ค่านิยมและพฤติกรรมต้นแบบใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ตามแนวพุทธจิตวิทยา บูรณาการของสามเณร

Name: กมลาศ ภูวชนาธิพงศ์

Organization : ผู้วิจัย

Name: พระมหานันทวิทย์ แก้วบุตรดี

Organization : ผู้วิจัย

keyword: สามเณร

; พุทธจิตวิทยาบูรณาการ

; พฤติกรรมต้นแบบ

Abstract: การวิจัยนี้จุดมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและพฤติกรรมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ตามแนวพุทธจิตวิทยาของสามเณร 2) เพื่อพัฒนากระบวนการสร้างค่านิยมและพฤติกรรมต้นแบบการใช้เครื่อข่ายสังคมออนไลน์ตามแนวพุทธจิตวิทยาของสามเณร 3) เพื่อศึกษาผลของการเปลี่ยนแปลงค่านิยมและพฤติกรรมต้นแบบการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ตามแนวพุทธจิตวิทยาของสามเณรกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ สามเณรโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญ จังหวัดน่าน ระดับมัธยมที่ 3 โดยมีสามเณรที่อาสาสมัครเข้าร่วมฝึกอบรม จำนวน 78 รูป สุ่มแบบแยกประเภท (Stratified random sampling)ตามระดับพฤติกรรมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์เป็น กลุ่มๆละ 26 รูป แบ่งเป็น กลุ่มทดลอง A ทำการฝึกอบรมรูปแบบที่ 1 จำนวน วัน และทำโครงงาน ระยะเวลา 3 เดือน กลุ่มทดลอง B ทำการฝึกอบรมรูปแบบที่ 2 ทำการฝึกอบรม จำนวน 3 วัน และกลุ่มควบคุมไม่ การฝึกอบรม การวิจัยครั้งนี้ออกแบบการวิจัยในลักษณะการวัดซ้ำ (Repeated Measure Design) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบวัดความรู้ความเข้าใจในการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ 2) แบบวัดความมีเหตุผลในการคิด 3) แบบวัดค่านิยมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ 4) แบบวัดการควบคุมตนเองต่อการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ และ 5) แบบวัดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ วิธีการวัด 4 ครั้ง ได้แก่ ก่อนการทดลอง ภายหลังการฝึกอบรมระยะที่ 1 ภายหลังการฝึกอบรมระยะที่ 2 (ฝึกทำโครงการ ระยะเวลา เดือน) และหลังการทดลองเพื่อติดตามผลการทำโครงงาน (Project based learning) 1 เดือน หลังจากนั้นนำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนหลายตัวแปรแบบวัดซ้ำ (Repeated measures ANOVA) ผลการวิจัยพบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างสามณรส่วนใหญ่มีการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ในทางไม่ถูกต้องและสร้างสรรค์ผ่านโทรศัพท์มือถือ เช่น เฟซบุ๊ก (facebook) ไลน์ (ine) ยูทูป (youtupe) โดยเฉลี่ยมากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อความบันเทิงมากกว่าแสวงหาความรู้ ได้แก่ เล่นเกมออนไลน์ สนทนากับเพื่อน การแชร์ข้อมูลต่างๆ ติดตามข่าวสารเพื่อน ตามลำดับ 2) การพัฒนากระบวนการสร้างค่านิยมและพฤติกรรมต้นแบบการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เหมาะสมตามแนวพุทธจิตวิทยาของสามเณร มี 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 "จุดเริ่มต้น..เตรียมความพร้อม" ขั้นตอนที่ 2 เปลี่ยนวิธีคิด...เปลี่ยนพฤติกรรม" ขั้นตอนที่ 3 "รู้ชัดในปัญหา...พบ แนวทางการแก้ไข" ขั้นตอนที่ 4 "ค้นพบศักยภาพของตนเอง" 3) รูปแบบฝึกอบรมที่เหมาะสมที่สุดในการสร้างค่นิยมและพฤติกรรมต้นแบบการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ตามแนวพุทธจิตวิทยา คือ รูปแบบการฝึกอบรมที่ 1 (กลุ่มทดลอง A) มีคะแนนเฉลี่ยมากกว่ารูปแบบการฝึกอบรมที่ 2 (กลุ่มทดลอง B) และกลุ่มควบคุมที่ไม่มีการฝึกอบรม คือ การเปลี่ยนแปลงค่านิยมและพฤติกรรมต่อการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เหมาะสม 4 ด้าน คือ ด้านเหตุผลในการคิด การควบคุมตนเอง ด้านค่นิยมการใช้เครือข่ายออนไลน์ และพฤติกรรมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ สูงกว่าก่อนรับการอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ .05 และ พบผลการเปลี่ยนแปลงเชิงประจักษ์ด้านต่งๆ ได้แก่ (1) การเปลี่ยนแปลงด้านความสนใจในการเรียน (2) การสร้างภาวะผู้นำในกลุ่ม (3) สร้างสมาชิกเครื่อข่ายผ่านกระบวนการกลุ่ม (4) การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางสังคม (5 การมีส่วนร่วมทำกิจกรรมที่ยั่งยืนในโรงเรียน และพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงค่านิยมและพฤติกรรมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ ในด้านต่างๆสูงขึ้น ได้แก่ (1) การใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ด้านกายภาพ (2) การใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ด้านสังคม (3) การใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ด้านจิตใจ (4) การใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ด้านปัญญา

