การพัฒนารูปแบบการฝืกอบรมแบบผสมผสานโดยใช้การเรียนรู้ปัญหาเป็นฐานผ่านแชทบอทเพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาของบุคลากรในสถานประกอบการ

Development of blended training model by problem-based learning via chatbot to enhance problem-solving skill of personnel in the workplace

Name: วริษฐา แสงฤทธิ์

ThaSH: การเรียนรู้แบบผสมผสาน

ThaSH: กลุ่มสนทนาออนไลน์

Abstract: การวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อการพัฒนารูปแบบการฝึกอบรมแบบผสมผสานโดยใช้การเรียนรู้ปัญหาเป็นฐานผ่านแชทบอท เพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาของบุคลากรในสถานประกอบการโดยมีขั้นตอนการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ขั้น คือ 1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรูปแบบการฝึกอบรมแบบผสมผสานโดยใช้การเรียนรู้ปัญหาเป็นฐานผ่านแชทบอทเพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาของบุคลากรในสถานประกอบการ 2) การพัฒนารูปแบบการฝึกอบรมแบบผสมผสานโดยใช้การเรียนรู้ปัญหาเป็นฐานผ่านแชทบอทเพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาของบุคลากรในสถานประกอบการ 3) การศึกษาผลของการใช้รูปแบบการฝึกอบรมแบบผสมผสานโดยใช้การเรียนรู้ปัญหาเป็นฐานผ่านแชทบอทเพื่อพัฒนาทักษาะการแก้ปัญหาของบุคลากรในสถานประกอบการและ 4) การประเมินผลการฝึกอบรมแบบผสมผสานโดยใช้การเรียนรู้ปัญหาเป็นฐานผ่านแชทบอทเพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาของบุคลากรในสถานประกอบการกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองศึกษาผลคือ บุคลากรฝ่ายเทคนิคในสถานประกอบการผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ซองอ่อนในประเทศไทยจำนวน 20 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น โดยใช้ระยะเวลาทั้งหมด 2 เดือน แบ่งเป็นระยะเวลาการทดลอง 1 เดือนและระยะติดตามผลอีก 1 เดือนสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ Repeated Measures ANOVA ผลการวิจัยพบว่า 1)องค์ประกอบของรูปแบบการฝึกอบรมแบบผสมผสานโดยใช้ปัญหาเป็นฐานผ่านแชทบอทเพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาของบุคลากรในสถานประกอบการ ประกอบด้วย 6 ขั้นตอนหลักในการฝึกอบรมคือ 1) การกำหนดกลุ่ม 2) การระบุปัญหา 3) การสร้างแนวคิด 4) การเรียนรู้ 5)การนำไปใช้งาน 6)การประเมินผล โดยผู้เชี่ยวชาญประเมินว่ารูปแบบการฝึกอบรมที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมมาก โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.65 และมีประสิทธิภาพ E₁/E₂ เท่ากับ 76.1/78.2 เป็นไปตามเกณฑ์ 75/75 ที่กำหนด 2)บุคลากรในสถานประกอบการที่ผ่านการฝึกอบรมผสมผสานที่พัฒนาขึ้นมีทักษะการแก้ปัญหาหลังเข้ารับการฝึกอบรมสูงขึ้นกว่าก่อนเข้ารับการฝึกอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จากร้อยละ 54.6 ไปเป็นร้อยละ 70.2 และทักษะการแก้ปัญหาในระยะติดตามหลังเสร็จสิ้นการฝึกอบรม 1 เดือนไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 กับทักษะการแก้ปัญหาหลังการฝึกอบรม ที่ร้อยละ 68.5 3)การประเมินการฝึกอบรมโครงการ 4 ด้านตามแนวทางของ เคิร์ก แพททริก คือ ด้านปฏิกิริยาตอบสนองผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.55, SD = 0.33) ด้านความรู้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีทักษะการแก้ปัญหาที่สูงขึ้นก่อนเข้ารับการฝึกอบรม คิดเป็นร้อยละ 54.6 ไปเป็นร้อยละ 70.2 ด้านพฤติกรรมผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.45, SD = 0.31) และด้านผลลัพธ์การฝึกอบรมให้ผลลัพธ์ต่อองค์กรอยู่ในระดับดีมากที่สุด(x̄ = 4.56, SD = 0.38)

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: Lifelong@kmitl.ac.th

Name: ฉันทนา วิริยเวชกุล

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Name: ไพฑูรย์ พิมดี

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม

Email : paitoon.pi@kmitl.ac.th

Created: 2565

Modified: 2566-03-16

Issued: 2566-03-16

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ครุศาสตร์อุตสาหกรรมดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: ครุศาสตร์อุตสาหกรรม

Grantor: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

©copyrights สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Waristha Saengrith.pdf	5.49 MB	64	2025-10-14 12:44:03

ใช้เวลา

0.022061 วินาที