การพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยในครอบครัวแหว่งกลางของผู้ดูแลจังหวัดชัยภูมิ

The Development of an enhancing competency model for early childhood rearing among the caregiver’s skipped-generation families in Chaiyaphum Province

Name: ยุภดี สงวนพงษ์

Organization : มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา. คณะสาธารณสุขศาสตร์.

keyword: สมรรถนะการอบรมเลี้ยงดู

; ผู้ดูแล

; ครอบครัวแหว่งกลาง

; เด็กปฐมวัย

Abstract: การวิจัยครั้ง นี้เป็นการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์การอบรมเลี้ยงดูเด็กในครอบครัวแหว่งกลางของผู้ดูแล พัฒนารูปแบบ และประเมินรูปแบบ แบ่งการวิจัยได้ 3 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ศึกษาสถานการณ์ปัจจุบันเกี่ยวกับสมรรถนะการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยในครอบครัวแหว่งกลางของผู้ดูแลจังหวัดชัยภูมิ เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี 1) การวิจัยเชิงคุณภาพ จากการสัมภาษณ์เชิงลึก จากผู้ให้ข้อมูลจำนวน 20 คน พบว่า (1) ผู้ดูแลมีปัญหาค่าใช้จ่าย โรคประจาตัว การใช้เวลาคุณภาพกับเด็ก และ การป้องกันโรคติดต่อ (2) ผู้ดูแลขาดการส่งเสริมพัฒนาการเด็กตามวัย (3) การอบรมเป็นรูปแบบผสม (4) ขาดข้อมูลด้านสุขภาพของเด็ก และ (5) เด็กมีโอกาสการเข้าสถาบันการศึกษา 2) วิจัยเชิงปริมาณจากกลุ่มตัวอย่าง คือผู้ดูแล จำนวน 400 คน จากแบบสอบถามสมรรถนะการอบรมเลี้ยงดูเด็กได้แก่ ด้านความรู้ ด้านทักษะ และด้านทัศนคติ และแบบสอบถามรูปแบบการอบรมเลี้ยงดูเด็กพบว่า สมรรถนะของผู้ดูแลด้านความรู้อยู่ในระดับสูง ( X = 0.86, S.D. = 0.09) ด้านทักษะ อยู่ในระดับมาก ( X =2.49, S.D. = 0.13) ด้านทัศนคติอยู่ในระดับปานกลาง ( X = 2.24,S.D. = 0.26) การเปรียบเทียบความแตกต่างของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ดูแลกับสมรรถนะการอบรมเลี้ยงดูเด็ก พบว่า รายได้ และโรคประจาตัวของผู้ดูแล มีความแตกต่างกับภาพรวมสมรรถนะของผู้ดูแล ที่ระดับนัยสาคัญทางสถิติ .05 ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะของผู้ดูแล จากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน จากการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ด้วยกระบวนการ PAOR ได้ดาเนินการวิจัย 2 วงรอบจนได้รูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะการอบรมเลี้ยงดูเด็ก ชื่อว่า CARE Model ประกอบไปด้วย(1) แนวคิดสาคัญ (2) กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ (3) การสะท้อนคิดเกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็กตามสมรรถน และ (4) การประเมินผล มีค่าเฉลยี่ ความเหมาะสมของรูปแบบ เท่ากับ 4.19 อยู่ในระดับดี ระยะที่ 3 เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง โดยแบ่งกลุ่มตัวอย่างเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม จำนวนกลุ่มละ 30 คน เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบ CARE Model กับกลุ่มทดลอง ทาการเปรียบเทียบความแตกต่างกันของระดับคะแนนก่อนและหลังทาการทดลองภายในกลุ่มด้วยสถิติ Paired t-test และระหว่างกลุ่มด้วยสถิติ Independent t-testผลการเปรียบเทียบรูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะของผู้ดูแลภายในกลุ่มทดลอง ก่อนและหลังทาการทดลอง มีความแตกต่างกันของระดับคะแนนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติทรี่ ะดับ .05 และผลการเปรียบเทียบคะแนนสมรรถนะการอบรมเลี้ยงดูเด็กของผู้ดูแลของกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุมหลังทาการทดลอง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ.

Address: นครราชสีมา

Email: library@nrru.ac.th

Name: ธนิดา ผาติเสนะ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก

Name: พุฒิพงศ์ สัตยวงศ์ทิพย์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม

Created: 2565

Modified: 2566-03-21

Issued: 2566-03-21

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

Spatial: ชัยภูมิ

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

DegreeName: สาธารณสุขศาสตรดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	content.pdf	2.23 MB	22	2025-09-02 09:23:25
2	Chapter1.pdf	2.86 MB	25	2025-09-02 09:23:56
3	Chapter2.pdf	20.45 MB	29	2025-09-02 09:24:04
4	Chapter3.pdf	8.26 MB	20	2025-09-02 09:24:21
5	Chapter4.pdf	13.08 MB	16	2025-09-02 09:24:31
6	Chapter5.pdf	4.34 MB	15	2025-09-02 09:24:44
7	reference.pdf	3.62 MB	15	2025-09-02 09:24:54
8	appendix.pdf	32.44 MB	17	2025-09-02 09:25:02
9	biodata.pdf	404.38 KB	9	2025-09-02 09:25:29
10	Titlepage.pdf	3.16 MB	13	2025-09-02 09:25:37
11	abstract.pdf	1.46 MB	17	2025-09-02 09:26:10
12	acknowledgement.pdf	398.75 KB	10	2025-09-02 09:26:19

ใช้เวลา

0.032257 วินาที