18 ประเด็น คิดเป็น 45% และ 4) ความพึงพอใจระดับน้อย 8 ประเด็น คิดเป็น 20% มีแนวทางในการปรับปรุงสวนฯ ดังนี้ 1) เพิ่มปริมาณป้ายบอกทาง 2) เพิ่มความสวางบริเวณทางเดินและบริเวณภายในส่วนฯ 3) ซ่อมแซมห้องน้ำให้ใช้งานได้ตลอดเวลา 4) เพิ่มความหลากหลายด้านพรรณไม้และเพิ่มร่มเงาภายในสวนฯ 5) เพิ่มกิจกรรมการออกกำลังกายที่ไม่รบกวนกิจกรรมอื่น 6) หมั่นดูแลตรวจการในพื้นที่ที่เป็น มุมอับหรือเพิ่มพื้นที่กิจกรรมบริเวณนั้นเพื่อให้เกิดความปลอดภัย 7) เพิ่มป้ายบรรยายเกี่ยวกับความหมายของงานออกแบบในแต่ละจุด และ 8) เพิ่มจุดตรวจหรือป้อมยามของเจ้าหน้าที่บริเวณจุดเปลี่ยวแนวทางในการออกแบบสวนสาธารณะที่รองรับกิจกรรมที่คล้ายคลึงกันมีดังนี้ 1) แบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วนชัดเจนระหว่างพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมทางสมาธิกับพื้นที่ส่วนกลางเพื่อป้องกันการรบกวนกัน 2) มีอาคารถาวรและที่พักค้างสำหรับรองรับกิจกรรมทางสมาธิ และ 3) เก็บข้อมูลการนับถือศาสนาของประชากรในพื้นที่ก่อน
Post occupancy evaluation of parks that provided meditation areas: a case study of Wanadharm Park, Bangkok aimed to 1) evaluate post occupancy satisfaction of users, 2) propose suggestions for Park improvement and 3) propose guidelines for other parks that also provide meditation areas. Research methods were 1) Interview the park designer for objective and design techniques of the park. Data were analyzed descriptively. 2) Survey the site and obscene users activities for physical and park utilization data. Data were analyzed descriptively. 3) Distribute questionnaires to users for satisfaction data. Data were analyzed statistically. The research divided population into 2 groups: 1) those who used the park area as well as the meditation area and 2) those who used only the park area. The results showed that from 40 sub-criteria, users were most satisfied 2.5%, satisfied 32.5%, moderately satisfied 45%, and least satisfied 20%. Suggestion for park improvement are 1) add more signage 2) add more lighting along walkways and some areas 3) repair restrooms 4) add variety of Tree and shade 5) add more active activities that do not disturb other activities 6) patrol hidden areas or add activities to the unsafe areas 7) add signage to describe the meaning of design in each part and 8) add more patrol stations. Design guidelines for parks that have the same activities are 1) clear separation of meditation area and activity area 2) provision of buildings/accommodation for meditation activities and 3) data collection on the religion of the population around the park.