การประยุกต์พรหมวิหาร 4 เพื่อการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

Name: พระไพฑูรย์ เมธิโก (มหาบุญ)

Organization : ผู้วิจัย

keyword: พรหมวิหาร 4

; บุคลากรเทศบาล

Abstract: การศึกษาวิจัยเรื่อง การประยุกต์พรหมวิหาร 4 เพื่อการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาการประยุกต์พรหมวิหาร 4 เพื่อการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม (2) เพื่อเปรียบเทียบการประยุกต์พรหมวิหาร 4 เพื่อการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล (3) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการประยุกต์พรหมวิหาร 4 เพื่อการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ดำเนินการวิจัยโดยวิธีวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) โดยรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างบุคลากรที่ปฏิบัติงานในเทศบาลตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม จำนวน 242 คน โดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม (Questionnaire) ลักษณะของแบบสอบถามเป็นทั้งปลายเปิด และปลายปิด วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้โดยหาค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation : S.D.) ทดสอบสมมติฐานโดย การทดสอบค่าที (t-test) และค่าเอฟ (F-test) หรือวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) สำหรับตัวแปรที่มี 3 ค่าขึ้นไป เมื่อพบว่ามีความแตกต่างจะทำการเปรียบเทียบความแตกต่างหลายคู่ โดยวิธีหาผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด(Least Significant Difference : LSD) ผลการวิจัยพบว่า 1. ความคิดเห็นของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในเทศบาลตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ที่มีต่อการประยุกต์พรหมวิหาร 4 เพื่อการปฏิบัติงานของบุคลากร พบว่า การประยุกต์พรหมวิหาร ๔ เพื่อการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลตำบลอ้อมใหญ่อำเภอ สามพราน จังหวัดนครปฐม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( x̄ = 4.28) 2. ผลการเปรียบเทียบการประยุกต์พรหมวิหาร 4 เพื่อการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลตำบลอ้อมใหญ่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ทดสอบสมมติฐานโดยการวิเคราะห์ความแตกต่างตัวแปร พบว่า เพศ อายุ ระดับการศึกษา ตำแหน่งและรายได้ต่อเดือน มีผลให้ความคิดเห็นของบุคลากรที่มีต่อการประยุกต์พรหมวิหาร 4 เพื่อการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ไม่แตกต่างกัน จึงเป็นการปฏิเสธสมมติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้ แต่ตัวแปรทางด้านอายุงานนั้น แตกต่างกัน ซึ่งเป็นการยอมรับสมมติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้ 3. ข้อเสนอแนะแนวทางในการประยุกต์พรหมวิหาร 4 เพื่อการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ด้านเมตตา พบว่า ควรจัดลำดับความสำคัญของงานและควรทำงานที่เร่งด่วนก่อน, ควรใช้หลักเหตุผลและใช้หลักฐานทางข้อมูลเป็นสำคัญ, จัดให้มีการช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความสมัครใจ, ต้องจัดให้มีการอบรมธรรมะให้บุคลากร, ผู้บังคับบัญชาต้องสอนบุคลากรให้ปฏิบัติงานด้วยความจริงใจ, ด้านกรุณา พบว่า ควรช่วยเหลือกันในการทำงาน, ปรึกษาหารือเมื่อพบปัญหา, ควรมีการส่งเสริมความสามัคคีด้วยการแข่งกีฬา, ควรช่วยเหลือผู้อื่นแม้ว่าจะไม่ใช่งานของเราก็ตามถ้าเราทำได้, ควรจัดให้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมความสามัคคีกับองค์กร, ด้านมุทิตา พบว่า แสดงความยินดีชมเชยให้กำลังใจเมื่อปฏิบัติงานดีขึ้นหรือประสบความสำเร็จ, องค์กรต้องมีความเด็ดขาดไม่กลัวกับปัญหาจากบุคคลที่ไม่ทำงาน, จัดให้มีการอบรมธรรมะ, จัดให้มีการแข่งขันกีฬาแบบทีมโดยจัดบุคลากรที่มีปัญหากันให้อยู่ทีมเดียวกัน, องค์กรต้องมีกฎเกณฑ์การเลื่อนตำแหน่งให้แน่นอนไม่เลื่อนโดยตามอำเภอใจ, ด้านอุเบกขา พบว่า ควรให้ความยุติธรรมกับผู้ปฏิบัติงานทุกคนเท่าเทียมกัน, ต้องทำตัวเป็นกลาง ไม่เข้าข้างคนของตนเอง, ไม่เข้าข้างคนผิด ผิดว่าไปตามกฎ, จัดให้มีการแข่งขันกีฬาภายในองค์กร, ลงโทษผู้กระทำความผิดตามวินัย

Abstract: The main objectives of this thesis “An Application of The Four Brahmavihara To the working Officers of Omyai Municipality Sampran District, Nakhonpathom Province” are (1) to study an application of The Four Brahmavihara to the working officers of Omyahi Municipality Sampran District, Nakhonpathom Province, (2) to compare an application of The Four Brahmavihara to the working officers of Omyai Municipality Sampran District, Nakhonpathom Province classified by individual factors, and (3) to study problems, obstacles and suggestions relating an application of The Four Brahmavihara to the working of officers of Omyai Municipality Sampran District, Nakhonpathom Province. This study is a survey research. Two hundred and fourty-two officers working in Omyai Municipality Sampran District, Nakhonpathom Province were selected for data collection by cluster sampling technique. The research instruments was opened and closed questionnaire. The collected data were analyzed by statistical tools such as frequency, percentage, mean, standard deviation. Hypotheses were tested with t-test for two-valued variables and F-test or One-Way ANOVA for more than 3 valued variables. In case of differentiation being found, it was compared by Least Significant Difference (LSD). The results of research are found that ; 1. The overall opinions of personnel towards an application of The Four Brahmavihara to the working were found at the high level ( = 4.28). 2. With regard to the results of comparison of an application of The Four Brahmavihara to the duty performance of the personnel in Tambon Omyai Municipality was hypothesis tested by analyzing different variables, it is found that gender, age, education level, position and income per month had no significant difference even at .05 level, it was, therefore, rejected the set hypotheses. while different years of working is noticed significant difference at .05 level, which is accepted the hypothesis. 3. Some suggestions for an application of The Four Brahmavihara for working to the officers of Omyai Municipality Sampran District, Nakhonpathom Province ; the aspect of Metta is (loving – kindness) found that they should work orderly, do the urgent work, should have reasons and more information, should support the others with helpfulness, should have Dhamma teaching, the chief should sequest the staff to work sincerely. The aspect of Karuna (Compassion) is found that they should help one another, have discussion of work, should promote the harmony with sports, should help the others do their work, should provide activities for co-operation among the organization. The aspect of Mudita (Sympathetic joy) is found that the personnel should be admired with good work and be congratulated with the success, should have strict rule with the ones who do not work, provide them a course of Dhamma, provide the activities for ones who have problems, should have a promotion fairly and correctly. The aspect of Upekkha (Equanimity) is found that it should be fair and equal with staffs, should be neutral not bias, should punish the ones who do wrong.

Mahachulalongkornrajavidyalaya University. Center Library

Address: AYUTTHAYA

Email: library@mcu.ac.th

Name: เติมศักดิ์ ทองอินทร์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: โกนิฏฐ์ ศรีทอง

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2554

Modified: 2566-05-26

Issued: 2566-05-26

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: พุทธศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	พระไพฑูรย์ เมธิโก (มหาบุญ).pdf	2.86 MB	2	2024-08-19 07:06:29

ใช้เวลา

0.02386 วินาที