Abstract: This objectives of this research were: 1)To study the state of problems and behavior of consuming in online social networks using integration of Buddhist psychology for novices 2) To develop the creating process of value and behavioral model of consuming in online social networks using integration of Buddhist psychology for novices and 3) To study the changing effect of value and behavioral model of consuming in online social networks using integration of Buddhist psychology for novices. The study sample consisted of 78 a novices participating in the program, studies in Grade 9 (Matthayom m) at the General Education Section of PhraPariyattidhamma Schools of Nan province. The random sampling were stratified random sampling based on the level of behavior of consuming in online social network and simple and they are divided into o groups which were the experimental group A; s days training and 3 months project, the experimental group B; only s days training and control group did not participate in any training, which consisting of ๒b novices in each group. This research design was Repeated Measure Design and the instruments used in this research were 1) Cognitive measurement of online social networkusing 2) Rationality of thinking measurement 3) Value of using in online social network measurement 4) Self-control measurement of online social networkusing 5) .Online social network using behavior change measurement. The four measures were pre-test, post-training phase 1, post-training phase 2 (after 3 months project), and post-test for follow-up. The data obtained from this experiment were analyzed to test the hypothesis using Repeated measures ANOVA The results of research as follow: 1) Most novices were using social networks in an inaccurate and not creative way via mobile phones, such as facebook, line, youtube, on average more than m hours per day and they used for entertainment rather than seeking knowledge including online gaming, chatting with a friend, sharing information andfollow up with friends, respectively. 2) The development of the process of creating values and behavioral modelconsuming the appropriate online social network integration of Buddhist psychology of the novice has a steps; step 1 "Starting point preparation", Step b "Change mindset change behavior", step m "'Enlightened in troublefind solution" and step e "Discover your potentiaL 3) The most appropriate model of training for creating values and behaviors of consumimg social networks integration of Buddhist psychology was the training model of experimental group A which had an average score over the experimental group B) and control group without training. The changes in values and behaviors towards the use of appropriate social networks were four aspects of rational thinking,self-control, value of using online networks and behaviorsof using social networks whichwas higher than before the trainine at the .05 level of significance. The results of the empirical changes include: (1) Change in interest in learning (2) creating leadership in the group (3) creating network members through group processes(4) social behavior modification (5) participation in sustainable activities in schools. Moreover, also found that there was a higher change in the behavior of using social networks in aspects of (1) The use of physical online social networks (2)The use of social networks, (3) The use of psychological online social networks and (4) The use of Intellectualonline social networks

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ส่วนหอสมุดกลาง

Address: พระนครศรีอยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย MCU RS 610759133

Role: ผู้ให้ทุน

Modified: 2566-04-05

Issued: 2566-04-05

งานวิจัย/Research report

application/pdf

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	2559-133 ผศ.ดร.กลาศ ภูวชนาธิพงศ์.pdf	5.14 MB	35	2025-02-28 22:07:01

ใช้เวลา

0.032081 วินาที