แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
สุทิน สนองผัน. วิถีเศรษฐกิจและสังคมชุมชนชาวกะหร่างในเขตชายแดนไทยและพม่า ระหว่าง ปี พ.ศ. 2539 - 2546. (). มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ.. : , 2547.
วิถีเศรษฐกิจและสังคมชุมชนชาวกะหร่างในเขตชายแดนไทยและพม่า ระหว่าง ปี พ.ศ. 2539 - 2546
Economics and Socials Change in Community of the Karang in Thailand and Burma Frontier Durin 1996 - 2003
Name: สุทิน สนองผัน
Organization :
มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
Email :
sutin@mail.mcru.ac.th
ThaSH:
มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
-- วิจัย.
Classification :.DDC: 305.895
Abstract:
การศึกษาบริบททางการเมือง สังคมและเศรษฐกิจในชุมชนชาวกะหร่างใน ระหว่างปี พ.ศ. 2531-2546 นั้น พบประเด็นสำคัญที่พึงนำไปสู่การ กำหนดนโยบาย การกำหนดยุทธศาสตร์ การนำความเข้าใจ การสร้างองค์ ความรู้ การกำหนดขอบเขตและความหมายของปัญหาของกลุ่มคนในพื้นที่ ชายแดนไทยและพม่า โดยควรกำหนดนโยบายให้ประชาชนในพื้นที่ได้มี ส่วนร่วมในการแก้ปัญหากับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรพัฒนาเอกชน ต่างๆ มากกว่าที่เป็นอยู่ อันจะเป็นแนวทางให้เห็นการกำหนด รูปแบบการพัฒนาที่ยั่งยืน มีทิศทางและตรงประเด็นในการแก้ปัญหา กลุ่มคนในแถบชายแดนไทยและพม่า การศึกษาพัฒนาการสังคมชีวิตชาวกะหร่าง พบว่าชาวกะหร่างมี ประวัติศาสตร์ชุมชนที่ยิ่งใหญ่ ที่ทุกเนื้อหาของประวัติศาสตร์ แฝงไว้ด้วยการต่อสู้อย่างทรหด กล้าหาญและมีหวัง การยืนหยัดโดย ไม่ประหวั่นพรั่นพรึง การสูญเสีย และความตายอันมากล้น แต่ก็มี การสืบสานต่อเจตนาจากกลุ่มสายเลือดรุ่นเยาว์ ที่ส่งทอดกันเอา ไว้ในหุบเขาอันกว้างใหญ่ของลุ่มน้ำตะนาวศรี แม่กษัตริย์และเมย ท่ามกลางสถานการณ์อันอึดอัด กดดันและอับจนหนทางและมีภัยของชาว กะหร่างนั้น พบต่อไปอีกว่ากลุ่มชนชาวกะหร่างมีวิถีทางการเมือง และสังคมที่เข้มแข็ง มีจิตสำนึกและจิตใจอันทรหด ทำการต่อสู้ กองทัพแห่งสหภาพพม่าจนวินาทีสุดท้ายแห่งชีวิต แต่การไม่มี เส้นทางติดต่อทางทะเล ทำให้ประสบความอ่อนแอทางเศรษฐกิจอย่าง หนัก วิถีการผลิตและการแลกเปลี่ยนล่มสลายลงกับนโยบายสี่ตัดของ สี่ตัดของสหภาพพม่า คือตัดขาดการคมนาคม ตัดขาดการส่งเสบียงและขอความช่วยเหลือ ทำลายและตัดขาดกำลังผลออกจากกันเป็นส่วนๆ และทำลายชุมชนและ เครือข่ายทางการเมืองทั้งปวง ทำให้เมืองและหมู่บ้านของชาวกะ หร่างถูกทำลายจนล่มสลาย ชาวกะหร่างทั้งหลายต้องหลบซ่อนอยู่ใน ป่า เร่ร่อนตามแนวชายแดนและอพยพเข้าสู่ประเทศไทย ผู้คนทั้งหลาย อดอยาก เจ็บป่วยและอยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด ไร้ที่พักพิง สร้างปัญหาทางสังคมให้กับประเทศไทยต่อไปอย่างไม่จบสิ้น แม้ชุมชนชาวกะหร่างจะถูกทำลาย เครือข่ายทางสังคมถูกตัดขาด แต่ การแปลกแยกกับชาวพม่ามาช้านาน ทำให้ชาวกะหร่างเลือกที่จะต่อสู้ เพื่อเอกราชร่วมกับสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงที่มีการเกณฑ์ทหารและ ใช้วิธีการทางจิตวิทยารวบรวมมวลชนตามหุบเข่าต่างๆ โดยอาศัยวิถี วัฒนธรรมกะเหรี่ยงและกะหร่างเป็นแกนประสานการสร้างความสัมพันธ์ การยืนหยัดสู้อย่างทรหดมากกว่า 50 ปี ของรัฐบาลกะเหรี่ยงอิสระ ทำให้ยังมีมวลชนชาวกะเหรี่ยงและกะหร่างจำนวนมากยังจงรักภักดี ต่อสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง และยังมุ่งหวังในการเป็นรัฐเอกราช ไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าการต่อสู้จะ ดำเนินไปอย่างโดดเดี่ยวในเวทีการเมืองระหว่างประเทศก็ตาม
มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ.
Address:
ราชบุรี
Email:
arit@mcru.mail.go.th
Role:
ผู้ให้ทุนวิจัย
Created:
2547
Modified:
2549-06-11
งานวิจัย/Research report
application/pdf
CallNumber:
Res 305.895 ส779ก
tha
Spatial:
ไทย
Spatial:
พม่า
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
RightsAccess:
ใช้เวลา
0.039049 วินาที
สุทิน สนองผัน
มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง